กระแสเกมยากหรือท้าทายในยุคปัจจุบันคงไม่มีเกมเมอร์คนไหนที่จะกังขาถึงความนิยม ไม่ว่าจะเป็นเกมตระกูล Souls Like อย่าง Elden Ring และ Sekiro ที่ได้รางวัลเกมยอดเยี่ยม หรืออย่างล่าสุดกับ Wo Long Fallen Dynasty และ อีกเกมอินดี้ที่ได้รางวัลเช่นกันอย่าง Hades แต่เมื่อเดือนก่อน เกม Exclusive จาก PS5 ก็ได้ถูกพอร์ตลง PC แล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเกม ๆ นี้ ถือเป็นเกมที่เข้าข่ายความยากและท้าทายที่เกมเมอร์หลายคนขนานนามถึงความโหดหินไม่แพ้เกมตระกูล Souls วันนี้พวกเรา Online Station จะมารีวิวเกมนี้บนเวอร์ชั่น PC ให้ได้รับชมกัน และนี่คือ Returnal PC Review ครับ
ตัวเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมนั้นวางจำหน่ายบนเครื่อง Playstation 5 ตั้งแต่ปี 2021 ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากเกมเมอร์ และสื่อทั่วโลก ส่วนบนเวอร์ชั่น PC นั้นวางจำหน่ายไปเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีให้เลือกซื้อทั้งบน Steam และ Epic Games Store ที่สำคัญคือตัวเกมนั้นรองรับคอนโทรลเลอร์เต็มรูปแบบบน PC ซึ่งของฝั่ง Steam นั้น มี Config แบบอัตโนมัติที่ตั้งปุ่มไว้ให้ด้วย และอาจจะด้วยความที่ตัวเกมนั้นเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 จึงลดความมึนหรืออาการ Motion Sickness สำหรับคนที่เล่นเกมประเภท First Person Shooting แล้วมึนหัวได้ในระดับหนึ่ง จึงทำให้เกมเมอร์หลายคนกล้าที่จะลองสัมผัสเกมนี้กัน และก็พบว่ามันดี และเจ๋งมาก ๆ เกมหนึ่งอย่างไม่อาจปฏิเสธ
เนื้อเรื่อง
Returnal นั้นว่าด้วยเรื่องราวของ Selene นักบินอวกาศที่โชคร้าย ยานของเธอดันเกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องลงจอดแบบฉุกเฉินบนดาว Atropos ผลจากการออกสำรวจดาวดวงนี้ทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องราวสุดสะพรึงที่เกินขอบเขตการรับรู้ทั่วไปของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นศพของนักบินอวกาศที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเธอเอง รวมไปถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่มันไม่ควรจะมาอยู่บนดาวดวงนี้ และที่สำคัญ คือหลังจากที่เธอเสียชีวิตหลังจากการออกสำรวจ เธอจะตื่นขึ้นมาข้างๆ ยาน และทุกอย่าง จะเริ่มนับหนึ่งใหม่
แน่นอนว่าผมคงไม่สามารถสปอยเนื้อเรื่องอะไรได้มากมาย แต่โดยรวมแล้วมันคือ Sci-Fi Horror ที่เล่นเรื่องราวของความสับสนภายในจิตใจ ประกอบกับบรรยากาศของความอึมครึมและลึกลับ รวมไปถึงตั้งแง่คำถามกับความไม่รู้ของผู้เล่น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องปะติดปะต่อเองผ่านภาพที่ตัวเกมนำเสนอ รวมไปถึงเอกสารต่างๆ ภายในเกม
เสียง
ในเรื่องของเสียงหรือซาวด์ประกอบ ผมจะขอยกเรื่องของเพลงประกอบที่มันเป็นมาตรฐานของเกมระดับนี้อยู่แล้วออกไป เพราะมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับบนเวอร์ชั่น PS5 แต่ก็ต้องระบุเพิ่มเติมนิดหน่อยว่า ถ้าหากคุณมีอุปกรณ์ที่รองรับเสียงแบบรอบทิศทาง หรือเทคโนโลยีประเภท Dolby Atmos เกม Returnal นี้มีความพรีเมี่ยมในจุดนี้อยู่ ซึ่งมันเพิ่มความสมจริงและความมีชีวิตชีวาของโลกภายในเกมได้เป็นอย่างดี การเล่นของคุณจะมีอรรถรสมากขึ้นพอสมควรเลยละครับ
