ประวัติจากปาก คิว Xcrosz ยูทูปเบอร์สู่เจ้าของทีม Esports Qconfirm
คิว Xcrosz เกิดและโตมาในครอบครัวทั่วไปที่บ้านเป็นร้านถ่ายเอกสาร เกมแรกที่เขาได้สัมผัสก็คือ The Sims ในช่วงวัยแค่ 7-8 ปีเท่านั้น ซึ่งก็เป็นซีรี่ส์นึงที่ทำให้ช่อง Xcrosz เติบโตขึ้นมาด้วยเช่นกัน ในช่วงมัธยมปลายที่คิวเริ่มรู้จักกับคำว่า แคสต์เกม ประกอบกับเริ่มมีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเองที่บ้านแล้ว และอยากลองทำมันซักครั้งหนึ่ง ทำให้กำเนิดช่อง Xcrosz ขึ้นมาในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในปี 2011 ครับ
Q: เราเริ่มรู้จักกับ “เกม” ตอนไหน ?
Xcrosz: เมื่อก่อนบ้านเป็นร้านถ่ายเอกสารครับ พ่อมีสตูดิโอถ่ายรูปด้วย ก็เลยจะมีคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไว้ทำรูปด้วย ก็เลยมีโอกาสเริ่มจับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ เกมแรกที่จำความได้ก็คือ The Sims ภาคแรก เลยรู้จักเกมคอมตั้งแต่ตอนนั้น พอช่วงม.ต้น ไม่มีคอมเป็นของตัวเองก็เลยไปเล่นตามร้านเกม ก็เล่นเกมทั่วไปที่เขาเล่นกันอย่างพวก SF, PangYa พอขึ้นม.ปลายก็เริ่มมีห้องมีคอมเป็นของตัวเองละ แม่ซื้อให้ ยุคนั้นเป็นช่วงที่ Social Media กำลังเติบโต พวก Hi5, YouTube หรือแพลตฟอร์มอื่น พอไปรู้จัก YouTube ด้วยความที่เป็นคนชอบเล่นเกม ยุคนั้นจะมีนักแคสต์เกมอยู่ไม่กี่คน BRF, Law Breaker, Team Garry Movie ผมเห็นว่าสิ่งที่นักแคสต์เกมทำมันตรงจริตผม เพราะตอนเด็กๆ ผมก็เล่นเกมคนเดียวพากย์คนเดียว พ่อก็ถามว่าเป็นบ้ารึเปล่าอะไรประมาณนี้ เป็นนักพากย์เถอะ พอเราเห็นว่ามันมีคอนเท้นท์อะไรแบบนี้ใน YouTube ก็เลยแบบ เฮ้ย! มันเป็นสิ่งที่เราอยากทำตั้งแต่เด็ก ก็เลยลองอัพคลิปลงช่องกับเพื่อนครั้งแรก ภาพกากๆ ไมค์ก็ไม่ดี 12 วิวเท่าที่จำได้ 11 วิวเป็นของผมหมดเลย
Q: ทำไมถึงชื่อ Xcrosz ?
Xcrosz: ตอนนั้นยังไม่ได้เริ่มทำช่อง ผมก็เป็นเด็กบ้าการ์ตูนคนนึง ช่วงนั้นเริ่มเล่นเกมออนไลน์ตอนนั้น Point Blank ไม่รู้จะใช้ชื่ออะไร แต่เราชอบเพราะว่ากากบาทมันสวยดี ก็เลยเป็นตัว X แต่ตัวเดียวมันตั้งไม่ได้ จะทำยังไงดี เราก็เลยหาคำอะไรก็ได้ที่แปลว่ากากบาทก็เลย Cross ไง เราก็เลยเติมคำนี้เข้าไป พอเอาไปตั้งชื่อตัวละครแล้วเรารู้สึกว่าชื่อมันเท่ดี ชื่อนี้เราชอบ จะทำยังไงให้ชื่อนี้มีตัวตนขึ้นมา ผมวาดการ์ตูนไม่เป็น ผมทำหนังไม่เป็น จะทำยังไงให้คนรู้จัก บังเอิญ YouTube กำลังโตพอดีก็เลยใส่ชื่อนี้เข้าไป มันกลายเป็นว่าความฝันของเราสำเร็จโดยไม่รู้ตัว ชื่อเรามีตัวตนจริงๆ คนรู้จักจริงๆ ก็เลยกลายเป็นชื่อชื่อ Xcrosz นี่แหละดีแล้ว ดูขลังดี เพราะว่าเป็นชื่อที่เราใช้มาตั้งแต่ตอนแรก เป็นความฝันแรกเลยที่อยากให้คนรู้จักชื่อ Xcrosz
