Blizzard เข้าซื้อกิจการ Proletariat เสริมกำลังทีมพัฒนา World of Warcraft

ทางสำนักข่าว VentureBeat รายงานว่า Blizzard Entertainment มีแผนจะเข้าซื้อสตูดิโอ Proletariat ผู้พัฒนาเกม Spellbreak เพื่อนำทีมผู้พัฒนา 100 คนเข้ามาช่วยพัฒนาภาคเสริม Dragonflight ของ World of Warcraft

สตูดิโอ Proletariat มีผลงานเด่นคือเกม Spellbreak ซึ่งเป็นเกมแนว Battle Royale เล่นได้ฟรี ๆ ที่ผู้เล่นจะสามารถรับบทเป็นพ่อมดแม่มดจอมขมังเวทย์สาดเวทมนตร์เข้าใส่กันได้ ทว่าน่าเสียดายที่การเข้าซื้อสตูดิโอนั้นเท่ากับว่าทีมพัฒนาจำเป็นจะต้องปิดให้บริการเกมนี้ไปเพื่อที่จะไปโฟกัสกับงานภายใน Blizzard Entertainment ได้อย่างเต็มที่

เกม Spellbreak ผลงานสตูดิโอ Proletariat ซึ่งจะต้องปิดตัวในอนาคต

คุณ Mike Ybarra ซึ่งเป็นประธานของ Blizzard Entertainment กล่าวว่า

“สิ่งสำคัญในการดูแลผู้เล่นของเราคือการดูแลทีมของเราด้วย ดังนั้นเราจึงต้องแน่ใจว่าเราจะมีทรัพยากรเพียงพอที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ชุมชนผู้เล่นของเราหลงไหล และขณะเดียวก็ให้โอกาสทีมของเราได้สำรวจหาโอกาสแสดงความคิดสร้างสรรค์ในโปรเจกต์ของพวกเขา ดังนั้นผมจึงคิดว่า Proletariat นั้นเป็นสตูดิโอที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามาช่วยในพันธกิจของเรา เพื่อที่จะนำเนื้อหาที่มีคุณภาพดีมาสู่ผู้เล่นของพวกเราได้บ่อยมากขึ้น”

ทั้งนี้การโยกกำลังคนแบบเทครัวนั้นทาง Activision Blizzard ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Blizzard Entertainment ก็เคยทำในลักษณะเดียวกันมาแล้วกับสตูดิโอ Vicarious Visions ซึ่งเป็นผู้พัฒนาที่อยู่ภายใต้สังกัด Activision มาช้านาน โดยโยกคนมาควบรวมกับ Blizzard Entertainment เพื่อช่วยพัฒนาเกมในซีรีส์ Diablo ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564

ทาง Blizzard Entertainment ถือได้ว่าปกำลังประสบกับปัญหามากมายตั้งแต่กรณีเกม Warcraft III: Reforged ซึ่งเป็นภาครีเมกที่พัฒนาออกมาแล้วไม่สมความคาดหวังของแฟน ๆ ไปจนถึงรูปแบบการหาเงินที่ค่อนข้างจะเกินพอดีไปหน่อยในเกม Diablo Immortal แล้วยังมีประเด็นดราม่าภายในบริษัทอีกหลายเรื่องจนทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยหน่ายกันไม่ใช่น้อย ดังนั้นการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จึงเกิดคำถามว่าทำไมทาง Proletariat จึงยังมีความมั่นใจที่จะเข้าไปทำงานร่วมกับ Blizzard ทั้ง ๆ ที่เกิดปัญหาเยอะขนาดนี้

คุณ Seth Sivak ซึ่งเป็น CEO ของทาง Proletariat ให้สัมภาษณ์ว่าทาง Proletariat นั้นเห็นว่า Blizzard กำลังปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรอย่างต่อเนื่อง และกล่าวด้วยว่าบริษัทนั้นต้องปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อให้ผู้คนในสตูดิโอนั้นมีส่วนร่วมมากขึ้น เพื่อให้ทีมพัฒนาเกมและผู้เล่นเกม World of Warcraft นั้นมีการสนับสนุนที่ดี จึงน่าจะทำให้สามารถพัฒนาบริษัทไปในทางที่ดีขึ้นได้ในอนาคต

ส่วนเรื่องดีลหยุดโลกอย่างการที่ Microsoft เข้าซื้อ Activision-Blizzard ไปเมื่อ 5 เดือนก่อนนั้น คุณ Sivak กล่าวว่าเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าดีลนี้จะส่งผลอย่างไรบ้าง แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นในทิศทางที่บริษัทจะก้าวต่อไป อย่างไรก็ดีคุณ Sivak ก็บอกว่าทีมงานของ Proletariat จะมุ่งเน้นพัฒนา World of Warcraft ก่อนเป็นอย่างแรก ยังไม่ได้พัฒนาเกมใหม่แต่อย่างใด

พวกเราคงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าการเสริมกำลังพลครั้งนี้จะช่วยให้ Blizzard สามารถสร้างสรรค์ภาคเสริมที่สนุกสนานและกอบกู้ศรัทธาแฟน ๆ เกม World of Warcraft กลับมาได้หรือไม่หลังจากที่ขาลงจนผู้เล่นลดลงเรื่อย ๆ มาสักพักหนึ่งแล้ว

ถ้าหากภาคเสริม Dragonflight ที่จะวางขายในในเดือนธันวาคม 2565 ทำผลงานได้ดีและเกม Diablo IV ที่จะวางตลาดในปี 2566 ได้รับการตอบรับที่ดี ทาง Blizzard ก็คงสามารถหายใจทั่วท้องไปได้อีกซักพักใหญ่ ๆ เลยล่ะครับ

ที่มา: VentureBeat

ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้