รีวิว Pirates of the Caribbean: Salazar’s revenge – จุดสิ้นสุดของการผจญภัยหรือเพียงกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

Pirates of the Caribbean: Salazars revenge

Review: Pirates of the Caribbean: Salazar’s revenge

“ไม่ค้องกลัวเจ้าหนู ข้ามักจะเหลือคนๆ หนึ่งไว้เล่าตำนานข้าอยู่เสมอ”

     เดินทางมาถึงภาคที่ 5 กันแล้วครับสำหรับแฟรนไชส์ภาพยนตร์โจรสลัดเรื่องดังจาก Disney อย่าง Pirates of the Caribbean ซึ่งใช้ชื่อภาคว่า Salazar’s Revenge หรือการแก้แค้นของคุณพี่ซาลาซาร์นั่นเองครับ โดยคราวนี้ว่ากันว่าจะเป็นการปิดฉากตำนานของ “แจ็ค สแปโรว์” กับเหล่ามิตรสหาย ที่พอเอาเข้าจริงๆ หลังดูจบแล้วเราก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่ามันจะสิ้นสุดแค่ตรงนี้จริงหรือเปล่า แต่อย่างหนึ่งที่บอกได้คือมันยังคงเป็นภาพยนตร์ที่สนุก เฮฮาบ้าบอ และออกทะเลเช่นเคย แม้ว่าจะแทบไม่มีความสดใหม่รวมถึงการเคลียร์เรื่องราวที่ดูจะ “เล่นง่าย” เกินไปหน่อยก็ตาม

     Pirates of the Caribbean: Salazar’s revenge จะมีเนื้อเรื่องต่อจากภาค On Stranger Tide เล่าถึงการกลับมาแก้แค้นโจทย์เก่าของกัปตัน Salazar อดีตจอมทำลายล้างโจรสลัดแห่งราชนาวีสเปนผู้เคยถูก แจ็ค สแปโรว์ ในวัยฉกรรจ์จัดการเก็บเสียหมดสภาพก่อนถูกคำสาปแห่งท้องทะเลเล่นงานจนกลายเป็นผู้นำกองกำลังคนตายผู้เฝ้าสามเหลี่ยมมรณะ แม้ไม่สามารถขึ้นมาซ่าบนบกได้แต่ก็ไร้เทียมทานบนท้องทะเล

 

***เอาล่ะจากนี้มีสปอยล์เล็กน้อยนะพีเพิ่ล***

อ่ะ เปิดเพลงคลอไปด้วยนะ อย่าลืม

Pirates of the Caribbean: Salazars revengePirates of the Caribbean: Salazars revenge

     ฉากหน้ามันก็เป็นเช่นนั้นแหละครับ แต่เส้นเรื่องที่ตีคู่มาจนทำเอามหกรรมล้างแค้นคุณพี่ซาลาซาร์กลายเป็นเพียงประหนึ่งเนื้อเรื่องเสริมก็คือการตามหาตรีศูลแห่งโพไซดอนของกัปตันแจ็คและเฮนรี่ลูกชายแท้ๆ ของ วิล เทอร์เนอร์ ซึ่งว่ากันว่ามันคือโคตรไอเทมโกงจริงจังอันมีผลสามารถลบดีบัฟ… ลบล้างคำสาปทุกประเภทในท้องทะเลให้หายไปได้แบบเรียบวุธไม่เหลือหลอ และแน่นอนว่าเหตุผลที่แท้จริงของเฮนรี่ก็คือต้องการจะปลดปล่อยวิลผู้เป็นพ่อจากคำสาปของเรือฟลายอิงดัชแมนนั่นเอง