ช่วงนั้น YouTube ยังไม่ได้บูมขนาดนั้น ทำให้ช่อง Xcrosz ที่พึ่งเริ่มต้นมันยังไม่ได้ดังในทันทีจนคิวเกือบจะถอดใจลงไป จนกระทั่งเขาได้ทักและทำคลิปร่วมกันกับ ออย Lawbreaker ที่ถือว่าเป็นเบอร์ต้นของนักแคสต์เกมในประเทศไทยตอนนั้น ส่งผลให้ช่อง Xcrosz ไม่ถึงอาทิตย์มียอดซับเพิ่มขึ้นมาถึง 1,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนอย่างมาก และช่องเติบโตต่อมาเรื่อยๆ จากการร่วมงานกันครั้งนั้น และหลายครั้งต่อมา รวมไปถึงการไปเล่นร่วมกับช่องอื่นๆ ที่รู้จักกันดีในวงการไม่ว่าจะเป็น เอก HRK ก็รวมอยู่ในนั้นด้วย และก็มีคอนเท้นท์ที๋โดดเด่นมากๆ ของช่องก็คือ The Sims Series ที่ถ้าพูดถึงคนแคสต์เกมนี้ ก็จะมีชื่อ Xcrosz โผล่มาก่อนแน่นอน จนในวันที่ 10 พฤษภาคม 2013 ยอดซับช่อง Xcrosz ก็มีถึง 100,000 ซับในที่สุด จนถูกจัดให้เป็นแคสเตอร์อีกคนที่ในยุคบุกเบิกที่เด็กๆ ยุคนั้นต้องรู้จักและเคยได้ยินผ่านหูกันอย่างแน่นอน
Xcrosz: ช่วงนั้นผมลงคลิปประมาณ 3-4 คลิป แล้วรู้สึกว่าทำไปทำไมวะ ? ตั้งใจเรียนดีกว่า แต่บังเอิญได้ไปรู้จักกับคนที่ดังในยุคนั้นก็คือ Lawbreaker ตอนนี้เขาชื่อช่อง Fitzroy ก็เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกในชีวิต พอเราไปเล่นกับเขาแฟนคลับเขาก็รู้จักเรา ในยุคนั้นที่นักแคสต์เกมในไม่เยอะ เราก็เป็นตัวท๊อปประเทศไทยภายใน 3-4 เดือนเลย เพราะว่าเราไปร่วมงานกับเขา แฟนคลับเขาก็มาช่วยทำให้ยอดเราเพิ่มขึ้น
Q: ตอนนั้นไปรู้จัก Lawbreaker ได้ยังไงครับ ?
Xcrosz: ก็ติดต่อเขาไป ไม่เคยรู้จักกันจริงๆ เลยนะ ไปหาช่องทางที่ติดต่อเขาจนได้ แล้วเขาก็ใจดีแบบ ทำช่องเหมือนกันหรอ มาสิ อยากช่วยกัน อยากสนับสนุนกัน อะไรประมาณนี้ เขาใจดีมาก เขาก็พาเราไปเล่นอะไรงี้ ก็ได้ฐานแฟนคลับเขามาด้วยทำให้ช่อง Xcrosz โตขึ้นเรื่อยๆ จนยืนได้ตัวเอง เราเห็น Lawbreaker เป็นซุปเปอร์ไอดอลนัมเบอร์วันเลยตอนนั้น ทุกวันนี้เราก็ยังคิดว่าเขาเป็นจุดเริ่มต้นของเราอยู่ เหมือนเขาจุดประกายว่าคอนเท้นท์แบบนี้มันมีอยู่ในโลกนะ การพากย์เกมมันทำได้ ก็เลยอยากจะเป็นแบบเค้า เดินตามรอยเค้า ปี 2011 เป็นปีที่ช่อง Xcrosz Bay Riffer Lawbreaker อะไรพวกนี้หลายๆ ช่องเติบโตขึ้นมา ผมจะเรียกเจนนั้นว่าเจน 1 HEARTROCKER เป็นคนสุดท้ายของเจน 1 ในวงการช่วงนั้นมีอยู่ไม่กี่คนเราก็เลยรู้จักกัน เล่นเกมด้วยกัน สนิทกัน ไปออกงานด้วยกัน แต่พอเวลาผ่านไปก็เริ่มห่างๆ กัน ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ต่างคนต่างก็มีช่องตัวเองที่ต้องทำ มีงานที่ต้องทำ ปัจจุบันก็ยังมีคุยกันบ้างประปรายครับ ยังไม่ได้มีโอกาสร่วมงานกันซักที เพราะผมเองก็ต้องทำช่องด้วย ดูทีมด้วย ถ้ามีโอกาสก็อยากไปร่วมงานกับ HEARTROCKER อีกรอบนึงครับ จนผ่านมาประมาณ 1-2 ปี ช่อง Xcrosz ก็มียอดซับขึ้นหลักแสน เริ่มอยู่ได้ด้วยตัวเอง เริ่มทำคอนเท้นท์ของตัวเองครับ
Q: ตอนที่ถึง 100,000 ซับ ตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้างครับ ?
