สัมภาษณ์พิเศษ ผู้กำกับเกม Deus Ex: Mankind Divided จากงาน E3 2016
ในที่สุด วันที่ 23 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อนๆ ก็คงจะได้สัมผัสกับภาคต่อของเกม Deus Ex ที่มีชื่อภาคว่า Mankind Divided กันแล้วนะครับ โดยภายในงาน E3 2016 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทีมงาน Online Station ก็ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์คุณฌอง ฟรองซัวร์ ดูกาส์ (Jean-Francois Dugas) ผู้กำกับเกมดังกล่าวนี้เอง ซึ่งคุณดูกาส์ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว มาชมกันเลยดีกว่าครับ
Q: เป็นที่ทราบกันดีว่าในภาค Mankind Divided นั้น ตัวเอกของเราจะสามารถเลือกเส้นทางในการตัดสินใจที่จะส่งผลต่อการดำเนินเนื้อเรื่องด้วย ตรงนี้คุณดูกาส์พอจะขยายความให้หน่อยได้มั้ยครับ?
คุณดูกาส์: ก็คือว่าตัวเลือกที่มีให้เลือกในเกมเนี่ย แต่ละคนที่เข้าเล่นใน Story Mode จะเจอสถานการณ์ไม่เหมือนกัน กล่าวคือผู้เล่นคนหนึ่งอาจจะไปถึงจุดหมายคนละแห่งกับอีกผู้เล่นหนึ่ง โดยเส้นทางที่ลุยไปก็อาจจะไม่เหมือนกันด้วย ไม่ว่าเราจะพูดอะไรหรือตอบอะไร เลือกที่จะฆ่าหรือไม่ฆ่า ทุกอย่างจะมีผลตามทฤษฎี Butterfly Effect ทั้งหมด ซึ่ง Mankind Divided จะมีตัวเลือกให้ผู้เล่นเลือกมากกว่าเกมอื่นๆ ปกติแล้วเกมอื่นๆ ทั่วไป เวลาเราเจอทางแยกที่เราต้องเลือกตอบ ก็มักจะมีคำตอบที่ถูกและผิดปะปนกัน ถ้าเลือกถูกถึงจะไปต่อได้ เป็นต้น แต่กับ Mankind Divided แล้ว ทุกคำตอบสามารถดำเนินเกมต่อได้หมด ทว่าการเลือกตอบแต่ละข้อจะส่งผลกระทบกับสิ่งต่างๆ ในภายหลังได้ ผู้เล่นจะต้องใช้วิจารณญาณในการตอบแต่ละคำถาม หรือเลือกตัดสินใจในแต่ละจุด ว่าสิ่งไหนที่ผู้เล่นคิดว่าเหมาะสมที่สุดกับตนเองครับ
Q: คุณดูกาส์มีแนวทางในการพัฒนาภาคนี้อย่างไรบ้างครับ?
คุณดูกาส์: ทีมงานจะมีการหารือร่วมกันก่อนครับว่าจะใช้เกมเพลย์หรือเนื้อเรื่องเป็นตัวนำทิศทางของเกม เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว อย่างแรกเลยคือตัวเนื้อเรื่องจะต้องทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าตัวเกมมันมีการดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ส่วนเกมเพลย์ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่าเนื้อเรื่องช่วงนั้นช่วงนี้ ควรจะต้องมีเกมเพลย์อย่างไรจึงจะเข้ากันได้อย่างกลมกลืน ให้คนเล่นได้เกิดปฏิสัมพันธ์กับตัวเกมได้ดีขึ้น การจะเอาจุดนั้นจุดนี้ไปใส่ในเกม ต้องคำนึงถึงความสมเหตุสมผลก่อนเป็นอันดับแรก เช่น ตรงนี้ควรต้องเป็นสไตล์ลอบเร้น ตรงนี้ควรต้องบู๊แหลก ตรงนี้ควรต้องไขปริศนา ประมาณนี้ ถึงอย่างไร สุดท้ายแล้วเนื้อเรื่องก็จะต้องเป็นส่วนที่สำคัญกว่าเกมเพลย์ และเกมเพลย์ต้องมีหน้าที่ซัพพอร์ตเนื้อเรื่องไปจนจบเกม
Q: มีอะไรที่เคยขาดหายไปจากภาคก่อนหน้า (Human Revolution) แล้วนำมาใส่เพิ่มเติมในภาค Mankind Divided มั้ยครับ? ถ้ามี คืออะไรบ้าง?