     ตัวเนื้อเรื่องเราจะไม่พูดถึงมากก็แล้วกัน แต่สรุปง่ายๆ ว่ามันสนุกตามเนื้อผ้า และมีกลิ่นอายดั้งเดิมของแฟรนไชส์นี้อยู่เยอะทีเดียวครับ ไม่ว่าจะธีมเรื่อง ศัตรูฆ่าไม่ตาย มุขตลก และความรักของพระนางคู่ใหม่ แต่ก็นั่นแหละที่เป็นปัญหาด้วยส่วนหนึ่ง เพราะเห็นอะไรไหมครับ? องค์ประกอบที่เอ่ยมาแทบทั้งหมด เคยมีอยู่ในภาคแรกแล้วทั้งสิ้น เด่นชัดสุดเลยคือศัตรูนี่แหละที่ความสามารถคล้ายกับแก๊งค์บาบอสซ่าในภาคแรกมากๆ แบบว่าต้องอยู่ในทะเล ฆ่าไม่ตาย เดินเหินในนํ้าได้สะดวกดาย เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ภาพยนตร์ภาคนี้จึงขาดความสดใหม่ไปสักหน่อยแถมหลายๆ จุดยังใช้ความง่ายเข้าว่าในการเคลียร์อีเว้นท์ ทำให้ไม่อินเท่าที่ควร ยังดีว่าช่วงตอนจบก็พอมีอะไรให้ยิ้มออกอยู่บ้างสำหรับแฟนๆ และก็ตามสไตล์ Disney คุณๆ ก็พอเดาแนวทางตอนจบออกว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นการปิดฉากการผจญภัยของพวกเขาลงจริงๆ ครับ… ถ้าไม่นับช่วง End Credit ที่ให้ผู้ชมตีความกันเอาเองน่ะนะ

     ในส่วนของตัวนักแสดง พวกรุ่นเก่าๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ทำได้ตามมาตรฐาน ขณะที่ จอนนี่ เดป ก็ยังรับบทเป็น แจ็ค สแปโรว์ ได้กวนบาทาเช่นเคยครับ ส่วนตัวละครใหม่ๆ อย่าง ฮาเวียร์ บาเด็ม กับบทกัปตันซาลาซาร์นั้น ผมค่อนข้างผิดหวังไปสักหน่อย อาจเพราะด้วยบทบาทตัวละครของเขาถูกทอนความสำคัญลงเพราะเส้นเรื่องหลักเน้นแก้ปมให้เฮนรี่มากกว่า ส่งให้เขาไม่อาจปล่อยของเท่าที่ควร ในทางกลับกัน พ่อหนุ่มณเดช… เอ่อ… เบรนตัน ธเวตส์ ในบท เฮนรี่ เทอร์เนอร์ ที่บทมากมายกว่าซาลาซาร์ก็ไม่ได้ใช้ความเยอะดังกล่าวให้เป็นประโยชน์แก่เจ้าตัวเลยครับ พี่แกเล่นได้แข็งเหลือเกิน ผิดกับแม่สาว คาย่า สโคเดลาริโอ กับบท แคริน่า สมิธ ที่ดูจะเอาตัวรอดได้ดีกว่า และส่วนตัวคิดว่าหากเธอได้มีโอกาสสวมบทบาทนี้นานพอๆ กับตอนที่ เคียร่า ไนท์ลี่ย์ เล่นเป็น อลิซาเบธ สวอน แล้วล่ะก็ น่าจะแจ้งเกิดเธอจริงๆ จังๆ ได้เลยครับ เพราะความสวยผ่าน แถมจริตจะก้านเล่นหูเล่นตาก็พอมี เชียร์เต็มที่เลย!

     Pirates of the Caribbean: Salazar’s revenge ยังเป็นหนังที่สนุกสนาน ดูได้ทุกเพศ แต่คราวนี้อาจจะไม่ทุกวัยแล้ว ด้วยมุขตลกที่มีความผู้ใหญ่กว่าเดิมแบบคาดไม่ถึง เด็กๆ อาจจะไม่เก็ทบ้างครับ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำกันสักหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นคุณภาพโดยรวมก็ถือว่าเอาตัวรอดไปได้ ผู้ชมไม่เสียดายค่าตั๋ว และคงทำกำไรให้กับ Disney เหมือนเคย เพียงแต่ถ้ายังจะทู่ซี้ทำต่อภาคหน้า (ซึ่งก็เป็นไปได้ เพราะอี End Credit แบบให้ตีความกันเองนี่แหละ) ผมว่ามันก็ถึงเวลาที่หนังควรจะสรรหาความแปลกใหม่และโตขึ้นได้แล้วครับ เพราะความเก่าเพียงอย่างเดียวที่ยังเฉิดฉายและควรนำกลับมาใช้ใหม่คือ จอนนี่ เดปกับบท แจ็คสแปโรว์ของเขาเท่านั้น หากยังดึงดันวนเวียนอยู่กับสิ่งเดิมๆ สภาพของแฟรนไชส์ก็คงจะค่อยๆ พังและจมลงไปอย่างจืดจางเฉกเช่นเดียวกับเรือรบราชนาวีอังกฤษในภาคนี้อย่างแน่นอน 

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้