Xcrosz: โอ้โห ตอนได้โล่อันแรก ผมแบบโทรฟี่อันแรกในชีวิต ผมเรียน ม.1-6 ไม่เคยได้ถ้วยรางวัลอะไรกับเขาเลย พอเราได้แล้วมันรู้สึกแบบเหมือนเราชนะพรีเมียร์ลีค เราชูถ้วย ความรู้สึกตอนนั้นมันดีใจมาก เราเดินทางมาถึง 100,000 แล้วนะ เราคิดว่าเราคือนักแคสต์เบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย ภูมิใจมาก แม้ตอนนั้นจะยังไม่ได้รายได้เป็นหลักเป็นแหล่งแต่ตอนนั้นเรามองถึงความสนุกมากกว่า ถ้าจำไม่ผิดผมได้ซับ 100,000 ในช่วง ม.5 เทอม 2 ที่กำลังจะขึ้น ม.6 เท่าที่จำได้ แล้วก็เรียนไปจนถึง ม.6 เทอม 2 เริ่มเกเรละ ไม่ไปโรงเรียน รู้สึกอยากทำ YouTube รู้สึกว่าตรงนี้มันสนุกกว่า รู้สึกเบื่อการเรียนละ แต่พอมาถึงตอนนี้ย้อนกลับไปก็รู้สึกว่าไม่ควรจะทำแบบนั้น เราควรจะมีความรับผิดชอบ แต่สุดท้ายผมก็เข็นตัวเองจนเรียนจบได้นะ ก็เอาใบที่ติด 0 ไปเรียนต่อ กศน. จนจบมีวุฒิ ม.6 นั่นแหละครับ
Q: แล้วตอนนั้นพ่อแม่เขาว่าเรารึเปล่า ?
Xcrosz: เขาว่าครับ เขาบอกว่าสิ่งที่เราทำเนี่ยะ มันเสียอนาคตนะ ทำไมไม่ตั้งใจเรียนอะไรประมาณนี้ เขาก็เลยยื่นคำขาดมาว่า ถ้าไม่เรียน ก็จะไม่ให้อยู่บ้านนี้ ไม่ให้อยู่กรุงเทพ เหมือนตัดหางปล่อยวัดแล้ว ผมก็ด้วยความห้าว ก็เลยโอเค ออกจากบ้านเลย ไปอยู่กับเพื่อน 3 เดือนที่เขาเป็นโปรเพลเยอร์ League of Legends อยู่ ตอนนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันเลย อยู่ได้ 3 เดือน ยกโทรศัพท์ “แม่ครับผมอยากกลับบ้าน” เขาก็ให้กลับมา ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้ว เพราะว่าตอนที่เราออกไปก็เหมือนจะพิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่าเราหารายได้จากช่อง YouTube ได้ ได้เงินเดือน ขายเสื้อได้นะ เขาก็เลยแบบ เออ จะทำไรก็ทำ กลับมาอยู่บ้านละกัน แต่กลับมาอยู่ได้แป๊บนึงก็ตัดสินใจที่จะออกไปเช่าห้องของตัวเองอยู่ครับ
Q: แปลว่าเราตัดสินใจที่จะไม่เรียนมหาลัยต่อใช่มั้ย ?
