รีวิว Horizon Forbidden West Complete Edition สุดยอดเกมแอ็คชั่น RPG ภาคต่อที่ถูกยกระดับในทุก ๆ องค์ประกอบให้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม!

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า Horizon Forbidden West Complete Edition นั้นเป็นการนำเอาเกมภาคหลัก, ภาคเสริมอย่าง Burning Shores พร้อมของแถมและไอเทมอื่น ๆ เข้ามารวมกันไว้ในแพ็คเดียว โดยเกมนี้นั้นเป็นเกมแนวแอ็คชั่น RPG ที่จะพาผู้เล่นไปรับบทเป็นเอลอยผจญภัยไปยังดินแดนที่แสนอันตราย พร้อมต่อสู้กับเหล่าจักรกลสุดโหดที่มีมากมายหลายรูปแบบ เพื่อคืนสมดุลของโลกให้กลับมาดั่งเดิม ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน Online Station จะมาขอนำเสนอบทความรีวิวเกมนี้มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันครับ…

เนื้อเรื่องเข้มข้น น่าติดตาม

Horizon Forbidden West Complete Edition จะมีการดำเนินเรื่องราวต่อจากภาค Zero Dawn (หากใครไม่เคยเล่น Zero Dawn มาก่อนหน้า ตัวเกมจะสรุปเรื่องราวในเบื้องต้นให้ทราบ ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง) เมื่อโรคระบาดสีแดงได้แพร่ไปยังพืชพรรณและสิ่งมีชีวิต ทำให้ตัวเอกอย่างเอลอยต้องเดินทางไปสู่ดินแดนตะวันตก (รัฐเนวาด้าและรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา) เพื่อค้นหาความจริงและกอบกู้โลกนี้กลับมาให้ได้

ตัวเกมนำเสนอเนื้อเรื่องออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านบทสนทนา คัตซีนและเกมเพลย์ได้อย่างลงตัว มีลำดับการนำเสนอและคลายปมตรงจุดต่าง ๆได้ดี มีความน่าติดตามและค้นหา ทำให้เราได้เล่นไปได้เรื่อย ๆ ไม่รู้สึกเบื่อ เนื้อเรื่องของเกมมีความเข้มข้น น่าสนใจ ตัวเกมถูกนำเสนอในรูปแบบของ Open World ที่ใช้ภารกิจหลักเป็นตัวดำเนินเนื้อเรื่อง และผนวกเข้ากับภารกิจรองและภารกิจเสริมที่ช่วยปรุงแต่งเกมให้มีความน่าเล่น ซึ่งภารกิจต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนถูกถักทอเรื่องราวให้มีความน่าติดตาม ช่วยชูรสในการเล่นได้เป็นอย่างดี

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องขอชมคือช่วงของฉากคัทซีนที่มีการถ่ายทอดบทสนทนาระหว่างตัวละครที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ ตัวละครมีการแสดงอารมณ์ สีหน้าท่าทางออกมาได้ดี ดูเหมือนกำลังนั่งรับชมภาพยนต์ที่มีฉากบรรยากาศที่ดึงผู้เล่นเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

อีกทั้งตัวเกมรองรับภาษาไทย ทั้งเมนูคำสั่ง บทบรรยายไทย และต้องขอบอกว่าทางทีมงานแปลออกมาได้สละสลวย เข้าใจง่าย ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่านี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของตัวเกมเลยทีเดียว เพราะมันช่วยให้เราสามารถเข้าใจถึงเนื้อเรื่อง พื้นหลังและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ตัวเกมนำเสนอได้อย่างเต็มอรรถรส

เกมเพลย์ที่ยกระดับความสนุกไปอีกขึ้น

ก่อนที่จะเริ่มเล่นเกมนั้นจะมีตัวเลือกในการเล่นได้หลายแบบ ทั้งแบบท้าทายที่คอยให้ผู้เล่นได้ออกค้นหาสิ่งต่าง ๆ ภายในเกมเอง หรือแบบระบบนำทางที่ตัวเกมคอยชี้บอกถึงตำแหน่งที่ต้องไปหรือตำแหน่งไอเอมต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้ช่วยให้ผู้เล่นมือใหม่และมือเก๋าได้เลือกรูปแบบตามที่ต้องการ ถือว่าออกแบบมาได้ครอบคลุมความหลากหลายของผู้เล่นได้ดีทีเดียว

