รีวิวเกม Malice – ร่วมมือกับเพื่อนไขปริศนาท่ามกลางบรรยากาศชวนหลอน

Malice อีกหนึ่งเกมแนว Puzzle ที่มาพร้อมความน่าสนใจอย่างระบบ Co-op ผู้เล่นสองคน โดยตัวเกมนั้นจะให้เราได้มาออกสำรวจ และร่วมมือกับเพื่อนในการไขปริศนาหาทางออกไปในธีมของความสยองสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งตัวเกมจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลย

Malice

  • แพลตฟอร์ม: PC
  • ผู้พัฒนา: Nimbus Games
  • แนวเกม: Escape room / Puzzle / Horror

ภายในเกมนั้นเราและเพื่อนจะได้มาเล่นเป็น คู่หูนักเดินทางคู่หนึ่งที่ได้ออกเดินทางมายังวัดลึกลับแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ ก็ได้เกิดแผ่นดินไหวและทำให้ทั้งคู่ได้ตกลงไปยังใต้ดินที่เต็มไปด้วยความมืดมิด และที่แห่งนั้นพวกเขาก็ได้พบกับคฤหาสน์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ โดยเรานั้นจะต้องออกสำรวจไปยังสถานที่สุดน่าขนลุกแห่งนี้ไปพร้อม ๆ กับค้นพบความลับที่ถูกซุกซ่อน ร่วมมือกับคู่หู(เพื่อน)อาศัยทั้งทักษะ การสื่อสาร และความกล้าเพื่อหาทางเอาตัวรอดไปจากคฤหาสน์นี้ให้ได้

โดยทีมงาน Online Station ก็มีโอกาสได้ลองไปสัมผัสตัวเกมมาแล้ว วันนี้ทางทีมงานเลยจะมาขอพาทุกคนไปดูกันว่าเจ้าเกม Puzzle ที่มาพร้อมระบบการเล่นแบบ Co-op นี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง ว่าแล้วก็ลองมาชมรีวิวตัวเกมกันได้เลยครับ

*บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นนะครับ

**ภายในบทความนี้ผู้เขียนและเพื่อนได้ตั้งค่าภาษาไม่เหมือนกัน ทำให้ภาพที่อยู่ในบทความบางภาพมีการแสดงผลภาษาที่ไม่เหมือนกัน (มีทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ) นะครับผม

บรรยากาศชวนหลอนที่ทำให้รู้สึกระวังระแวง

นับเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความประทับใจในการเล่นเลยก็ว่าได้ เพราะตัวเกมนั้นได้มีการรังสรรค์บรรยากาศได้ตามธีม สยองขวัญแบบญี่ปุ่น ตามที่ระบุมาได้อย่างกลมกล่อม ซึ่งเราจะได้มาพบกับสภาพแวดล้อมที่มีเซ็ตติ้งความเป็นญี่ปุ่นทั้ง ฉาก สิ่งตกแต่ง ไปจนถึงปริศนาและเรื่องราวภายในเกมได้ถูกนำมานำเสนอได้อย่างไม่ติดขัด

ในส่วนของบรรยากาศภายในเกมระหว่างที่เล่นนั้นก็ต้องขอชมว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว องค์ประกอบต่าง ๆ ที่ใส่มาไม่ว่าจะ ในเรื่องของความมืด เสียงประกอบ และอื่น ๆ ช่วยให้ตัวเกมสามารถสร้างบรรยากาศชวนขนลุก และทำให้ผู้เล่นสามารถรับรู้ถึงบรรยากาศที่ตัวเกมพยายามสร้างขึ้น เช่นความรู้สึกหวาดระแวงในขณะที่กำลังไขปริศนา หรือขณะออกสำรวจ

Jump Scare นั้นตัวเกมก็ได้มีการใส่เข้ามาให้ชวนตกใจหรือสะดุ้งอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เยอะหรือถี่มากเกินไปจนทำให้รู้สึกรำคาญ หรือทำให้เสียบรรยากาศ (และเท่าที่ผู้เขียนเล่นกับเพื่อนผู้ร่วมทดสอบนั้น บางอย่างที่ผู้เขียนเจอเพื่อนก็อาจจะเจอไม่เหมือนหรือไม่เจอ ทั้ง ๆ ที่อยู่ จุด ๆ เดียวกันด้วย)

การ Co-op ที่มีทั้งจุดเด่นและข้อจำกัด

เกมนี้เป็นเกมที่ต้องเล่นกัน 2 คนแบบออนไลน์ ฉะนั้นการ Co-op นั้นนับได้ว่าเป็นจุดเด่นอีกจุดของเกมนี้เลยก็ว่าได้ โดยภายในเกมนั้นเราจะพบว่าปริศนาทั้งหลายได้ถูกออกแบบมาในการใช้ความร่วมมือกันกับเพื่อนในการแก้ในการไข ผู้เล่นจะต้องอาศัยการพูดคุย ทำความเข้าใจ และร่วมมือกันกับเพื่อน หรือ ผู้เล่นที่มา Co-op ด้วย

แต่การ Co-op สำหรับเกมนี้นั้นจะเป็นการ Co-op แบบที่ผู้เล่นคนนึงจะต้องทำการ Host ห้อง และใช้วิธีการเชิญเพื่อนใน Friend List ที่อยู่ในเกมมา แล้วถึงร่วมเล่นด้วยกันได้ ถ้าระหว่างนั้นมีใครคนหนึ่งหลุดหรือออฟไลน์เกมจะไม่สามารถเล่นต่อได้เลย รวมไปถึงเนื้อหาเกมที่เป็นการแก้ปริศนา จำต้องมีการพูดคุยด้วยกันตลอด ทำให้ต้องมีการคอลระหว่างเล่นกันด้วย จุดนี้จะยุ่งยากนิดนึง (ทีมงานผู้ทดสอบนั่งเล่นอยู่ที่ออฟฟิศที่เดียวกันจึงไม่มีปัญหาตรงจุดนี้)