Xcrosz: หลังจากจบม.6 ไปปีนึง เราก็ไปเรียนที่ม.หอการค้า เป็นเฟรชชี่ที่อายุเยอะสุดเลยตอนนั้น เรียนนิเทศน์การจัดการอะไรนี่แหละ ไปเรียน 3 เดือนผมรู้สึกว่าสิ่งที่เขาสอนมาผมได้ทำไปหมดละในช่วงม.ปลาย เบสิคตัดต่อ ทำไงให้ยอดวิวเยอะ การตลาดนิดๆ หน่อยๆ เรารู้เรื่องพวกนั้นหมดละเราเลยตัดสินใจว่าเราไม่อยากเสียเวลาเรียนละ บวกกับช่วงนั้นเป็นช่วงพีคของช่องละ งานเข้ามาเยอะ ต้องขึ้นเวทีบ้าง ออกหนังสือ ไปอีเว้นท์ ทำคลิปด้วย มันชนกับเวลาเรียนก็เลยเลือกมาทำ YouTube เต็มตัวเลยละกัน
Q: แล้วช่วงม.ปลายที่เริ่มมีชื่อเสียงคนซับหลักแสนตอนนั้นทำคอนเท้นท์ประเภทไหนอยู่ ?
Xcrosz: แคสต์เกมอย่างเดียวเลยครับ ตอนนั้นผมรู้แค่ว่า เปิดเกม เล่นเกม พากย์ แล้วลง ไม่รู้จัก Vlog ไม่รู้จักการถ่ายคลิปข้างนอก คือก็มีบ้างแต่ก็ไม่ได้คุณภาพแบบเด็กๆ ทำอ่ะ ผมก็แปลกใจนะที่ตอนนั้นคลิปไม่ได้มีคุณภาพแบบตอนนี้แต่ก็มีคนเข้ามาดู ตอนนั้นก็ทำแต่คลิปเกมอย่างเดียวครับ
Q: ช่วงนั้นทำคลิปเกมอะไรบ้างครับที่เด่นๆ ?
Xcrosz: The Sims 3, Resident Evil 4-5-6 ผมเล่นจบหมดเลย เกมผี เกมที่ช่วงนั้นดังๆ GTA 4 เกมที่ช่วงนั้นเป็นกระแสผมเก็บหมดเลย แต่ถ้าถามว่าเกมที่ทำให้ Xcrosz เป็นที่รู้จักเลยก็น่าจะเป็นช่วงนั้นผมทำ The Sims 4 เป็นเกมที่เข้าถึงได้ทุกคน เราทำสตอรี่แบบไหนก็ได้ และด้วยการพากย์ของผมที่เล่นแบบแปลกๆ ครับอย่างเช่น เอาซิมส์ 3 คนมาเป็นชู้กันอะไรแบบเนี้ยะ เล่นพากย์แวมไพร์ คือผมทำทุกอย่างใน The Sims และพอดีในช่วงนั้นแทบจะไม่มีคนแคสต์เกม The Sims เลย เราก็เลยเหมือนแบบได้ตลาดตรงนั้นไป คนก็เลยรู้จักว่า Xcrosz ที่เล่น The Sims เยอะกว่าที่เล่น Resident Evil เสียอีก
และวันที่ 17 พฤษภาคม 2015 ช่อง Xcrosz ก็มียอดผู้ติดตามถึง 500,000 คนเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเกิดเรื่องดราม่าที่จะเป็นเรื่องที่ติดตัวของเขาไปตลอดกาล…..
Xcrosz: ตอนนั้นผมมีแฟนอยู่คนนึง เขาก็มาออกช่องด้วยแหละ หลายคนก็รู้จัก แต่ด้วยความเกเรของผมนี่แหละ ก็พาผู้หญิงขึ้นห้องเป็นสิบคน แบบเจ้าชู้แหละ คุยกับคนนู้นคนนี้จนเกิดเป็นเรื่องเละเทะ จนผมเข็ดแล้วก็ไม่เอาเรื่องพวกนี้อีกเลย ตอนนั้นผมเป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนนึงที่เหมือนหลงกับตัวเองว่า เห้ยเรามีเงินนะ เรามีชื่อเสียง ก็ลำพองตัวเองว่าเราเป็นที่ชื่นชอบนะอะไรประมาณนี้ แล้วด้วยการเป็นวัยรุ่นเราก็มีแฟนจริงจังคนแรก เราก็ไม่รู้ว่าเราต้องทำยังไง ต้องดูแลยังไง การใช้ชีวิตกับคนนึงเป็นยังไง ผมก็เลยจีบสาวไปเรื่อยครับ เรียกว่าเกเรแบบสุดๆ เลย แต่พอเราได้รับบทเรียนตอนนั้นแล้ว มันก็ทำให้เราคิดได้ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นเนี่ยะ ผมไม่เคยเสียดายที่มันเกิดขึ้นเลยนะ แต่เสียใจที่ทำอะไรไม่ดีไปมากกว่า จนมาถึงตอนนี้เราก็เก็บไว้เป็นบทเรียนว่าเราไม่ควรทำแบบนั้นอีก สิ่งที่เราเคยทำมาในอดีตมันเป็นสิ่งไม่ดีเลย ผมเคยได้ยินคนนึงพูดว่า รู้มั้ยว่าบนโลกนี้มีคนทำแย่กว่าผมอีกเยอะ เพียงแต่ผมเป็นคนที่รู้จักเยอะ เรื่องเลยเกิดมาเป็นแบบนี้ แต่ผมก็มองว่า ถ้าผมไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียง การทำแบบนี้มันก็ไม่ดีอยู่ดี แต่พอเราเจออะไรแบบนี้ เราก็ถือว่ามันเป็นการลงโทษในตัวมันเอง กระแสสังคมมันลงโทษไป พอผ่านเรื่องนั้นมาผมก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ไม่ทำเรื่องแบบนั้นอีกเลย
Q: ช่วงนั้นนี่ผ่านมายากมั้ย ? โดนอะไรมาบ้าง ?
