รีวิวหนัง แสบจารชนคนพลิกโลก – งัดศัตรูอีซี่ทั้งที่ไม่ใช่ซูเปอร์โซลด์เยอร์ด้วยซ้ำ

กาย ริทชี่ เป็นผู้กำกับที่เวลามีงานออกมาทีไร ผมมักจะจัดให้อยู่ในลิสต์ “ถ้ามีเวลาต้องหาดูอยู่เสมอๆ” เพราะชื่นชอบในจังหวะการเล่าเรื่องที่อุดมไปด้วยความยียวน และไดอาล็อกคำพูดสุดกวนประสาทยากจะหาใครเสมอเหมือน อย่าง King Arthur ซึ่งเป็นหนึ่งในลิสต์หนังเจ๊งของพี่แกก็เป็นภาพยนตร์ที่ผมชอบในลำดับต้นๆ และรู้สึกเสียดายอยู่เสมอที่มันไม่มีภาคต่อ ก็มีซันที่ยากจะลืมเลือนอยู่ไม่น้อย เฉกเช่นเดียวกับหนังรุ่นพี่ของมัน

อย่างไรก็ตามแม้แกจะมีความสามารถกำกับหนังไนหลากหลายสไตล์ แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่างานที่เข้าข้อกับตัวแกมากที่สุดก็เห็นจะเป็นแนวแอคชั่นแฝงอารมณ์ขันนี่แหละ ซึ่ง แสบจารชนคนพลิกโลก หรือ The Ministry of Ungentlemanly Warfare ก็ดูจะเป็นเช่นนั้น เพราะตัวหนังเต็มไปด้วยเอเลเมนต์ให้หยิบจับมาใช้มากมาย แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างมันดูง่ายดายไปเสียหมด แม้จะสนุกสะใจ แต่พอมันง่ายเกินไปก็ขาดอารามลุ้นอยู่เหมือนกัน

แสบจารชนคนพลิกโลก

ตัวหนังเล่าถึงปฏิบัติการณ์ลับ Postmaster ซึ่งเพิ่งมาถูกเปิดเผยเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เมื่อสหราชอาณาจักรต้องหาทางตัดเสบียงเรืออูของนาซีเพื่อซื้อเวลา และเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงคราม ความยากของภารกิจนี้คือเรือเสบียงของนาซีนั้นเทียบท่าอยู่ในพื้นที่เป็นกลาง พวกเขาจึงออกหน้าตรงๆ ไม่ได้ แต่เพราะเป็นแบบนั้นพวกเขาซึ่งถือเป็นเมืองของผู้ดีจึงต้องใช้วิธีชกใต้เข็มขัดบ้างด้วยการส่งหน่วยลับไป 5 คน ซึ่งหน่วยลับนี้ หากถูกกองกำลังพวกเดียวกันจับได้ก็จะต้องเข้าคุก และหากถูกพวกนาซีจับ ไม่ทรมาณก็ตาย ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงพลาดไม่ได้ต้องเป็นทีมเดนตายที่แท้ทรูเท่านั้น

แสบจารชนคนพลิกโลก

แม้จะเป็นกึ่งๆ ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์แต่เมื่อเป็นกาย ริทชี่ กำกับ มันก็ต้องมีการเติมความแพรวพราวเข้าไปเป็นธรรมดาโดยเฉพาะกับเหล่าตัวละครต่างๆ ในทีมเดนตายที่มีความแสบสันต์เฉพาะตัว โดยเฉพาะตัวละครของ เฮนรี่ คาร์วิลล์ และ อลัน ริตช์สัน ที่ค่อนข้างโดนเด้งกว่าเพื่อน ทั้งนี้ช่วงแรกๆ จะไม่ค่อยมีบู๊มากนัก แต่แค่ซีนเดียวก็เจ๋งมากๆ แล้วเพราะเป็นซีนยาว และโชว์ให้เห็นความสามารถของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันพาร์ทการเดินเรื่องก็เข้าท่า เพราะแม้ตัวละครแต่ละตัวในทีมจะเก่งเจ๋งมาจากไหน ก็ยังต้องพึ่งการสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่ายอยู่ดี และภารกิจของพวกเขาก็มีความผันผวนตลอดเวลา ต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขกันหน้างานกันอีกระลอก

แสบจารชนคนพลิกโลก

จะว่าไปเวลาดูคนกลุ่มนี้บู๊ก็คล้ายๆ การเล่นเกมไม่หยอก มีวางแผน มีพยายามสเตลท์ เสตลท์แตกก็หยิบปืนมาสาด โดยเฉพาะตัวละครของ อลัน ริตช์สัน (อีกแล้ว) ที่ใช้อาวุธได้แทบทุกชนิด แต่มักจะเปิดแบบเงียบๆ ด้วยธนูก่อน เจ๋งดีเหมือนกัน

แสบจารชนคนพลิกโลก

อย่างไรก็ตาม แอบน่าเสียดายภารกิจช่วงท้ายซึ่งแม้จะสมเหตุสมผลที่กระทำการกันตอนมืดๆ แต่เพราะแบบนั้นมันเลยแอบดูยากไปสักหน่อย นอกจากนี้ความเก่งกาจจนเกินไปของทีมพระเอกนี่แหละ ที่ทำให้มันไม่เกิดความลุ้นในหนังใดๆ ไม่มีแม้แต่ความเคลือบแคลงเลยว่าจะเพลี่ยงพล้ำ ซึ่งพอเป็นแบบนั้นมันเลยดูเหมือนหนังผู้ใหญ่ไล่ตบเด็ก คือมันก็มันส์แหละ แต่เหมือนขาดความเร้าใจไประดับหนึ่ง รวมไปถึงลายเซ็นต์ของ กาย ริทชี่ ที่น้อยมากทั้งๆ ที่เป็นแนวซึ่งดูจะเข้าข้อแกแท้ๆ

แสบจารชนคนพลิกโลก

แม้จะมีข้อติติงชวนให้น่าเสียดายอยู่บ้าง แต่พูดรวมๆ แล้ว แสบจารชนคนพลิกโลกยังคงเป็นหนังที่สนุก สาดกระสุนสาดระเบิดกันตูมตามในสไตล์ของโปรดิวเซอร์จอมระเบิดอย่าง เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ เมื่อมาผนวกรวมกับสไตล์กำกับเน้นเอามันส์เข้าว่าของกาย ริทชี่ มันจึงเป็นความลงตัวที่คอหลังแอคชั่นและหนังสงคราม แต่มาลองรับชมกันด้วยระบบเจ๋งๆ ในโรงภาพยนตร์กันสักครั้งครับ

แสบจารชนคนพลิกโลก

VERDICT
7.5/10

ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://majorcineplex.com/movie/the-ministry-of-ungentlemanly-warfare

ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชม


ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้