กราฟิก
สำหรับกราฟิกของ Returnal เวอร์ชั่น PC นั้นก็ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ บรรยากาศของแต่ละดินแดนนั้นมีความลึกลับ น่าค้นหา น่าสำรวจ แถมยังทำการแยก Object หรือจุดสำคัญต่างๆ ได้ค่อนข้างชัดเจนด้วยสีที่โดดเด่นซึ่งตัดกับบรรยากาศ ส่วนในเรื่องของ Performance ก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายนัก ถ้าหากวัดด้วย Spec ขั้นแนะนำที่ทางผู้พัฒนาระบุไว้แล้วปรับกราฟิกระดับสูง ผลการรันตัว Benchmark นั้นก็ถือว่ามี Performance ที่ดีอยู่ รันที่ 60 fps ค่อนข้างนิ่ง ถึงแม้ว่าในการเล่นจริงจะมีอาการเฟรมร่วงหนักเป็น 10 เฟรมอยู่บ้างเวลาเจอกับศัตรูในฉากกว้างๆ แต่มันก็ไม่ได้ถึงขั้น Stuttering หรือมีอาการกระตุกแบบเกมค้าง สรุปแล้วโดยรวมแล้วมันก็เป็นมาตรฐานของเกมระดับนี้ล่ะครับ
นอกจากนี้ ตัวเกมยังรองรับอัตราส่วน 16:10 / 21:9 รวมไปถึง 32:9 ด้วย และถ้าหากใครอุปกรณ์ถึง ก็สามารถปรับ Resolution เป็น 4K ได้เช่นกัน ซึ่งหลายๆ คนที่เล่นบน PC ก็น่าจะพอกะกันได้นะครับว่าสเปค PC ของเครื่องตัวเองนั้นเล่นได้ถึงระดับใด
เกมเพลย์
มาถึงเรื่องสำคัญอย่างเกมเพลย์กันบ้าง ก็ต้องบอกย้ำกันอีกทีนะครับว่าตัวเกมนั้นไม่ง่าย ไม่มีระดับความยากให้เลือก ดังนั้นถ้าหากใครไม่ชอบความซ้ำซากของการเกิดตายวนเวียน เกมนี้ก็อาจจะไม่เหมาะ แต่ถ้าหากคุณชอบอะไรที่ท้าทาย ได้รับประสบการณ์ผ่านการเรียนรู้จากการตายในแต่ละครั้งเหมือนกับเกมสุดโหดชื่อดังต่าง ๆ ในตลาด ก็ถือว่าเกมนี้ ให้ประสบการณ์ในแง่นั้นไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรูปแบบของเกม Action มุมมองบุคคลที่ 3 ที่เป็นลูกผสมระหว่างเกม Shooting Bullet Hell และ Rogue Like ก็ตาม
สาระสำคัญของเกมนี้คือการออกลุยไปในดวงดาว Atropos ที่ซึ่งมีหลายภูมิภาคให้สำรวจ ซึ่งแต่ละภูมิภาคนั้นก็จะมีศัตรูที่แตกต่างออกไปด้วย โดยตัวเกมนั้นจะวางเควสหลักให้ผู้เล่นจดจ่ออยู่เพียงแค่อย่างเดียว แต่แน่นอนว่าการจะไปถึงเป้าหมายหลักนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะระหว่างทาง ผู้เล่นจะเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย ทั้งศัตรูหลากชนิด ตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ จนถึงบอส ตลอดจนกับดักต่าง ๆ รวมไปถึงความซับซ้อนของแผนที่ ซึ่งถ้าหากอ้างอิงจากเกมสไตล์ Rogue Like แบบง่าย ๆ มันก็คือการเดินสุ่มไปยังห้องต่างๆ เพื่อฟาร์มของ ฟาร์มไอเทมให้ตัวละครของเราแข็งแกร่งที่สุดในรอบนั้นๆ เพื่อไปจัดการบอส แล้วผ่านไปยังด่านต่อไป นี่คือคอนเซปต์หลัก ๆ ของเกมนี้
ทีนี้ ถ้าหากจะให้เจาะลึกลงไป หลายคนก็น่าจะเข้าใจว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ถึงแม้จะมีเควสให้ทำทีละเควส แต่ความซับซ้อนมันจะไปอยู่ที่รายละเอียดระหว่างทาง และสิ่งที่พาให้หัวร้อนก็คือระบบ Adrenaline ซึ่งมันจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เรากำจัดศัตรูหรือหลบหลีกอันตรายต่าง ๆ ได้ โดยในช่วงต้นเกม จะมีสูงสุดที่เลเวล 5 ข้อดีของมันก็คือค่านี้ยิ่งสูง ตัวละครรวมไปถึงอาวุธของเราจะยิ่งแข็งแกร่ง พูดง่าย ๆ มันก็คือบัฟอย่างหนึ่งที่ทำให้เกมง่ายขึ้นมาหน่อย โดยแต่ละเลเวลนั้น มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ดังนี้