Xcrosz: โดนเยอะมาก ในพันทิพย์นี่คือแบบ…ช่วงนั้นที่มีเรื่องอ่ะครับ ผมต้องปิดคอมเม้นท์ใน YouTube ไปเกือบ 1 ปี เพราะทุกครั้งลงคลิปก็จะมีเรื่องแบบนี้เข้ามาตลอด ตอนนั้นมันเยอะมากจนผมรู้สึกรับไม่ไหว พยายามหาทางออกหลายทาง แต่ผมก็อดทนกับมัน เข้มแข็ง เรียกว่า ณ ตอนนั้นผมรู้เลยว่าบาปกรรมมันมีจริง มันเหมือนตกนรกทั้งเป็น มันรู้สึกผิดในใจแบบนั้นเป็นปีๆ กว่าจะหายรู้สึกแบบนั้นก็ 2-3 ปีก็ฟื้นฟูตัวเองกลับมา แฟนคลับเขาก็ให้โอกาสครับ เวลามันเยียวยาทุกสิ่งอ่ะเนาะ พอเราปรับตัวดีขึ้นอะไรขึ้น เรื่องมันก็ซาๆ ลงไป
หลังจากที่ผ่านมรสุมชีวิตครั้งใหญ่มาจนเกือบจะต้านทานไม่ไหว คิวก็ใช้เวลารักษาแผลใจอยู่นาน และสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ในอีก 2 ปีต่อมา ทั้งเรื่องการรักแฟนคนเดียวมาตลอดอย่างตั้งใจ รวมถึงการกลับมาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอีกครั้งจากการมาของเกม VR ต่างๆ ในปี 2017 ทำให้ช่องกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ทำให้ยอดพุ่งไปถึง 1ล้านซับได้สำเร็จ ด้วยคอนเท้นท์ VR และ Lif Style ต่างๆ
Xcrosz: เมื่อช่วงปี 2017 เทคโนโลยี VR กำลังมา ผมฝันมาตั้งแต่เด็กละว่าอยากเล่นเกมแบบนี้ ใส่แว่นเข้าไปเล่นอยู่ในโลกของเกม ผมก็ลงทุนซื้อมาเลย 3-4 หมื่น จากที่เราทำคลิป the Sims อะไรพวกนี้พอมันเปลี่ยนเป็น VR ปุ๊บ คนก็กลับมาบูมอีกครั้ง ผมแทบจะไม่เคยทำยอดวิวได้ 1-2 ล้านมาก่อน มีก็นับได้ แต่พอเป็น VR ปุ๊บผมสามารถทำยอดวิวเกิน 1 ล้านได้หลายคลิปมากๆ ถ้าให้เล่าให้ฟังก็คือมันจะมีเกมผ่าตัด Surgeon Simulator มันเกมตลกอ่ะ ผมก็ใส่แว่นแล้วก็เล่นแบบแปลกๆ ก็ถูกใจคนดู คนก็เลยเข้ามาดู ตอนนั้นขอแค่ให้เป็น VR อ่ะ คนก็เข้ามาดู แล้วก็มีคลิปนึงที่เป็นแกล้งแฟน เป็นคลิปที่ผมไม่คิดว่ายอดวิวจะเยอะ ตอนนี้น่าจะ 5-6 ล้านละ เป็นคลิปที่ทำคลิปแกล้งแฟนครั้งแรก ผมก็มานั่งคิดว่าคลิปบ้านๆ ที่วางแผนแบบไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย จริงๆ ในคลิปนั้นเตี๊ยมกันด้วยซ้ำ ผมเฉลยตรงนี้เลยว่าคลิปนั้นเตี๊ยมกันครับ ไม่ได้แกล้งกันจริงๆ หรอก ยอดวิวมันแบบเวอร์ด้วยซ้ำ โดนแฟนตีหัวมันน่าดูขนาดนั้นเลย สงสัยแฟนๆ น่าจะชอบ ก็น่าจะเป็นจุดที่คนยุคใหม่น่าจะเข้ามารู้จักจากคลิปนี้ รวมกับฐานแฟนเก่าด้วยครับ
Q: แสดงว่าตอนนี้เหมือนเราเริ่มพัฒนาคอนเท้นท์ของเรา ไม่ใช่การนั่งแคสต์เกมอยู่หน้าคอมอย่างเดียวแล้วใช่มั้ย ?