ทีมผู้พัฒนาได้ออกแบบภารกิจต่าง ๆ ในภาคนี้ได้อย่างลุ่มลึกและลงตัวมาก ๆ โดยระบบภารกิจจะเเบ่งออกเป็น ภารกิจหลัก-รอง และภารกิจเสริมต่าง ๆ ให้ผู้เล่นได้ทำอย่างจุใจ รวมถึงยังมีสถานที่ลับที่รอคอยให้ผู้เล่นได้ค้นพบ ซึ่งภารกิจต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้เราเข้าถึงรายละเอียดของเผ่าพันธ์ต่าง ๆ ในดินแดนแห่งนี้ รวมถึงได้เข้าใจถึงตัวละครอย่างเอลอยมากยิ่งขึ้น

เมื่อเราดำเนินเนื้อเรื่องหรือภารกิจหลักไปถึงจุด ๆ หนึ่งก็จะมีพวกอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้ในการเดินทาง ถือว่าเป็นอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสนุกในการเล่น ส่วนระบบปีนป่ายภายในเกม ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ดูเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาก ๆ ท่วงท่างการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของเอลอยนั้นดูมีความลื่นไหล

ระบบการอัปเกรดในภาคนี้จะเเบ่งออกเป็น 6 สายในการอัปเกรดสกิลรูปแบบต่าง ๆ (รับสกิลพอยด์จากการเก็บเลเวลและการทำภารกิจเพื่อใช้ในการอัปเกรด) เช่น เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ในระยะประชิดหรือระยะไกล สายนักทำกับดัก สายพราน ผู้รอดชีวิต เจาะเกราะ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็ความลักษณะแตกต่างกันออกไป ตรงจุดนี้ถือว่าให้อิสระผู้เล่นอย่างเต็มที่ในการเลือกอัปเกรดสกิลต่าง ๆ ตามรูปแบบการเล่นที่ตัวเองถนัดและมีความความชอบ นอกจากนี้ยังมีท่าพิเศษที่ช่วยเสริมความสามารถของเอลอยให้ผู้เล่นได้เลือกใช้ด้วย ส่วนระบบการอัปเกรดอาวุธและชุดสามารถทำผ่านทางโต๊ะอัปเกรดภายในเมือง โดยเราจำเป็นต้องใช้หาทรัพยากรจากการดรอปของศัตรูมาใช้ในการอัปเกรด

สิ่งที่ผมรู้สึกชอบเป็นพิเศษคือ เอลอยนั้นสามารถใช้ระบบโฟกัสที่เมื่อมองไปแล้วจะปรากฏรายละเอียดต่าง ๆ ที่น่าสนใจปรากฏขึ้นมา รวมถึงแสดงจุดต่าง ๆ ว่าตรงไหนเป็นจุดที่ปีนได้ ช่วยให้เล่นเกมได้ง่ายกว่าเดิมเยอะ และถ้าใช้ระบบกับศัตรูเราจะสามาถรับรู้ถึงจุดอ่อน จุดเเข็งและใช้กลวิธีในการจัดการได้อย่างไม่ยากนัก ถือว่าตัวเกมนั้นออกแบบเกมเพลย์ตรงจุดนี้ได้ดี

สัตว์จักรกลมีความหลากหลาย พวกมันความสามารถและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน แต่ละตัวก็ถูกออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมและอลังการ เวลาได้เผชิญหน้ากับบอสยักษ์สัตว์จักรกลรูปแบบต่าง ๆ นั้น ถือว่าสนุกมากและท้าทายเอามาก ๆ และในบางสถานการณ์ผู้เล่นจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีหรือคิดแผนโค่นล้มสัตว์จักรกลผ่านการใช้อาวุธหรือเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งตรงจุดนี้ช่วยเพิ่มความลุ่มลึกในการเล่นได้เป็นอย่างดี

สภาพแวดล้อมภายในเกมนั้นมีความหลากหลายมาก ๆ ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศรอบตัวตั้งแต่การเดินทางไปยังป่าลึก เมืองต่าง ๆ สำรวจท้องฟ้าด้วยสัตว์จักรกล เรียกว่าเกมนี้นำเสนอได้ครบรสชาติ

กราฟิกสวยงาม สมจริง เต็มไปด้วยรายละเอียด

สำหรับระบบกราฟิกของเกม Horizon Forbidden West Complete Edition นั้นต้องขอชมเลยว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวละคร งานอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัวละคร เเสง เงา ควัน สภาพแวดล้อมต่าง ๆ สิ่งก่อสร้าง หมู่บ้าน เมือง ชุมชนต่าง ๆ ซากปรักหักพัง ต้นไม้ ใบหญ้า สายน้ำ และอื่น ๆ ทำมาออกมาได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วยรายละเอียด คือมันมีความรู้สึกว่าได้เล่นเกมพร้อมชมบรรยากาศไปด้วยนี่ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดจริง ๆ

