Preview : Splinter Cell Double Agent เมื่อโหมดมัลติเพลเยอร์อันแสนจ๊าบได้รับการแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่

[color=red][b]Preview : Splinter Cell Double Agent เมื่อโหมดมัลติเพลเยอร์อันแสนจ๊าบได้รับการแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ (และหวังว่าคราวนี้จะมีคนเล่นมันสักที)[/b][/color][p]เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น Splinter Cell: Pandora Tomorrow ได้พาเราไปรู้จักกับเกมการเล่นแบบแอ็กชันลอบเร้นในโหมดมัลติเพลเยอร์ ที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นปฏิวัติวงการ เมื่อสายลับจอมซุ่มออกปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดในขณะที่ทหารรับจ้างติดอาวุธครบมือออกไล่ล่าอย่างสุดชีวิต ความกดดันในการเล่นแบบแมวจับหนูเช่นนี้เป็นอะไรที่ยอดสุดๆ แต่ก็อีกนั่นล่ะ เรื่องตลกๆ ก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อเกมแมวล่าหนูพลิกโผกลายเป็นหนูรุมทึ้งแมว และทำลายความสนุกทั้งหมดไป “บรรดานักเล่นมือฉมังเดนตายทั้งหลายนั้นเก่งจนเกินไป และเชือดผู้เล่นหน้าใหม่ เสียจนพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะได้สนุกไปกับมัน” นี่คือสิ่งที่ผู้พัฒนาได้บอกกับเรา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอะไรที่น่ากังขาสุดๆ เพราะบรรดาสายลับมือฉมังต่างเปิดเกมรุกเชือดทหารรับจ้างหน้าใหม่อย่างเร็วเสียจนพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในทางกลับกัน บรรดาสายลับมือใหม่ใจรักก็โดนทหารรับจ้างผ่านศึกจัดการทิ้งเสียจนไม่มีชิ้นดีด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่ามันเป็นอะไรที่น่าสับสนอย่างสุดๆ แม้กระทั่งนักเล่นเกมที่มีประสบการณ์โชกโชนมาแล้วก็ตาม [p]มาในคราวนี้ ทางผู้พัฒนาตั้งเป้าหมายใหม่สำหรับเกมการเล่นแบบสามปะทะสามที่เข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรต่อหน้าใหม่มากขึ้นใน Double Agent สำหรับเครื่อง Xbox 360 (และระบบ PS2, Xbox รวมถึง Gamecube ในลูกเล่นที่แตกต่างออกไป) แต่มันจะกลายเป็นลานประหารแสนสนุกสำหรับแฟนเดนตายอย่าง Pandora Tomorrow และภาคต่ออย่าง Chaos Theory อีกหรือไม่ [p]และถัดจากนี้ คือรายละเอียดของสิ่งใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาและสิ่งเก่าๆ ที่ถูกถอดออกไป ที่อาจจะช่วยให้แมวนักล่า (และหนูมือละอ่อน) ได้มีโอกาสอยู่รอดในโลกของ Splinter Cell มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม [color=blue][b]สายลับ[/b][/color][p][b]ก่อนหน้านั้น:[/b] ในภาค Pandora และ Chaos นั้น สายลับจะมีติดตั้งอุปกรณ์ได้ทั้งหมดสี่ชนิด