Apex Legends กับ 7 ความแตกต่างจาก Battle Royale เกมอื่น

    แม้ในช่วงนี้หลายคนจะเบื่อเกมแนว Battle Royale กันมากขึ้น (ผู้เขียนก็เริ่มไม่ค่อยอินกับเกมแนวนี้แล้วเช่นกัน) แต่สำหรับ Apex Legends นั้น นับว่าเป็นส่วนผสมที่แตกต่างกว่า Battle Royale ตัวอื่นๆ ในตลาดอย่างมาก และตัวเกมมีส่วนช่วยหลายๆ อย่าง ให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเกมไม่ยากเกินไป ด้วยระบบที่ออกแบบมาดียิ่งทำให้การเล่นแต่ละครั้งสนุกยิ่งขึ้น ทาง Online Station ก็เลยขอเผยกันให้รู้ว่าความเจ๋งของ Apex Legends ที่ควรค่าแก่การเล่นนั้นมีอะไรบ้าง


ระบบการสื่อสารในทีมที่ดีเยี่ยม

     ด้วยความที่ตัวเกม Apex Legends ในตอนนี้ จำกัดเฉพาะการเล่นทีม 3 คน เท่านั้น ซึ่งหากเราเป็นผู้เล่นคนเดียว หรือมีเพื่อนกันแค่ 2 คน ตัวเกมก็จะสุ่มผู้เล่นอื่นมาให้อัตโนมัติ โดยเกม Battle Royale อื่นๆ ส่วนมากก็ต้องสื่อสารกันด้วยไมค์ถึงจะเข้าใจกันดี แต่สำหรับ Apex Legends ระบบของเกมออกแบบมาเอื้อกับการเล่นกับผู้อื่นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบ Ping ที่สามารถแยกแยะได้อย่างดี ไว้ใช้บอกไอเท็มต่างๆ ที่อยู่ตรงนี้ หรือ ตำแหน่งที่ต้องการจะไป และศัตรู ซึ่งถือว่าครอบคลุมมากๆ สุดท้ายก็เหลือเพียงแต่ผู้เล่นเท่านั้น ที่จะใช้ลูกเล่นนี้ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


ไร้ Friendly Fire ไม่ต้องห่วงโดนเพื่อนยิง

     อีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างแตกต่างจาก Battle Royale อื่นๆ คือการ Friendly Fire ที่โดยมากเกม Battle Royale ทั่วไปจะเปิดระบบนี้ แต่สำหรับเกมนี้ เพื่อการบู๊ที่มันยิงขึ้น และเกมที่วิ่งกันเร็ว ทางผู้พัฒนาจึงตัดสินใจไม่เปิดระบบนี้ไว้ ยิ่งทำให้ตัวเกมสนุกมากยิ่งขึ้น เพราะจังหวะปะทะก็ไม่ต้องพะวงว่าจะพลาดยิงเพื่อนของเราได้นั่นเอง


ยิงน้อยคอยไม่นาน

     ในเกม Battle Royale อื่นๆ ส่วนมากหากคุณตายหลังล้มก็จะจบเกมทันที ยิ่งถ้าเล่นกับเพื่อนๆ ก็ได้แต่นั่งรอดูเพื่อนๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนคุณก็กลายเป็นผีเฝ้ามองอย่างเหงาๆ แต่ใน Apex Legends แม้คุณจะพลาดตายไปแล้ว เพื่อนๆ ในทีมก็ยังสามารถเก็บ Banner จากกล่องของคุณ เพื่อไปชุบชีวิตกลับมาลุยในสนามได้อีกครั้ง ซึ่งเจ้าระบบนี้ทำให้เกมสนุกขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของคุณเองที่ต้องทำภารกิจชิง Banner ให้ทัน รวมถึงผู้ที่ตายก็ได้ลุ้นไปด้วยและมีโอกาสกลับมาเล่นอีกครั้ง


การแบ่งแยกสีที่ง่ายต่อการจดจำ

     ในเกม Apex Legends นั้น ไอเท็มต่างๆ จะมีการจำแนกสีอย่างชัดเจน เรียงไปจาก ขาว, ฟ้า, ม่วง และทอง ซึ่งไล่จากไอเท็ม Lv.1-4 ทำให้เราแยกไอเท็มควรจะเก็บได้ไม่ยาก นอกจากนี้เวลาเราเก็บ Mod ของปืนต่างๆ ตัวเกมก็จะใส่ให้อัตโนมัติ รวมไปถึงเวลาที่เราเปลี่ยนปืนแล้วมี Mod จากปืนเก่าที่สามารถใส่ในปืนใหม่ได้ ตัวเกมก็จะทำการเปลี่ยนให้เองเช่นกัน ซึ่งระบบเหล่านี้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตในการเล่นได้อย่างดีเลยทีเดียว


ตายยากสามารถตั้งตัวได้ทัน

     สำหรับเกม Apex Legends นั้น ตัวละครจะค่อนข้างตายยากพอสมควร ซึ่งข้อดีของมันก็คือ ทำให้แม้เราจะโดนยิงแบบไม่ได้ตั้งตัว ผู้เล่นก็ยังสามารถตอบโต้สถานการณ์นั้นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สกิลหรือไอเท็มอื่นๆ ในการหลบหนี หรือโต้กลับ ต่างจาก Battle Royale อื่นๆ โดยเฉพาะ PUBG ที่เราอาจจะตายได้ด้วยปืน Sniper นัดเดียว ซึ่งความแตกต่างในเรื่องระยะเวลาการตายนี้ ทำให้การเล่น Apex Legends รู้สึกดีกว่า ในการวิ่งโลดโผนไปมาดีกว่าแอบซุ่มอยู่เฉยๆ


ระบบสกิลตัวละครที่ทำให้ไม่จำเจ

     ในเกม Battle Royale อื่นๆ ส่วนมาก ผู้เล่นจะเท่าเทียมกันหมดเวลาเริ่มเกม แต่ใน Apex Legends จะมีสกิลของแต่ละตัวละครแตกต่างกันไป ซึ่งทำให้การเล่นไม่น่าเบื่อ แม้สกิลเหล่านั้นจะไม่ได้รุนแรงขนาดพลิกเกมแบบ Overwatch แต่หากใช้ดีๆ ก็จะทำให้หลายๆ สถานการณ์เล่นง่ายขึ้นมากเช่นกัน และนั่นยิ่งเพิ่มความสนุกให้ตัวเกมได้เป็นอย่างดี


ระบบการยิงปืนที่ไม่ยากไม่ง่ายเกินไป

     ในส่วนของระบบปืนของ Apex Legends นั้น ส่วนมากปืนจะไม่ค่อยดีด ยิ่งเมื่อเทียบกับ PUBG จะยิงเห็นได้ชัด แต่แม้ปืนจะไม่ดีดมาก เกมก็จะยิงยากในระดับนึง เพราะตัวเกมที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ทำให้การเล็งศัตรูบางทีก็ทำได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องพะวงเรื่องแรงดีดของปืนมากสักเท่าไหร่ ต่างกับเกม Battle Royale อื่นๆ ที่การคุมแรงดีดปืนเป็นหัวใจหลัก


     ทั้งหมดนี้ก็เป็นความแตกต่างของเกม Apex Legends ที่ช่วงนี้ก็ฮิตมาแรงแซงเกม Battle Royale สายฟรีอย่าง Fortnite ไปแล้วอีกด้วย ใครที่ยังไม่ได้ลองเล่นบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด เล่นก่อนเก่งก่อนนะเกมแบบนี้ ฮา

เทคนิคเกม Apex Legends ที่คุณอาจสนใจ

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้