พรีวิวเกม Atomic Heart แบบ Hands-on หลังลองเล่นมาแล้วที่สิงคโปร์

Atomic Heart

ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สองหนุ่มทีมงาน Online Station ได้แก่ ชาโมคุง (Chamokung) และพี่เอกหรือ God Ekk ได้มีโอกาสบินลัดฟ้าไปทดลองเล่นเกม Atomic Heart กันถึงประเทศสิงคโปร์เลยทีเดียว โดยมีสปอนเซอร์ใจดีอย่างบริษัท 4Divinity ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายของเกมดังกล่าวประจำภูมิภาคเอเชียเป็นผู้เชิญทีมงานไปร่วมทดลองเกม ซึ่งทาง Online Station ต้องขอกล่าวขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สำหรับบรรยากาศของงานก็ต้องบอกว่าจัดแบบเรียบง่ายและเป็นกันเอง อีกทั้งงานนี้เปิดให้เข้าร่วมเพียงเฉพาะสื่อเกมล้วน ๆ โดยมีสื่อหลายแห่งทั้งจากเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้มาร่วมงานครับ ซึ่งนอกจากไทยแล้วก็มีฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง รวมไปถึงเจ้าบ้านอย่างสิงคโปร์เองด้วย ส่วนตัวเกมที่พวกเราได้ทดสอบกันนั้นเป็นแพลตฟอร์ม PC ซึ่งทางทีมงานแจ้งล่วงหน้าก่อนทดลองเล่นว่า เวอร์ชั่นรอบสื่อมวลชนยังไม่ใช่เกมเต็มที่จะวางจำหน่าย เพราะตัวเกมยังต้องมีการแก้ไขอะไรเพิ่มเติม เช่นพวกฟังก์ชั่นเสริมของการ์ดจอค่ายเขียวอย่าง DLSS รวมไปถึงฟีเจอร์ Ray Tracing ตลอดจนเรื่องของ Performance และการ Optimize เพิ่มเติมก่อนวันวางจำหน่ายจริงในเดือนหน้าครับ

Atomic Heart

อนึ่ง ความเห็นของทีมงาน Online Station ที่ได้จากการทดลองเล่นมาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนครับ จำแนกเป็นความเห็นจากฝั่งชาโมคุงและพี่เอกนั่นเอง ว่าแล้วมาชมกันเลยดีกว่า


ชาโมคุง

เท่าที่เล่นไปได้ราว 2 ชั่วโมง ก็ต้องบอกเลยครับว่าค่อนข้างไปทาง “ชอบ” ด้วยความที่ตัวเกมนั้นมีเซ็ตติ้งอยู่ในโลกสมมติ มีความเซอร์รีลและผสมกับความเป็นไซไฟที่ส่วนตัวค่อนข้างชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ดังนั้นความรู้สึกแรกของการโดดเข้าไปในโลกของ Atomic Heart นั้นจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างแฮปปี้เลยทีเดียว

อย่างที่ทุกคนเห็นจากเทรลเลอร์ที่ถูกปล่อยออกมาหลายต่อหลายคลิป เกมนี้คือเกมแอ๊กชั่นมุมมองบุคคลที่ 1 ที่มีความรวดเร็วในการต่อสู้อยู่ระดับหนึ่ง พร้อมผสมองค์ประกอบความเป็น RPG เข้าไปอีกหน่อย ดังนั้นถ้าหากใครไม่ได้ชื่นชอบเกมตระกูล Fallout, The Elder Scrolls, Dishonored หรือ BioShock มาเลยก็อาจจะไม่ถูกจริต ซึ่งมันก็ใช่ครับ ความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้ทดลองเล่นเกมนี้ พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า Atomic Heart คือส่วนผสมของเกมเหล่านั้น เพียงแต่ว่าเกมนี้มีการดำเนินเรื่องสุดพิสดารสไตล์ What If ว่าถ้าหากสหภาพโซเวียตที่มีนักวิทยาศาสตร์ระดับซูเปอร์อัจฉริยะอยู่เบื้องหลังและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พวกเขาชนะสงครามโลก มันจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา และเขาจะสร้างอะไรขึ้นมาบ้าง

เกมเพลย์โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนครับ ส่วนแรกคือการเดินหน้าบู๊ล้างผลาญ ตัวเอกของเราอย่าง P-3 นั้นจะมีอาวุธหลักอยู่ 2 ชนิด อย่างแรกคืออาวุธหลักซึ่งใช้ที่มือขวา คือพกได้ตั้งแต่ขวาน กระบอง หอก รวมไปถึงอาวุธปืนประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น AK ที่เราคุ้นเคยกันดี หรือปืน Rail Gun ที่ชาร์จไฟฟ้ามายิงใส่ศัตรูแบบล้ำ ๆ ก็มีให้ใช้ ส่วนอีกชนิดก็คือถุงมือที่มือซ้ายของเราซึ่งเป็นถุงมืออัจฉริยะครับ ถุงมือนี้สามารถพูดหรือให้คำแนะนำกับตัวละครหลักของเราได้ รวมไปถึงมีฟังก์ชั่นล้ำยุคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนฉาก การลูทไอเทม รวมไปถึงการใช้คลื่นแรงโน้มถ่วงในการหยิบจับสิ่งของ โดยในส่วนนี้คือเกมเพลย์หลักอีกอย่างของเกมนั่นเอง ที่ผู้เล่นนั้นจะได้ใช้ถุงมืออัจริยะนี้ในการหยิบจับไอเทมจากระยะไกล รวมไปถึงการผลักออกไปและส่งกระแสไฟฟ้าเพื่อทำให้เครื่องมือบางอย่างทำงานด้วย ทั้งนี้ จากการที่ได้ลองเล่นไปหลายด่าน ก็ต้องบอกว่าพัซเซิลของเกมนี้ค่อนข้างท้าทายไหวพริบและทักษะผู้เล่นเอาเรื่องเลย

นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบอัปสกิล แต่งปืน แต่งอาวุธ รวมไปถึงคราฟต์ไอเทมใช้งานต่าง ๆ เช่นพวกไอเทมฟื้นพลังหรือกระสุน ก็ถือว่าเป็นเกมที่ดูมีศักยภาพอยู่พอสมควรละครับ ที่เหลือก็คงเป็นเนื้อเรื่องและบอสไฟต์แล้วที่ผู้เล่นจะต้องหันไปคาดหวังกัน และนั่นคือสิ่งที่ผู้พัฒนาต้องทำการบ้านกับเรื่องนี้พอสมควรเลย เพราะอย่างที่บอกไปช่วงต้นว่าเกมประเภทนี้มีแฟรนไชส์ดังเบอร์ใหญ่ ๆ ให้เปรียบเทียบอยู่เยอะมากนั่นเอง


พี่เอก

ชาโม่พูดถึงจุดเด่นของเกมไปเยอะแล้ว เลยขอเสริมในด้านตรงกันข้ามแทนครับ ทางด้านปัญหาหลัก ๆ ที่พบเจอระหว่างเล่นก็คือเรื่องของ Performance ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการโหลดเท็กซ์เจอร์ไม่ทัน อย่างเช่นรายละเอียดของเสื้อตัวละคร ฉากหลังที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า หรือตึกรามบ้านช่อง ซึ่งปรากฏให้เห็นบ่อย รวมถึงระยะการโหลดก่อนเข้าฉากต่าง ๆ ที่ค่อนข้างช้า ตรงนี้ก็หวังว่าเมื่อเกมวางขายวันแรกอาจจะมี Day1 Patch ออกมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวอีกทีครับ

ขณะเดียวกัน ช่วงที่ผมกับชาโม่ได้ทดลองเล่นนั้นก็มีได้ประมือกับเหล่าบอสบางตัวไปพอหอมปากหอมคอ โดยการสู้กับบอสแต่ละตัวจะให้ฟีลของความตึงเครียดและตึงมือไม่น้อย เพราะลูกเล่นของบอสจะแพรวพราวใช่ย่อย มิหนำซ้ำผู้เล่นยังต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของพวกมันเพื่อให้ทราบถึงจุดอ่อน หรือจังหวะในการเข้าไปโจมตีมันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด อย่างไรก็ตาม วิธีการหลบการโจมตีของเราส่วนใหญ่ยังชวนให้รู้สึกยึดโยงกับการแดชระยะสั้นเพื่อหลบออกข้างมากเกินไป ซ้ำร้ายกว่านั้นเกมยังไม่มีการวิ่งแบบสปรินต์ (Sprint) ให้ใช้ ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นเลยต้องอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูและบอสให้ดีแล้วค่อยแดชหลบเอา เรียกว่าใช้ท่าแดชเป็นท่าหากินเลยก็ว่าได้ และจุดนี้เลยมองว่าเกมมีตัวเลือกในการรับมือกับศัตรูไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่นัก

ดังนั้นหากจะบอกว่าจุดขายด้านระบบต่อสู้ของเกม Atomic Heart มีเรื่องของการจับจังหวะศัตรูเข้ามาเป็นแกนหลักก็คงไม่ผิดนัก แต่อย่างไรก็ดี เกมก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกได้ว่าจะเข้าไปบู๊กับศัตรูแบบคลุกวงใน หรือยิงห่าง ๆ เอาได้อย่างอิสระ ซึ่งในระดับความยากแบบปกติ ลำพังไอเทมจำพวกทรัพยากรที่มีให้หาเก็บตามฉากก็มากเพียงพอที่จะนำมาคราฟต์กระสุนลุยได้ยาว ๆ แล้ว จึงไม่น่าเป็นปัญหาใด ๆ กับคนที่เป็นสายสาดกระสุน ส่วนงานดีไซน์ของเกมนี้ดูมีกลิ่นอายคล้ายกับเกม BioShock Infinite ผสมผสานกับ Wolfenstein ยุคภาคหลัง ๆ อยู่พอสมควร แถมยังมีสอดแทรกมุกจิกกัดวัฒนธรรมรัสเซีย ตลอดจนสภาพสังคมและการเมืองอยู่เป็นระยะ แอบคิดอยู่เลยว่าถ้าเกมนี้มีการทำซับไตเติ้ลภาษาไทยด้วยคงจะดีไม่น้อยเลย

ไว้รอสัมผัสกับตัวเกมเต็มกันได้ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้นะครับ


ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้