เวลาเข้าฉากคัตซีนต้องขอบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ตัวเกมนำเสนอเรื่องราว บทสนทนา และรายละเอียดอื่น ๆ ที่ทำให้เราได้เห็นเบื้องหลังและภาพรวมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งคัตซีนในและช่วงก็ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม ทำให้เรารู้สึกถึงการมีส่วนร่วม ทำให้เกมดูมีมิติ ตรงจุดนี้ทีมผู้พัฒนารังสรรค์ออกมาได้อย่างดีเช่นกัน

Horizon Forbidden West Complete Edition นั้นแสดงรายละเอียดกราฟิกได้คมชัด สวยงาม สมจริง การปลดล็อกเฟรมเรตทำให้เล่นเกมนี้ได้อย่างลื่นไหล ตัวเกมไม่มีบั๊กให้กวนใจ (เพราะในช่วงที่เขียนรีวิวทีมผู้พัฒนาได้ออกแพตช์มาแก้ไขแล้ว) แถมไม่กินสเป็คมากเท่าไหร่นัก ทำให้คอมพิวเตอร์รุ่นที่ไม่เก่ามากนักก็เล่นได้ ถือว่าทางทีมผู้พัฒนา Optimize เกมในเวอร์ชั่น PC ได้อย่างลงตัว, มีตัวเลือกปรับกราฟิกที่หลากหลาย, รองรับการใช้เมาส์และคีย์บอร์ด

Horizon Forbidden West Complete Edition นั้นมีฟีเจอร์รองรับการเล่นบน PC ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรองรับหน้าจอ Ultrawide 21:9, Super Ultrawide 32:9 และหน้าจอ 48:9, รองรับเทคโนโลยี NVIDIA DLSS 3, NVIDIA DLAA, NVIDIA Reflex, ตั้งค่าระบบกราฟิกได้ตามความต้องการของผู้เล่นและไม่มีการล็อกเฟรมเรต, รองรับคอนโทรลเลอร์ DualSense และมีตัวเลือกการตั้งค่าจอยที่มีรายละเอียดมากขึ้น เป็นต้น

บทสรุปส่งท้าย

ต้องยอมรับว่าผู้พัฒนาอย่าง Guerrilla นั้นได้ยกระดับองค์ประกอบต่าง ๆ ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง การนำเสนอ ระบบภารกิจหลัก ภารกิจรอง ภารกิจเสริม เกมเพลย์ กราฟิก เสียงที่ถูกรังสรรค์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวเกมนั้นรองรับภาษาไทยด้วย ยิ่งเป็นที่ถูกใจผู้เล่นหลาย ๆ คน ซึ่งตรงจุดนี้ช่วยให้เราเข้าใจและเข้าถึงตัวเกมได้มากขึ้น

ระบบเกมเพลย์ถูกยกเครื่องให้มีความสนุกและท้าทายผู้เล่น ช่วงเวลาได้ต่อสู้กับบอสสัตว์จักรกลตัวมหึมานั้นเป็นอะไรที่น่าตื้นเต้นเร้าใจ ด้วยการเล่นในส่วนเนื้อเรื่องกว่า 50 ชั่วโมง (ถ้าเก็บครอบให้สมบรูณ์ก็ปาไป 100 กว่าชั่วโมง) ทำให้ตัวเกมมีความคุ้มค่ามาก เพราะเป็นการรวมเนื้อหาหลักและเนื้อหาเสริมเข้าไว้ด้วยกันทำให้เราสามารถเล่นได้เนื้อหาครบ ซื้อแล้วจบในคราวเดียว แถมกลับมาเล่นซ้ำได้อีก

ในภาคนี้ตัวละครเอกอย่างเอลอยนั้นมีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในเรื่องการพูดคุย ทัศนคติ และความมุ่งมั่นที่เห็นได้ชัด ผ่านการสนทนาและการทำภารกิจภายในเกม พร้อมนำเสนอประเด็นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจทำให้ผู้เล่นรู้สึกน่าติดตาม ไม่น่าเบื่อ หากใครที่เป็นแฟนเกมในซีรีส์นี้อยู่แล้ว บอกเลยว่าสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเล่นเกมนี้ให้ได้ ส่วนใครที่กำลังมองหาเกมในแนวแอ็คชั่นมันส์ ๆ ที่มีทุกองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยม เกม Horizon Forbidden West Complete Edition นั้นจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนครับ!