ห่างหายมานานถึง 3 ปีเศษ ในที่สุดเกม River City Girls 2 ภาคต่อของเนื้อเรื่องสปินออฟจากซีรีส์คุนิโอะคุงก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายเสียที โดยภาคนี้ก็ยังคงเป็นการผจญภัยของมิซาโกะ (Misako) และ เคียวโกะ (Kyoko) สองสาวคนรักของคุนิโอะกับริคิเช่นเคย ซึ่งทางทีมงาน Online Station ก็ไม่พลาดที่จะมารีวิวเกมดังกล่าวให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันอีกเช่นเคยครับ
แพลตฟอร์ม: PS5, PS4, Xbox Series X|S, Xbox One, Switch, PC (ทีมงานรีวิวจากเวอร์ชั่น PS5)
ผู้พัฒนา: WayForward
แนวเกม: แอ๊กชั่น (Beat ’em up) / RPG
วางจำหน่าย: 15 ธันวาคม 2022
เนื้อเรื่องสูตรสำเร็จ
พล็อตของเกมภาค 2 นี้จะเป็นเหตุการณ์หลังจากภาคแรกไม่นานนัก เมื่อ ซาบุ (Sabu) วายร้ายจากภาคแรกที่โดนจับเข้าซังเตได้ทลายกำแพงแหกคุกออกมาด้วยตัวเอง และมีแผนที่จะล้างแค้นพวกคุนิโอะอีกครั้ง นี่คือภาพรวมของเนื้อเรื่องที่แสนจะแนวธรรมะชนะอธรรม ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในความเรียบง่ายที่ทำสืบเนื่องกันมาตลอดของเกมสไตล์ Beat ’em up เรียกว่ามองจากดาวอังคารก็เดาทางได้เลยว่าจะจบยังไง ด้วยเหตุนี้สิ่งที่เราควรจะสนใจจึงเป็นด้านเกมเพลย์และองค์ประกอบอื่น ๆ นั่นเอง
ระบบเกมแบบดั้งเดิมที่เพิ่มการอัปเกรดแบบ RPG
ในสมัยก่อนนั้น เกมแนวต่อยตีลุยด่านก็จะมีการโจมตีให้ใช้อยู่ไม่กี่แบบ รวมถึงท่าทุ่มและท่าพิเศษ เช่น Final Fight ที่มีท่าโจมตีรอบตัวที่เมื่อใช้แล้วจะเสียพลังชีวิตเล็กน้อย อีกทั้งตัวละครของเราก็จะเก่งเท่าเดิมตั้งแต่ด่านแรกยันด่านสุดท้าย ไร้ซึ่งพัฒนาการของตัวละคร นั่นเลยทำให้ตัวเกมมีวิธีเล่นไม่หลากหลาย หากเล่นซ้ำไปก็จะเบื่อง่าย แต่เกมนี้จะมีแบ่งเป็นท่าโจมตีธรรมดาที่โจมตีคอมโบได้เป็นพื้นฐาน และก็มีท่าโจมตีแรงที่ใช้ปลดคอมโบ นอกจากนี้ยังมีเกจพลังที่ใช้ออกท่าพิเศษด้วย โดยเกจพลังจะฟื้นเรื่อย ๆ เมื่อเราทำการโจมตีจึงสามารถสลับกันใช้ร่วมกับการโจมตีธรรมดาได้
ทั้งนี้ ท่าพิเศษของตัวละครแต่ละตัวจะแตกต่างกัน และเราจะเรียนรู้ท่าได้เพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลอัป โดยบางท่าก็จะนำมาใช้ได้ทันที แต่บางท่าก็ต้องไปซื้อที่โรงฝึก ยิ่งตัวละครของเรามีเลเวลสูงขึ้นก็จะออกท่าได้หลากหลาย ประยุกต์การโจมตีได้หลายรูปแบบ ยิ่งเล่นไปเรื่อย ๆ จะยิ่งสนุกขึ้น อีกทั้งเลเวลของตัวละครจะมีผลกับความสามารถพอสมควร เพราะนอกจากจะได้ท่าใหม่มาในการเลเวลอัปแต่ละครั้งแล้ว ค่าพลังของตัวละครก็จะเพิ่มตามเลเวลด้วย มิหนำซ้ำหากเรามีตัวละครที่เราไม่ค่อยได้ใช้ ตัวละครเหล่านั้นก็จะยังได้รับ EXP และเงินจำนวนหนึ่ง ช่วยให้พออัปเลเวลตามตัวละครที่เราใช้บ่อยได้อยู่
แปรพักตร์เหล่าศัตรู
เกมนี้จะมีลูกเล่นในการเอาตัวละครศัตรูมาเป็นผู้ช่วยได้ วิธีการก็คือให้กำจัดศัตรูตัวอื่นในฉากให้หมด จากนั้นให้โจมตีศัตรูตัวสุดท้ายที่เหลือจนใกล้ตายแล้วศัตรูตัวนั้นจะลงไปนั่งอ้อนวอนร้องขอชีวิต เราก็จะสามารถดึงมาเป็นพวกได้ ซึ่งศัตรูตัวไหนที่เราเคยดึงมาเป็นผู้ช่วยแล้วจะเรียกมาใช้ได้อีกที่บ้านหรือฐานของเรา
ทีนี้ การเรียกผู้ช่วยจะทำได้ 2 แบบ แบบแรกคือเรียกมาช่วยโจมตีสนับสนุน และอีกแบบคือเรียกมาช่วยเอาตัวรอด โดยผู้ช่วยที่เราชวนมาก็จะมีท่าโจมตีแตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงควรเฟ้นหาศัตรูที่มีท่าโจมตีดี ๆ แล้วดึงมาเป็นพวกก็จะช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้นเยอะ ซึ่งการเรียกผู้ช่วยมาช่วยเอาตัวรอดจะเป็นหนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยให้เรารอดพ้นการเกมโอเวอร์ได้ เพราะผู้ช่วยจะกระโดดออกมารับการโจมตีแทนเรา เนื่องจากศัตรูเกมนี้ทำคอมโบค่อนข้างถี่และหนัก ยิ่งถ้าโดนรุมก็จะยิ่งเสี่ยงตายได้ง่าย ๆ ผู้เล่นต้องหมั่นศึกษาศัตรูและการใช้ระบบนี้ให้ชำนาญไว้เป็นสิ่งแรก ๆ เลย
ระหว่างผจญภัยจะมีร้านค้ารายทางที่ขายของเสริมพลังให้ คล้ายกับเกมคุนิโอะดาวน์ทาวน์สมัยเครื่อง Famicom ที่ในเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ ที่มีไอเทมมาขายให้เรา อาทิ ร้านสะดวกซื้อที่ขายของกินแบบต่าง ๆ ซึ่งช่วยฟื้นพลังชีวิตและบัฟค่า Status บางอย่างแก่เราได้ นอกจากนี้ของกินเหล่านั้นยังสามารถเลือกกินได้ทันทีหรือจะเก็บไว้ในช่องไอเทมไว้กินยามคับขันก็ได้เช่นกัน เรียกว่าช่วยอำนวยความสะดวกเวลาลุยได้มาก
ศัตรูในเกมตั้งแต่ระดับลูกกระจ๊อกจนไปถึงระดับบอสมีความยากกว่าที่คิด แต่ละตัวจะฉลาด มีลูกเล่นแพรวพราวในการเคลื่อนไหว ไม่ค่อยออกท่าอย่างไร้ประโยชน์ แต่จะหาจังหวะพุ่งเข้าใส่ตอนที่เราเผลอเปิดช่องว่าง นอกจากนี้พวกมันยังใช้การเคลื่อนที่แนวระนาบได้อย่างดี ยิ่งถ้าศัตรูมาด้วยกันหลายตัวจะมีบางตัวที่พยายามเดินขึ้นหรือลงให้พ้นระยะโจมตีของเราและจงใจอ้อมไปด้านหลังเราแบบชัดเจน ซึ่งก็ทำให้เราต้องพะวงกับการที่จะโดนศัตรูล้อมหน้าหลังอยู่ตลอด
ส่วนในฝั่งของบอสนั้นก็จะมีท่าโจมตีคล้ายกับตัวผู้เล่นนี่แหละครับ แต่จะเพิ่มความถึกและเร็วปรู๊ดปร๊าดเข้ามา แถมเพิ่มท่าโจมตีที่เวอร์วังพอสมควร บางตัวเข้าขั้นเก่งระดับยอดมนุษย์ที่ทรงพลังจนทำให้คิดว่ามันน่าจะไปสู้กับพวกซูเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวลเลยดีกว่าไหม
ระบบแผนที่จัดว่าเป็นหนึ่งในข้อเสียร้ายแรงของเกมเลยก็ว่าได้ เพราะดันทำมาไม่ตรงกับสิ่งที่เราเห็นจริงบนหน้าจอ ซึ่งมันทำให้งงและสับสนอยู่บ่อย ๆ ว่าเส้นทางที่ต้องไปจริง ๆ นั้นมันคือทางไหนกันแน่ ส่วนข้อมูลและภารกิจในเกมนั้นจะแจ้งผ่านทางมือถือด้วยระบบที่คล้ายกับทวิตเตอร์ ซึ่งตอนแรกมันก็ดูแนวดีเหมือนเป็นไลฟ์สไตล์วัยรุ่นสมัยใหม่ แต่พอเรารับข้อมูลและภารกิจเข้ามาเยอะขึ้นก็กลายเป็นว่าอ่านไม่รู้เรื่องอีก อีกทั้งบางตัวก็ยังพิมพ์มาเป็นศัพท์แสลงแบบวัยรุ่นที่อ่านยากด้วย
ภาพรวม
ถ้าหากใครเคยเล่นเกมแนวนี้จากยุค 80-90 มาแล้วหรือสนใจที่จะลองเกมแนวลุยด่านต่อยตีที่มีให้เล่นน้อยในยุคปัจจุบัน River City Girls 2 ถือเป็นเกมที่ถูกนำมาปรับปรุง ประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งยังมีความเป็น RPG และมีมุกตลกขำขันที่เข้าถึงได้ทุกคน แต่ในแง่ของคนที่เคยเล่นภาคแรกมาแล้ว แม้ว่าเกมจะสนุกขึ้น มีตัวละครมากขึ้น แต่เมื่อมองโดยรวมก็อาจมีอะไรใหม่ ๆ ไม่มากพอเหมือนเกมยังโชว์ของได้ไม่สุดเท่าไหร่ หรือถ้าจะมองว่ามันเป็นแค่ Expansion ของภาคแรกก็ดูจะไม่เกินความจริงนัก
จุดเด่น
- แม้เนื้อเรื่องจะค่อนข้างสูตรสำเร็จไปหน่อย แต่การสอดแทรกมุกต่าง ๆ ค่อนข้างมีชั้นเชิงและทันสมัยไม่น้อยเลย
- งานภาพและกราฟิกดูสวยเก๋เหมือนได้ดูวิชวลโนเวลดี ๆ เรื่องหนึ่ง
- เควสต์ต่าง ๆ ให้ของตอบแทนและรางวัลที่คุ้มค่ากับการลงแรงไปทำ
- AI ศัตรูเข้าขั้นฉลาดเป็นกรด แถมเก่ง เล่ห์เหลี่ยมเยอะ เหมาะกับผู้เล่นที่แสวงหาความท้าทาย
จุดด้อย
- คุณภาพของเนื้องานดูไม่สมกับการเป็น “ภาคต่อ” เท่าไหร่นัก
- วิธีการปราบบอสหลายตัวค่อนข้างมีแพทเทิร์นที่จำเจเกินไป
- แผนที่และคำอธิบายเส้นทางทำมาค่อนข้างแย่
คะแนน 7
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net