Xcrosz: ใช่ครับ ก็ทำทุกอย่างที่เป็นคอนเท้นท์เกี่ยวกับเกม พอเรามีแฟนก็เริ่มมีคนที่จะแบบพี่คิวอยู่กับแฟนวันนี้เป็นยังไงบ้าง ทำไรบ้าง ผมก็เลยหาคอนเท้นท์ที่สบายๆ แบบซื้อของเข้าตู้เย็น 1,000 บาท มีอะไรบ้าง ผมก็ไปซื้อขนม ยอดวิวทะลุเป็นล้านเลย ผมก็งงแบบการซื้อขนมเข้าตู้เย็นมันมีอะไรน่าสนใจ (พูดไปก็ขำไป) ก็แค่คนเดินไปซื้อของที่แมคโครเท่านั้นเอง หลังจากนั้นก็มีไลฟ์สไตล์มาเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็ยังทำครับ แต่มีเปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง
Q: ช่วงไหนที่เราเริ่มทำคลิปไลฟ์สไตล์
Xcrosz: ช่วงที่มีแฟนครับ ปี 2017 ผมคบกับคนนี้มา 3 ปีละ คือก่อนหน้านี้ผมมีแฟนแหละ ผมก็ยังเป็นเด็กวัยรุ่นคนนึงไม่ได้รู้จักการมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาก่อน พอมีแฟนคนนี้เราเติบโตขึ้นเราไปเช่าบ้านเป็นของตัวเองอยู่ด้วยกัน เราก็มีเวลาที่จะคิดคอนเท้นท์ด้วยกันเยอะขึ้น ซึ่งช่วงนั้นคอนเท้นท์เกี่ยวกับแฟนก็ยังมีไม่เยอะมาก ก็คล้ายๆ กับช่วงปี 2011 ที่เราเริ่มแคสต์เกมนั่นแหละครับ
ปัจจุบันช่องของ Xcrosz ก็ยังทำคลิปลงอยู่สม่ำเสมอทั้งคอนเท้นท์กับแฟนที่ยอดวิวทะลุล้านคนสนใจเยอะ หรือจะเป็นแนวเกมต่างๆ ก็ทำได้ดีมาตลอดจนยอดซับทะลุล้านและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดยอดซับก็อยู่ที่ 3.3 ล้านซับด้วยกัน ตลอดกว่า 9 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านี้ เพราะบทบาทต่อมาของคิว Xcrosz ก็คือการเข้าสู่โลกของ Esports ทั้งการเป็นโปรเพลเยอร์และการเป็นเจ้าของทีมที่มีชื่อว่า Qconfirm มีทั้งเรื่องราวดีๆ และดราม่าเกิดขึ้นกับทีม PUBG ก็ตาม แต่คิวก็ยังภูมิใจและเต็มที่กับบทบาทนี้ต่อไป
Q: จากจุดไหนที่แบบคนทำ YouTube คนนึงมาเป็นคนทำทีม Esports ได้ ?