คุณดูกาส์: หลักๆ แล้วเราจะติดตาม Feedback ของผู้เล่นอยู่สม่ำเสมอครับ ผู้เล่นบางคนก็จะมีให้คอมเม้นท์ว่าเกมนั้นเกมนี้เขามีฟีเจอร์ดีๆ แบบนั้นแบบนี้ด้วยนะ น่าจะลองเอามาใส่ใน Deus Ex ภาคใหม่บ้างนะ หรือแม้แต่ดีไซน์ของอาวุธ รูปแบบของฉากต่างๆ ก็มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามความต้องการของผู้เล่น แต่จะมีอะไรเพิ่มมาบ้างนั้น อยากให้ผู้เล่นได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองดีกว่านะครับ และถ้าตัวเกมเต็มออกมาแล้ว ทีมงานรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไปและน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้เล่น ก็จะมีกระบวนการเร่งออก Patch แก้ไขตามมาในภายหลังด้วย หรือถ้าจะเป็นอัพเดตครั้งใหญ่ ก็อาจจะมีการทำตัวเกมในรูปแบบ Complete Edition หรือ Game of the Year Edition เพื่อใส่เป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ในคราวเดียวมาเลย เป็นต้น
Q: แล้วในด้านของ AI ศัตรูจะมีอะไรที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิมบ้างครับ?
คุณดูกาส์: บรรดา AI ในภาคนี้จะฉลาดขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า และพวกมันจะมีการใช้ลูกเล่นประจำซีรีส์นี้อย่าง Augmentation บ่อยขึ้น โดยจะมีการเปลี่ยนแขนเป็นปืนไว้สำหรับโจมตีเรา รวมถึงมีกลวิธีในการหลอกล่อหรือดักทำร้ายเราได้หลายรูปแบบ ซึ่งภาคก่อนๆ ลูกเล่นพวกนี้อาจจะทำไม่ได้ หรือได้ไม่เท่าภาค Mankind Divided นั่นเอง
Q: ปมประเด็นของพล็อตเรื่องในภาค Mankind Divided มีอะไรที่น่าสนใจบ้างครับ?
คุณดูกาส์: เมื่อก่อนผู้คนในเกมอาจจะเป็นคนพิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แต่ในเกมนี้บรรดาคนเหล่านั้นก็จะมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ทำให้พวกเขาสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้เหมือนคนมีอวัยวะครบ 32 ทุกประการ ต่อมาเทคโนโลยีดังกล่าวก็เริ่มมีบทบาทกับผู้คนกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น เลยเกิดการแบ่งแยก เกิดความขัดแย้งของเนื้อเรื่องขึ้นมา ระหว่างกลุ่มคนที่ได้รับผลประโยชน์จากระบบ Augmentation (อวัยวะเทียม) จนแทบจะมีอวัยวะที่เป็นจักรกลมากกว่าส่วนที่เป็นเนื้อหนังแบบมนุษย์ กับอีกฝั่งที่เป็นมนุษย์แท้ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่มีอะไรถูกหรือผิด มันอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน แต่ละฝั่งที่ฝักใฝ่ ฝั่งที่เป็นมนุษย์แท้ๆ ก็จะมองว่าพวกมนุษย์ที่พึ่งพาอวัยวะเทียมนั้นไม่ควรใช้ชีวิตหรืออยู่สังคมเดียวกันกับพวกตน อารมณ์จะเหมือนภาพยนตร์เรื่อง X-Men ในแง่ที่คนธรรมดามองพวกมิวแตนท์ว่าไม่เข้าพวก เป็นต้น ซึ่งที่มาของเรื่องราวจะเริ่มมาจากการที่เหล่ามนุษย์ที่ใช้อวัยวะเทียมบางคนไปก่อคดีอุกฉกรรจ์เข้า หรือเรียกว่านำเทคโนโลยี Augmentation ไปใช้ในทางที่ผิด ทำให้กระแสสังคมเรียกร้องให้ฝั่งมนุษย์แท้และมนุษย์ผสมต้องหันหน้ามาคุยกัน เพื่อถกถึงวิธีแก้ปัญหาและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
Q: คุณดูกาส์มีอะไรที่อยากแนะนำเป็นพิเศษเกี่ยวกับ Deus Ex: Mankind Divided บ้างมั้ยครับ?
คุณดูกาส์: ภาคนี้ทีมงานอยากจะให้ผู้เล่นได้รู้สึกว่าตัวละครที่บังคับนั้นเป็นเสมือนไซบอร์กจริงๆ และด้วยความที่ต้องมีการทำตัวกลมกลืนกันในสังคมที่มีมนุษย์แท้ๆ ปะปน
จึงต้องมีการทำคอสตูมของตัวเอกให้มีทั้งแบบใส่แจ็กเก็ตที่ปกปิดส่วนที่เป็นอวัยวะเทียม และแบบที่ไม่ใส่แจ็กเก็ต ตลอดจนพวกตัวเลือกต่างๆ ที่ผู้เล่นต้องทำการตัดสินใจเลือก
พร้อมด้วยผลกระทบที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นอีกนับร้อยผลลัพธ์ และแม้ว่าทีมงานจะสามารถเสริมหรือปรับแก้จุดบกพร่องต่างๆ ในรูปแบบ Patch หรือทำออกมาเป็น DLC ก็ตาม
แต่ทว่าในภาคนี้ ทีมงานนั้นได้รับอิสระในการพัฒนาอย่างเต็มที่ ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณภาพของเกมที่ออกมาจะโดนใจทั้งแฟนๆ และผู้เล่นหน้าใหม่ได้อย่างแน่นอน