[รีวิวหนัง] Spider-Man: Across the Spider-Verse ทลายทุกบาร์ที่เคยมี

หลายต่อหลายปีที่หนังฮีโร่เริ่มเข้าสู่ขาลงในแง่ของความตื่นเต้นและความกระสันอยากที่จะพาตัวเองไปรับชมแบบเดย์วันของผู้ชมก็ถดถอยลงอย่างน่าตกใจ ส่วนหนึ่งนอกจากเรื่องกลไกทางกาลเวลาแล้ว คุณภาพของตัวหนังผนวกรวมกับความผิดหวังที่หนังไม่อาจพาเราไปไกลกว่าที่วาดไว้ได้ ก็ทำให้แม้ตลาดหนังฮีโร่เข้าสู่สภาวะซบเซาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้มันจะยังทำเงิน แต่เราก็เริ่มเห็นหนังที่เจ๊งบ่อยขึ้น

ขณะที่เจ้าตลาดอย่าง Marvel ก็ดูจะเพิ่งมามีกราฟแบบหักหัวขึ้นในช่วง 2 เรื่องหลังนี่เอง ทว่านั่นก็อาจจะยังไม่ช่วยให้ภาพรวมของ MCU ดูดีขึ้นมากนัก ส่วนฝั่ง DC ก็อาจต้องรอ The Flash เข้าฉายก่อน จึงจะพอบอกได้ว่าส่งผลภาพรวมกับตลาดอย่างไร

แต่ความไม่มั่นใจหรือลังเลที่มีไม่ควรถูกใช้กับ Spider-Man: Across the Spider-Verse เพราะหากคุณมีความรู้สึกแบบนั้น เท่ากับว่าคุณอาจจะพลาดภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ End Game หรืออาจเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดตั้งแต่มีโลกภาพยนตร์มาเสียด้วยซ้ำไป

Spider-Man: Across the Spider-Verse

Spider-Man: Across the Spider-Verse เป็นภาคต่อของ Spider-Man: Into the Spider-Verse ภาพยนตณ์อนิเมชั่นจาก Sony Pictures ซึ่งได้รับคำชมอย่างมาก พอมาถึงภาคนี้ทุกๆ อย่างถูกยกเครื่องขึ้นไปอีกระดับ แบบว่าดีกว่าเดิมในทุกๆ องค์ประกอบ จนพาหนังก้าวข้ามจากงานชวนเซอร์ไพรซ์มาเป็นมาสเตอร์พีชได้อย่างเต็มภาคภูมิ

เนื้อเรื่องจะเป็นช่วงเวลาหลังจากภาคแรก และจะโฟกัสไปยังตัวของ เกว็น และ ไมล์ส ที่ต่างก็ต้องเจอกับอุปสรรคในการเติบโตของตัวเองไม่ว่าจะในฐานะปุถุชนทั่วไปหรือการเป็นฮีโร่ใต้หน้ากาก ตัวหนังให้เวลากับจุดนี้เยอะมาก แต่นั่นคือเรื่องดี เพราะมันช่วยเสริมให้ภาพรวมของเรื่องราวดูจริงจัง ขึงขัง และหนักอึ้งมากยิ่งขึ้นเมื่อตัวละครถึงจุดที่ต้องตัดสินใจเลือกทำอะไรบางอย่าง

Spider-Man: Across the Spider-Verse

ในขณะเดียวกัน Spider-Man: Across the Spider-Verse ยังคงเล่นประเด็นมัลติเวิร์สและใช้มันได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะในแง่ของการดำเนินเรื่อง, ขำขัน, อีสเตอร์เอ้ก หรือแม้กระทั่งเตรียมขายของ ความน่าทึ่งมากๆ ของมันก็คือการร้อยเรียงเรื่องราวที่ดูสุดจะยุ่งเหยิงนี้ให้สามารถเข้าใจได้ง่าย ไม่สับสน มีคลาส และไหลลื่นไปตลอด 2 ชั่วโมงกว่าโดยที่ไม่มีสะดุด พร้อมกับส่งประเด็นและมวลอารมณ์ความไฮป์สู่ภาคต่อไปได้อย่างสุดยอด เรียกว่าในแง่ของเนื้อเรื่อง Across the Spider-Verse ทำหน้าที่ของ “หนังตัวกลาง” ได้สมบูรณ์แบบมากๆ

Spider-Man: Across the Spider-Verse

งานด้านภาพของมันก็ไต่ระดับความคลั่งสู่อีกเขตแดนซึ่งว่ากันตามตรงมันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในตัว เพราะด้วยความฉูดฉาดพร้อมเปลี่ยนสไตล์ไปมาอันเป็นเอกลักษณ์ของเรื่อง เมื่อผนวกกับการออกแบบซีนแอคชั่นสุดฉวัดเฉวียนที่ใช้ประโยชน์จากความเป็นอนิเมชั่นไม่ใช่คนแสดงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สิ่งที่เราได้เห็นบนจอจึงมีทั้งความเท่ไม่บันยะบันยังและอาการปวดกบาลที่อาจตามมาโดยไม่รู้ตัว ขึ้นอยู่กับว่าคุณตามทันไหม อาจต้องมีขึ้นเตือนสำหรับคนมีปัญหาเรื่องภาพที่กะพริบไปมาหรือการเล่นสีสันที่คอนทราสต์จัดๆ ด้วย เพราะมันดูอาร์ทดูสวยจริง แต่อาจสร้างความลำบากใจให้กับคนบางกลุ่มไม่น้อย แต่หากคุณสามารถตามทันและรับกับมันได้ นี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่มอบประสบการณ์ด้านภาพและเสียงที่เอ็กซ์ตรีมที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

Spider-Man: Across the Spider-Verse

ข้อเสียเพียงไม่กี่อย่างที่อาจจะมองได้ของมันก็คือการที่ไม่จบในตอน และทำให้พวกเราค้างไปอีกเกือบปี แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่กล่าวโทษได้นัก เพราะมีการประกาศออกมาแต่แรกแล้วว่ามันจะเป็นภาพยนตร์ไตรภาค ทั้งตัวหนังเองก็ยังส่งไม้ต่อได้อย่างดี การที่เรารู้สึกว่าอยากดูต่อจนแทบทนไม่ไหว ก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของมันเช่นกัน

Spider-Man: Across the Spider-Verse เป็นชิ้นงานที่แทบจะไร้ที่ติ นอกจากงานด้านภาพที่อาจเป็นเรื่องปัจเจกไปบ้าง ทุกองค์ประกอบในหนังถูกทำออกมาอย่างลงตัว มีคลาส สามารถเก็ตได้ง่าย สำคัญที่สุดคือมันสนุกมากๆ หลายปีมานี้วลี “หนังฮีโร่ที่ดีที่สุด” ได้กลายเป็นมีมล้อกันเวลามีหนังฮีโร่เข้าโรงใหม่ๆ และนี่อาจเป็นครั้งแรกที่วลีนี้จะมีความหมายตรงกับตัวของมันจริงๆ พิสูจน์ความสุดขีดคลั่งของจักรวาลแมงมุมฉบับอนิเมชั่นได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ครับ

Spider-Man: Across the Spider-Verse


VERDICT

9.5/10

ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://majorcineplex.com/booking2/search_showtime/movie=1977

ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชม

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้