เลเวล 1 ทำให้การ perfect reload ที่ในเกมเรียกว่า overload ง่ายขึ้น
เลเวล 2 ช่วยให้เห็นศัตรูเป็นคลื่นเวลาอยู่หลัง object หรือที่กำบัง
เลเวล 3 ช่วยให้การโจมตีแบบ melee รุนแรงขึ้น แถมลด cooldown ด้วย
เลเวล 4 เพิ่มค่าความชำนาญของอาวุธ ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้เราปลดความสามารถของอาวุธปืนที่เก็บมาได้ไวขึ้น เนื่องจากปืนกระบอกใหม่ที่ผู้เล่นเก็บมา จะต้องนำไปใช้จัดการศัตรูเพื่อปลดล็อคใหม่ด้วย
เลเวล 5 เพิ่มแร่ Obolite หรือหน่วยเงินภายในเกมที่ดรอปจากการกำจัดศัตรู ซึ่งถ้าหากผู้เล่นมีแร่นี้มากพอ ระหว่างทางก็สามารถนำมันไปแลกไอเทมหรือ Artifact ดีๆ มาทำให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้นได้
ซึ่งแน่นอนว่า ค่า Adrenaline นี้จะถูกรีเซ็ตไปที่เลเวล 0 เมื่อตัวละครของเรา ถูกโจมตีหรือโดนความเสียหาย เพียงทีเดียว ซึ่งถ้าหากมันเกิดขึ้น คุณต้องเริ่มเก็บมันใหม่
และถ้าหากตัวละครของเราตาย ทุกอย่างที่เราเก็บมา ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืน Consumable รวมไปถึง Artifact ที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นทุกชิ้น จะหายหมด ทุกเส้นทางที่เราเดินผ่านมา จะถูกรีเซ็ตและทำการสุ่มใหม่ทั้งหมด แต่ก็จะมีของสำคัญบางอย่าง ที่ถ้าหากเราเก็บมาได้ พอเริ่มใหม่ มันจะยังคงอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่พวกอาวุธนะครับ หลัก ๆ แล้วจะเป็นไอเทมที่ช่วยให้เราเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น และทำให้การเล่นใหม่ของเราในรอบนั้น ไวขึ้นกว่าเมื่อครั้งที่เล่นแรก ๆ นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น ก็เพราะสมมติว่า เราสามารถปราบบอสใน World แรกได้แล้ว เล่นไปจนถึง Wolrd 2 แล้วพลาดท่าตายไป ตัวเกมจะให้เรามาเกิดที่ยาน แล้วเริ่มวิ่งจาก World แรกใหม่ ฟาร์มใหม่ เก็บไอเทมใหม่นั่นเอง
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องชมของเกมนี้ก็คือกันเพลย์ที่ค่อนข้างสนุก ผสมกับการกระโดดหลบและ Dash หลบซ้ายขวาหน้าหลัง พร้อมกับเหล่าศัตรูที่ปล่อยกระสุนมาเป็นห่าฝน ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันทำให้ตัวเกมมันสนุก ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับบอส ที่ขอบอกเลยว่า โหดทุกตัว แถม Replay Value ก็มีอยู่หน่อย ๆ เพราะมีฉากจบมากกว่า 1 แบบ มันก็ชวนให้เราอยากรู้ฉากจบที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร จะมีข้อเสียอยู่หน่อยก็คือ การสำรวจของเกมนี้ทำได้ค่อนข้างยาก และบางทีก็วัดดวงพอสมควร เพราะบางรอบ แผนที่สุ่มมามีแต่ประเภทห้องที่ซับซ้อน มันก็เป็นอะไรที่น่ารำคาญอยู่นิดๆ การสำรวจความลับของเกมจึงค่อนข้างทำได้ลำบากพอสมควรครับ
อ้อ…ขอทิ้งท้ายไว้อีกสักนิด ตัวเกมนั้นมีระบบ Co-op กับเพื่อนได้สองคน มีซับไตเติลบทพูดภาษาไทย และถ้าหากใครมี controller dual sense ของ PS5 ก็สามารถใช้เล่นกับบนเวอร์ชั่น PC นี้ได้เต็มรูปแบบ ได้ฟีเจอร์ Haptic Feedback เหมือนบนเวอร์ชั่น PS5 ทุกประการครับ
คะแนน
8/10
อ้างอิงข้อมูลจาก
Online Station
รูปภาพจาก
https://wccftech.com/returnal-pc-port-impressions-hello-stutter-my-old-friend/
store.steampowered.com
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