(“อารธนา” คือ การเชิญเพื่อนมาเล่น)
(อันนี้เพื่อนร่วมทีม อย่าตกใจ)

เกมเพลย์ และ ปริศนา

เกมเพลย์ของเกมนี้นั้นก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เพราะหลัก ๆ แล้วก็คือการ ร่วมมือกันไขปริศนาและหาทางออกตามแบบของแนว Escape Room ซึ่งปริศนาภายในเกมนั้นก็ตามที่ได้เขียนไว้ก่อนหน้านี้ว่าได้ถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นช่วยกันแก้ และมีความหลากหลาย น่าสนใจมาก

แต่ในความน่าสนใจนั้นมันก็แฝงมาพร้อมกับความยาก จากที่ได้เล่นมาผู้เขียนพบว่าปริศนาหลาย ๆ ตัวภายในเกมนั้นได้มีการออกแบบโดยได้มีการใช้และอิงภาษาและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะ (ซึ่งตรงนี้ถ้าใครมีความรู้ความเข้าใจในภาษาญี่ปุ่น หรือ วัฒนธรรมญี่ปุ่น ก็อาจจะพอทำความเข้าใจกับปริศนาและอาจจะช่วยให้แก้ได้ง่ายขึ้น) และนั่นทำให้สำหรับผู้เล่นบางคนนั้นปริศนาในเกมนี้เรียกได้ว่าค่อนข้างยากพอสมควรเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีภายในตัวเกมนั้นก็ได้มีพวกคำใบ้ที่ใช้ในการแก้ปริศนาเอาไว้ด้วยเช่นกัน (ทั้งนี้การบอกใบ้ของตัวเกมก็ไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนนัก ต้องอาศัยการตีความ การสังเกตและทำความเข้าใจด้วย)

ความยากในเกมไม่ได้มีอยู่แค่ในส่วนของปริศนาเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนของการดำเนินตัวเกม ผู้เขียนพบว่าหลายครั้งหลังจากที่แก้ปริศนาได้แล้วนั้น ผู้เขียนและเพื่อนต้องพยายามหาทางไปต่ออยู่บ่อย ๆ เพราะถึงแม้ตัวเกมจะมีการพยายามใส่คำบอกใบ้มา แต่มันก็ไม่ได้ชัดเจนมากพอที่จะช่วยบอกหรือนำทางให้ผู้เล่นสามารถเข้าใจได้ว่าต้องทำอะไรต่อ และกลายเป็นว่าผู้เล่นจะต้องมาคอยสำรวจสถานที่และสิ่งรอบ ๆ ตัว คอยดูว่ามีอะไรตรงไหนที่สามารถกดใช้หรือ Interact ได้บ้าง เพื่อที่จะหาทางดำเนินตัวเกมต่อไป

ระบบ Item

ในส่วนของระบบ Item นั้น ต้องบอกว่าระบบ Item ของเกมนี้นั้นออกแบบมาใช้งานได้ค่อนข้างยากพอสมควร หลายครั้งที่เราจำเป็นต้องมีการสำรวจไอเทม (จะทั้งสิ่งของหรือเอกสาร) เพื่อหาคำใบ้ และการควบคุมเพื่อกดสำรวจไอเทมของเกมนี้นั้นก็ชวนให้รู้สึกหงุดหงิด มีการวางปุ่มเมาส์ในการใช้สำรวจ ซูม แพนกล้อง และเปลี่ยนไอเทมที่ใช้งานได้ค่อนข้างงง สำหรับใครที่หัวร้อนกับปริศนามาเจอแบบนี้ต่อก็อาจจะยิ่งทำให้หัวร้อนมากกว่าเดิมแทน

สรุป

ส่วนตัวของผู้เขียนรู้สึกว่า สำหรับเกมแนว Escape Room แล้วนั้น Malice ก็นับเป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว แม้จะมีจุดที่ทำให้รู้สึกติดขัดไปบ้าง แต่ตัวเกมก็สามารถนำเสนอเสน่ห์ของแนวเกมและธีมเกมออกมาได้ดี ไม่ว่าจะทั้งในส่วนของบรรยากาศ หรือความหลากหลายและความสร้างสรรค์ในการออกแบบปริศนาที่ต้องอาศัยการร่วมมือกันของผู้เล่น และนอกจากนี้ตัวเกมเองก็ยังมีภาษาไทยอีกด้วย ซึ่งการแปลนั้นก็เรียกได้ว่าแปลออกมาได้อย่างลื่นไหล ไม่มีติดขัดเลย โดยสำหรับใครที่ชื่นชอบเกมแนวไขปริศนา ชอบการสังเกต หรือชอบการเล่นแบบร่วมมือกับเพื่อนในการหาทางออก น่าจะชอบหรือถูกใจเกมนี้กัน

สำหรับใครที่อ่านแล้วเกิดความสนใจ อยากที่จะลองสัมผัสตัวเกมนั้นก็สามารถเข้าไปกดซื้อตัวเกมกันได้ที่ช่องทางด้านล่างได้เลย !

ซื้อเกม Malice ได้ที่


ภาพเพิ่มเติมจากในเกม

ติดตามข่าวเกมและรีวิวเกมอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online-Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้