ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวโทษวิดีโอเกมว่ามีส่วนกับการเกิดจลาจลครั้งล่าสุดในประเทศ

ช่วงวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุจลาจลขึ้นหลายแห่งในประเทศฝรั่งเศส โดยชนวนเหตุเกิดมาจากความไม่พอใจที่ นาเฮล เมอร์ซุค (Nahel Merzouk) วัยรุ่นอายุ 17 ปีรายหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต ซึ่งการจลาจลได้ลุกลามบานปลายจนถึงขั้นวางเพลิงและปล้นสะดม กระทั่งทางการฝรั่งเศสสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้เอง

จากเหตุที่เกิดขึ้น เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ออกมากล่าวถึงเหตุเสียชีวิตของนาเฮลว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถให้อภัยได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีการกล่าวประณามการจลาจลด้วยว่าผู้ก่อเหตุควรต้องระงับอารมณ์และมีสติกว่านี้หากต้องการความยุติธรรมให้กับนาเฮล

มาครงกล่าวเสริมอีกด้วยว่าจำนวนผู้ก่อเหตุราว 3 ใน 4 นั้นยังเป็นเยาวชนที่อายุน้อยหรือน้อยมาก ๆ พร้อมกับโจมตีการใช้งานโซเชียลมีเดียในการปลุกระดมมวลชนของเยาวชนเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Snapchat ฯลฯ และกล่าวโทษวิดีโอเกมด้วยว่ามีส่วนที่ทำให้เกิดการใช้พฤติกรรมรุนแรงในเหตุจลาจลเช่นกัน

#Macron blames video games and social media for French riots.#FranceProtests pic.twitter.com/Tc3rm1jX2z
— In Context (@incontextmedia) July 1, 2023

อนึ่ง มาครงเผยว่าวิดีโอเกมที่มีเนื้อหารุนแรงนั้นทำให้คนที่เล่นถูกตัดขาดจากความเป็นจริง และการแสดงออกต่าง ๆ ในโลกวิดีโอเกมนั้นจะเป็นพิษภัยต่อสภาพจิตใจของผู้เล่นด้วย ซึ่งพ่อแม่ควรมีความรับผิดชอบที่จะดูแลให้วัยรุ่นเหล่านี้อยู่ในบ้านและเรียกร้องบรรดาโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มให้ควบคุมเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงกับการปลุกระดมให้เกิดจลาจลด้วย

อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้ประท้วงก็ได้วิพากษ์วิจารณ์คำกล่าวของมาครง โดยหาว่ามาครงพยายามเบี่ยงประเด็นและด้อยค่าการเสียชีวิตของนาเฮล ซึ่งฝั่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติก็ออกมาเรียงร้องให้รัฐบาลฝรั่งเศสตรวจสอบประเด็นการเหยียดและการเลือกปฏิบัติต่อชาติพันธุ์ เพราะเกรงว่าอาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของนาเฮล สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่ก่อเหตุยิงนาเฮลเสียชีวิตนั้นกำลังอยู่ระหว่างการถูกไต่สวน พร้อมถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายนครับ