Kang Fu Panda กับตัวผมเองนั้นมันมีเรื่องน่าแปลกอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ตัวหนังทุกภาคผมจัดไว้ในหมวดหมู่อนิเมชั่นที่ชื่นชอบ แต่ผมกลับแทบไม่เคยได้ดูมันในฟอร์แมตของโรงภาพยนตร์เลย ดังนั้นแล้วภาค 4 นี้จึงเป็นครั้งแรกที่ผมได้ดูเจ้าโปในโรงภาพยนตร์ ซึ่งขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นมันก็ช่วยให้เข้าใจในความยิ่งใหญ่ของหุบเขาที่โปเขาใช้อยู่อาศัยได้อย่างดี และยิ่งภาคนี้มีโลเคชั่นเป็นเมืองขนาดใหญ่แล้วด้วย การได้ดู Kang Fu Panda 4 บนจอใหญ่ๆ มันจึงช่วยเพิ่มอรรถรสได้ดีมากๆ
สำหรับ Kang Fu Panda 4 นั้น ด้วยความที่มันห่างกับภาค 3 นานพอสมควรทำให้หลังๆ ลืมๆ ไปเยอะ โชคดีที่พอหนังเริ่มปล่อยตัวอย่างแรกมันก็ยังมีเวลาให้ผมย้อนกลับไปดู 3 ภาคแรก รวมไปถึงเพจต่างๆ และแฟนๆ ที่ขยันผลิตมีมต้อนรับการกลับมาของเจ้าโป จนเป็นกระแสไปพักใหญ่ๆ รวมไปถึงการเรียกร้องให้นำทีมพากย์ชุดเดิมรวมถึงพี่ดีเจเชาเชากลับมาให้เสียงไทยของโปอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างมาก การได้ยินเสียงดีเจเชาเชาในหนังมันเป็นเหมือนเซฟโซน เมื่อโปยังเป็นเสียงเดิม ที่เหลือก็คือกำไรละ
แต่อันที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องไปไล่ทำการบ้านหนักหนาอะไร คิดว่าถ้าจำได้ลางๆ ว่าใครเป็นใครบ้างก็น่าจะดูรู้เรื่องได้ไม่ยากครับ เพราะผมอาจจะมีความรู้สึกว่าภาคนี้เป็น Prelude สู่การผจญภัยครั้งใหม่ หรือไม่ก็เป็นภาคที่เจ้าเชื่อมระหว่าง Ark เก่ากับใหม่ มีการโชว์ตัวละครสำคัญตัวใหม่ และแก่นของเรื่องก็มีการเน้นย้ำถึงความเปลี่ยนแปลงกับปล่อยวางอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ดังนั้นก็พอจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเกือบตลอดทั้งเรื่องจึงเน้นไปที่ตัวละครไม่กี่ตัว และห้าผู้พิทักษ์บทบาทหายไปไหน (ในเรื่องมีบอกเหตุผล)
และแม้จะเป็นภาค 4 แล้วแต่ Kang Fu Panda ยังคงรักษาความเป็นตัวเองได้อย่างดี พล็อตไม่ซับซ้อนดูง่ายย่อยง่ายเหมาะกับทั้งครอบครัว คือตัวหนังมักจะมาในแนวแบบว่าเปิดตัวศัตรูต้นเรื่อง โปมีเป้าหมายต้องจัดการ แล้วก็เดินทางไปจัดการ อาจมีกิมมิคที่แตกต่างกันไปตอนเดินทาง แต่ภาพรวมก็ประมาณนี้ และผมมักจะรู้สึกทุกครั้งว่าหนังมันจบเร็วจัง อาจเพราะด้วยสกรีนไทม์ก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกส่วนก็เพราะว่าช่วงท้ายตอนไฟต์ไคลแมกซ์มันมักจะเป็นช่วงที่สนุกมากๆ เสียจนอยากให้หนังมันนานกว่านี้อีกหน่อย กับภาคนี้ก็ไม่ต่างกันครับ มีช่วงปล่อยมุุกสนุกสนาน และซีนบู๊สุดมันส์ การพากย์ของดีเจเชาเชายังเยี่ยมเช่นเคย มีการปรับมุกบางจุดให้เข้ากับความเป็นคนไทย ดูลื่นไหล และเรียกเสียงฮาได้เรื่อยๆ
ถึงอย่างนั้นแม้ตัวเรื่องจะชูเรื่องโอบรับความเปลี่ยนแปลง แต่ตัวละครใหม่ที่ดูทรงแล้วน่าจะมีส่วนสำคัญในภาคหน้าไม่มากก็น้อย (ถ้ามี) กลับยังไม่สามารถเข้าไปนั่งในใจผู้ชมได้ดีพอ สุดท้ายแล้วโปในสภาพที่เติบโตขึ้นไปอีกขั้นก็ยังดูจะได้ใจผู้ชมไม่ต่างจากเดิม และเราก็รู้สึกผูกพันธ์กับเขามากขึ้นอีกระดับ คิดว่าเราน่าจะได้เห็นช่วง Prime จริงๆ ของโปเสียทีในภาคถัดไป (ถ้ามี)
ในภาพรวม Kang Fu Panda 4 ยังคงเป็น Kang Fu Panda ในแบบที่เราคุ้นเคย กับลีลาหนังที่ทำให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง สนุก อบอุ่น ได้ข้อคิด และเป็นภาพยนตร์ที่สามารถดูได้ทั้งครอบครัว เพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาของโปในคราวนี้ยังไงก็แนะนำให้ชมในโรงภาพยนตร์จะเต็มอรรถรสที่สุดครับ ชุกกะดุ๊ส!
Verdict
7.5/10
ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://majorcineplex.com/movie/kung-fu-panda-4
ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชมภาพยนตร์
ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station