Xcrosz: มีเพื่อนผมคนนึงเป็นโปรเพลเยอร์ เขาชื่อ Producer Boom เขาทำทีม Rainbow Six Siege แข่งมาน่าจะ 2-3 ปีละตั้งแต่เกมเปิดแรกๆ จริงๆ ผมรู้จักกันมา 6 ปีละ เขามาเล่าให้ผมฟังว่า ทีมที่เขาอยู่เหมือนแบบดูแลไม่ค่อยดี สิ่งที่ต้องการไม่ใช่แบบนี้ มีเรื่องภายในด้วยผมก็ไม่ทราบเท่าไหร่หรอก ผมก็เลยคิดว่าจากที่เขาเล่ามา ผมคิดออกเลยว่ามันควรทำยังไงให้ดีขึ้น เพื่อนผมต้องการอะไร นักกีฬาต้องการแบบไหน ผมรู้หมดเลย ผมก็เลยบอกว่า เนี่ยะ อยากทำทีม Esports ดู มันเริ่มจากตรงนั้น แต่ว่าแฟนผมก็เป็นคนนึงที่ค้านว่า จะดีหรอ มันเสียเงินนะ ต้องจ่ายเงินให้นักแข่ง ทำแล้วเราจะได้อะไร ? แต่ใจผมก็อยากทำ อารมณ์แบบอยากจะช่วยเพื่อน ก็เลยทำขึ้นมา ทีมแรกเป็นทีม Rainbow Six Siege ครับ เริ่มต้นจากตรงนั้น พอมีทีมนี้มา ก็เริ่มตั้ง Qconfirm ขึ้นมา มันมาจากที่เพื่อนล้อ จะทำทีม Esports หรือ ใช้ชื่อทีมอะไรอ่ะ ? ไม่รู้ว่ะนึกไม่ออก เห็นป่ะเขามีทีมกฤษณ์คอนเฟิร์มอ่ะ นี่ไง ใช้คิวคอนเฟิร์มดิ โคตรเท่ ก็ไปคล้องจองกับคำว่า Kill ที่แปลว่าฆ่า Confirm ที่แปลว่าเรียบร้อยแล้ว ก็เล่นคำกัน เออ มันมีที่มา เวลาคนถามจะได้ตอบง่ายๆ ก็เลยเป็นทีมนี้
Xcrosz: ถ้าถามว่าทำไมผมถึงกล้าเสี่ยงขนาดนั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อีกอย่างพอเราเริ่มทำทีมขึ้นมาได้ 1 เดือน เรามานั่งดูการแข่งขันแล้วเรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สมมุติว่าเราเป็นแฟนบอลทีมนึง เฮ้ๆๆ ตื่นมาก็ลืมละ แต่การมีทีมเชียร์เป็นของตัวเองมันจะฝังลึกเข้าไปว่าเนี่ยะ ทีมของเราเข้าไปแข่งขัน พอเราชนะเราดีใจมากๆ พอเราแพ้เราเสียใจ นี่แหละครับมันคือ Esports มันไม่ใช่แบบการเล่น Rank แล้วแพ้แล้วก็เล่นใหม่ แต่ Esports แพ้ชนะมันมีอะไรมากกว่านั้น พอทำไปเรื่อยๆ เราก็รู้สึกสนุกกับมา การนั่งเชียร์ทีมเราเองมันรู้สึกแบบนี้นี่เอง ก็เลยเริ่มลงลึกขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ อีกเหตุนึงที่ทำทีมก็คือจะหาคอนเท้นท์ลง YouTube แค่นั้นเอง ช่วงนั้นไม่รู้ว่าคอนเท้นท์อะไรน่าสนใจ ประจวบเหมาะกับที่เราจะช่วยเพื่อนด้วย อาศัยช่อง Xcrosz ที่มีคนตามเยอะอยู่แล้วนี่แหละ คนก็เริ่มรู้จักก็จะมีทีมที่เขาเป็นโปรเพลเยอร์ที่เขาเก่งๆ อยู่แล้วมาขอเป็นสปอนเซอร์ ก็มีทีม 4Horsemen กับทีมชุดที่แล้วนั่นแหละครับ เราก็ซัพพอร์ทเขา เขาก็ทำผลงานให้เรา เราก็ทำคอนเท้นท์ให้เขา ทีมก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
Xcrosz: ถามว่าการเป็นเจ้าของทีมทำอะไรบ้าง ผมทำทุกอย่างตั้งแต่ กวาดพื้น ยันแข่งเอง คือหลายคนอาจจะคิดว่าเจ้าของทีมไม่ต้องทำอะไรหรอก จ่ายตัง นั่งดู รับเงิน แต่สำหรับทีมเราไม่ใช่ คอมทุกเครื่องที่อยู่ใน Bootcamp เนี่ยะ ผมประกอบเองทั้งหมด ผ้าปูที่นอนหรืออะไรก็แล้วคือผมทำทุกอย่าง เราก็เลยรู้สึกว่าเราอินกับพวกเขา ผมชอบพูดว่าพาทีมคว้าแชมป์นู่นนี่นั่น หลายคนก็มาเถียงว่าพี่เป็นแค่สปอนเซอร์พี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ผมอยากจะบอกว่า เราก็พยายามทำในแบบของเราเต็มที่แล้วเหมือนกัน เราพยายามจะอำนวยความสะดวกนักกีฬาให้ดีที่สุด เพื่อที่เขาจะได้เล่นเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด
Q: ตอนนี้เห็นว่ามีขยายมาเกมอื่นบ้างแล้วอย่างตอนนี้ก็มี PUBG กับ Valorant แล้วด้วย
Xcrosz: ตอนแรกมีทีม Rainbow Six Siege ก่อนเป็นทีมแร PUBG เป็นทีมที่เข้ามาเป็นทีมที่ 2 และ Valorant เป็นทีมล่าสุดที่เข้ามาขอสปอนเซอร์เหมือนกัน
Q: แปลว่าก็เหมือนเราพลิกบทบาทจาก YouTuber มาเป็นการทำทีมเป็นเรื่องหลักแทนรึเปล่า ?
Xcrosz: จริงๆ ก็ไม่ขนาดนั้น การทำ YouTube ก็ยังเป็นเรื่องหลักอยู่ เพราะเราหยุดไม่ได้ ถ้าเราหยุดปุ๊บเราก็ไม่มีเงินมาบริหารทีม อีกอย่างที่เป็นประเด็นหลักเลยก็คือถ้าผมหยุดทำ YouTube ปุ๊บ แฟนผมด่า เขาไม่ยอมให้ผมทิ้งงานหลักแน่ๆ แต่ถ้าถามว่า ณ ปัจจุบันผมสนุกกับการทำอะไรมากกว่าก็คือผมสนุกกับการทำทีม Esports มากกว่า แต่ถามว่า YouTube มันยังสนุกอยู่มั้ย มันก็ยังสนุกอยู่แหละ แต่ว่าเราอาจจะไม่ได้แคสต์เกมบ่อยๆ แล้วก็จะมีเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้าง
Xcrosz: ความฝันสูงสุดของการทำทีม Qconfirm มาก็คือ ผมอยากจะไปถ่ายวิดีโอพวกเขาตอนเขาอยู่บนเวที World Cup รอบสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นเกมอะไรก็ตาม ขอให้เขาไปยืนอยู่ข้างๆ ถ้วย Wolrd Cup เป็นภาพที่ผมอยากถ่ายมากที่สุด นั่นคือความฝันสูงสุดของผม จะได้แชมป์ไม่ได้แชมป์ไม่รู้ ขอให้เขายืนอยู่บน Final Stage รอบชิงแค่นั้นพอครับ
Q: หลังจากที่เราประสบความสำเร็จระดับนึงแล้ว ตอนนี้ที่บ้านรู้สึกยังไงบ้างกับเรา ?
Xcrosz: จริงๆ ที่บ้านเค้าทำใจตั้งแต่ 8-9 ปีที่ผมออกจากบ้านตอนนั้นแล้ว เขาคิดว่าผมโตละ เขาก็เข้าใจมาจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่ได้ห่วงอะไรละ ถึงผมจะยังไม่มีลูกแต่นี่ก็เรียกว่าครอบครัว มีพื้นที่เป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่เขาก็ให้กำลังใจมากกว่า ดูแลกันอยู่ห่างๆ คุณพ่อก็ช่วยเท่าที่ทำได้ ห้องนี้คุณพ่อก็ทำให้เลย เอกสารเขาก็ช่วยบ้าง ทางบ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็ให้กำลังใจครับ
Xcrosz: การเป็น YouTuber ในปัจจุบันมันไม่เหมือนในสมัยก่อน ปัจจุบันเขามี Organize, MCN อะไรมารองรับเยอะมาก ถ้าหากว่าคุณอยากจะเริ่มต้นตอนนี้ คุณสามารถเริ่มได้เลย แค่มีโทรศัพท์เครื่องเดียวก็เป็นได้ ขอแค่กล้าทำ กล้าลอง แล้วก็ดึงความเป็นตัวเองออกมา ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใครเพื่อให้ยอดวิวเราสูงขึ้น ดึงความเป็นตัวเองออกมา ผมเชื่อว่าคนที่เค้าชอบในความเป็นตัวเรามันมีอีกเยอะครับ แรกๆ ตัวเลขมันก็ไม่เยอะหรอก พอเราทำไปเรื่อยๆ เรามุ่งมั่น เราพยายาม เราศึกษามาดี มันจะต้องมีศักวันที่เป็นของเราและเราจะขึ้นไปได้ครับ
ถ้าหากชื่นชอบคอนเท้นท์ดีๆ เกี่ยวกับ Esports แบบนี้ สามารถติดตามกันได้ที่ช่อง Bangkok Esports กันครับผม