ไม่ว่าจะเป็นระเบิดควัน, ระเบิดแสง และกล้อง Sticky Camera (ที่สามารถปล่อยแก๊สยาสลบได้) รวมถึงอาวุธอย่างปืนช็อคและท่วงท่าพิฆาตอย่างท่ากระทุ้งศอกและทิ้งดิ่งเพื่อจัดการกับเหล่าทหารรับจ้างให้พ้นทาง[p][b]ตอนนี้:[/b] สายลับพระกาฬกลับมาอีกครั้งเพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐบาล แต่เพื่อความเรียบง่ายของเกมการเล่น ทางผู้พัฒนาจึงตัดสินใจลดความได้เปรียบของเหล่าเงาพิฆาตทั้งหลายลง ทั้งปืนช็อค ท่าฟันศอก หรือบรรดาอุปกรณ์ทั้งหลาย ถูกริบไปจนหมด เพื่อให้พวกเขาเป็นพวกซ่อนซุ่มอย่างที่ควรจะเป็นมากกว่าถืออาวุธวิ่งยิงกระจาย ซึ่งสายลับจะพกอุปกรณ์ได้เพียงหนึ่งชนิดต่อการเล่นหนึ่งรอบเท่านั้น ซึ่งจะได้จากตอนเริ่มเกมและจากจุด “ปล่อยของ” ที่มีอยู่ภายในฉาก ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่านั้นมีทั้งระเบิดควัน ระเบิดแสง เข็มฉีดยาเพิ่มพลัง (เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองและเพื่อนร่วมทีม) และเครื่องก่อกวนสัญญาณ (สำหรับหลอกทหารรับจ้างให้ไปอีกทางหนึ่ง) แต่ท่าทิ้งดิ่งและท่ารัดคอจากด้านหลังก็ยังคงอยู่สำหรับเวอร์ชั่น 360 [p]อีกทั้งสายลับยังมีความคล่องตัวที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการเข้าปะทะกับทหารรับจ้าง โดยการกดปุ่มที่ถูกที่และถูกจังหวะจะส่งผลให้ออกท่า “หลบหนีฉุกเฉิน” เช่น การกระโดดทะลุหน้าต่างหรือสไลด์เข้าปล่องระบายอากาศ รวมถึงอุปกรณ์แฮคคอมพิวเตอร์อเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับดับไฟ ปั่นป่วนอุปกรณ์ของทหารรับจ้าง และดึงข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ระยะไกลอีกด้วย [color=blue][b]ทหารรับจ้าง[/b][/color][p][b]ก่อนหน้านั้น:[/b] เหล่าทหารรับจ้างที่อัดฉีดจนเต็มพิกัดในภาค Chaos Theory ด้วยปืนและกับระเบิดสามประเภท กับดักสายลับ ระเบิดพิฆาต และอื่นๆ พวกมันยังมีอุปกรณ์ให้เล่นกันอีกหลายชนิดทั้งเป้าเล็งเลเซอร์ ระเบิดแสง เครื่องจับเสียง และโหมดการมองที่ช่วยตรวจจับบรรดาสายลับจอมซุ่มทั้งหลาย[p][b]ตอนนี้:[/b] เหล่าทหารรับจ้างถูกริบของเล่นสุดอันตรายไปจนเกือบหมด แต่ก็ยังคงได้รับการอัดฉีดให้สามารถอัดกับเหล่าเด็กปั้นของรัฐบาลได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ปืนประเภทเดียวที่เหลืออยู่คือปืนไรเฟิลจู่โจมติดตั้งเครื่องยิงระเบิดและกล้องส่องระยะไกล และที่มาแทนของเล่นทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกับระเบิด กับดักสายลับ (หรือหน้ากากแก๊ส พลุไฟ หรืออื่นๆ) นั้น พวกเขาจะได้หุ่นโดรนติดตั้งกล้องบังคับระยะไกลที่สามารถเข้าซอกซอนในพื้นที่ที่สายลับชอบไปแต่พวกเขาเข้าไม่ถึง เช่นในท่อระบายอากาศและช่องต่างๆ อ้อ! ไอ้เจ้าหุ่นนี่ติดระเบิดด้วยนะ ทำให้มันกลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ของทีมนี้ไป [p]อีกทั้งเหล่าทหารรับจ้างก็จะมองโลกด้วยมุมมองที่ง่ายขึ้น พวกเขาสามารถเปิดปิดไฟที่กระบอกปืนที่ปรับระดับได้แทนที่เลเซอร์เล็งเป้า รวมถึงอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนเป็นหน้ากากติดสำเร็จ ซึ่งถ้าสายลับวิ่งพล่านในบริเวณนั้นแล้วล่ะก็ มันก็จะสว่างวาบขึ้นบนหน้าจอโดยที่ไม่ต้องไปปรับโหมดให้เสียเวลา แต่สำหรับ EMF สุดโกงยังคงเป็นอะไรที่ต้องเปิดใช้เองตามปกติ ถ้าสายลับปรับใช้มุมมองของกล้อง (ทั้งมองกลางคืนหรือจับความร้อน) แล้วล่ะก็ มันก็จะสว่างบนหน้าจอของทหารรับจ้างราวกับป้ายไฟที่เขียนว่า “ช่วยยิงอั๊วะที!” กันเลยทีเดียว[p]และสุดท้าย แทนที่จะเป็นลูกศรบอกว่าเสียง (ของเหล่าสายลับ) นั้นมาจากทางไหน พวกเขาก็จะได้ตัวช่วยที่น้อยลงในเครื่องตรวจจับ ซึ่งจะแสดงออกในรูปแบบภาพ (บอกระยะห่างคร่าวๆ บนหน้าจอ), เสียง (เสียงหัวใจเต้น) และแรงสั่นสะเทือน (บนจอยแพด) เมื่อเหล่าสายลับจอมซุ่ม (หรือตัวก่อกวนหลอกล่อ) นั้นอยู่บริเวณใกล้เคียง [center]Large Image[p]Large Image[color=red]ย่องเข้าไว้ เพราะยิ่งสายลับเคลื่อนไหวเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสว่างวาบบนหน้าจอตรวจจับใหม่ล่าสุดของเหล่าทหารรับจ้างมากขึ้นเท่านั้น[/color][/center][color=blue][b]เกมการเล่น[/b][/color] [p][b]ก่อนหน้านั้น:[/b] ทีมสายลับสองคนร่วมมือเพื่อปฏิบัติภารกิจ นั่นเป็นส่วนที่ง่ายๆ แต่จุดที่ยากจริงๆ คือการที่ต้องหลบเลี่ยงกับระเบิด, กับดักสายลับ, เลเซอร์ดักจับ, กล้องวงจรปิด และเครื่องตรวจจับการเคลื่อนไหว นั่นล่ะที่ทำให้เหล่าสายลับจอมซุ่มต้องกุมขมับเป็นเวลาเอ่อ…เกือบสองนาที ก่อนที่จะถูกจับได้และถูกเชือดทิ้งน่ะนะ[p][b]ตอนนี้:[/b] ไอ้ของกวนใจที่กล่าวไปข้างต้นเหรอ? บอกลามันได้เลย สิ่งที่สายลับต้องระวังเหลือแค่เพียงหุ่นโดรนระยะไกลและตัวของทหารรับจ้างเองเท่านั้น สายลับสามารถวิ่งไปในฉากได้อิสระขึ้น เพราะบรรดาเครื่องกีดขวางที่พวกเขาต้องตรวจจับและหลบเลี่ยงนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ยุคไดโนเสาร์ไปแล้ว [p]ภารกิจเองก็เรียบง่ายและเป็นเส้นตรงมากยิ่งขึ้นอย่าง “แทรกแซงและถอนตัวออกมา” ที่เหล่าสายลับจะต้องแฮคข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์และเอาไปทิ้งไว้ที่จุดปล่อยของ (ซึ่งระยะห่างจากเครื่องเป้าหมายยิ่งมากเท่าไหร่ กำลังส่งและระยะเวลาที่ต้องใช้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น) อีกทั้งแผนที่ขนาดย่อบนหน้าจอก็ช่วยให้สายลับและทหารรับจ้างเห็นตำแหน่งของคู่หูและเป้าหมาย รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่กำลังโดนแฮคด้วย [p]การออกแบบฉากก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกทำให้ “เรียบ” และ “เข้าถึงได้ง่าย” ยิ่งขึ้นกว่าเดิม นักออกแบบได้ปรับความซับซ้อนของเขาวงกตท่อระบายอากาศ พื้นต่างชั้น และเส้นทางอันหลากหลายให้ลดลงเหลือเป็นเส้นตรงที่ง่ายต่อการเล่นมากยิ่งขึ้น “ในแต่ละแผนที่ได้ถูกออกแบบและทดสอบให้ผู้เล่นสามารถจดจำฉากได้ภายในเวลาเพียง 10 หรือ 15 นาทีเท่านั้น” นี่คือสิ่งที่ผู้พัฒนาบอกกับเรา และเหนือสิ่งอื่นใดคือผู้ช่วย “ล่องหน” ที่กระจายไปตามจุดต่างๆ ของฉากเพื่อให้คำแนะนำแก่บรรดานักเล่นหน้าใหม่ ตัวอย่างเช่น ผู้ช่วยอาจจะส่งไอคอน “Y” บนหัวของผู้เล่น อาจจะเป็นตอนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับท่อระบายน้ำซึ่งมีความต่อไปนี้คือ 1) ท่อน้ำนี้สามารถปีนเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่สูงกว่าได้ และ 2) ผู้เล่นต้องกดปุ่มเพื่อปีนมันขึ้นไป (เดาสิว่าปุ่มไหน?) ซึ่งเจ้าผู้ช่วยล่องหนเหล่านี้จะหายไปเมื่อผู้เล่นเห็นมันมาระยะหนึ่งแล้วLarge Image[p]Large Image [p][color=red]ใน Double Agent นี้ ระบบติดตามค่าสถิติจะถูกนำมาใช้กับทุกๆ สิ่งภายในเกม (ทั้งจำนวนครั้งที่สายลับใช้กล้องมองกลางคืน หรือทหารรับจ้างใช้ระเบิด) สะสมแต้ม เพื่อเลื่อนระดับและปลดล็อคสกินใหม่ๆ (ใช่แล้ว คุณเล่นเป็นสายลับสาวได้ด้วย!) แผนที่ และรูปแบบการเล่นใหม่ๆ ซึ่งเจ้าระบบนี้จะใช้สำหรับจับคู่ในการเล่นแบบออนไลน์ด้วย[/color] [color=blue][b]เกมการเล่นแบบ Co-op[/b][/color] [p][b]ก่อนหน้านั้น:[/b] ในภาค Chaos Theory จะให้คุณได้เล่นภารกิจแบบเนื้อเรื่องไปกับคู่หูสายลับ มันเป็นอะไรที่สนุกดี เสียแต่ว่ามันสั้นและไม่มีวันจบแค่นั้นล่ะ [p][b]ตอนนี้:[/b] ในภาค Double Agent นี้ โหมดช่วยกันเล่นจะปรับเปลี่ยนให้เป็นการเล่นภารกิจแบบเดี่ยวในแบบ Versus แทนที่จะเป็นภารกิจขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่องดังเช่นเมื่อก่อน ซึ่งคุณและคู่หูสายลับจะได้เข้าต่อกรกับเหล่าทหารรับจ้างที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อปฏิบัติภารกิจ อย่างเช่น “ดาวน์โหลดข้อมูลให้มากที่สุดในเวลาที่จำกัด (โดยไม่ต้องเอาไปส่งที่จุดปล่อยของ)” รวมถึงบางภารกิจของโหมดนี้ยังให้ความท้าทายอยู่ไม่น้อย เช่น “คนแรกที่นำข้อมูลสองแผ่นมาส่งได้ก่อนจะเป็นผู้ชนะ” โดยทาง Ubisoft มีแผนที่จะให้ตัวเกมมีแผนที่สำหรับโหมดนี้ 6 ฉาก อีก 12 ฉากที่ต้องปลดล็อคหลังจากการเล่น และอีก 12 ฉากที่เหลือนั้นสามารถหาโหลดได้จากระบบ Xbox Live หลังจากเกมวางจำหน่าย [color=blue][b]ความเห็นจากเกมเมอร์ผู้แสนโดดเดี่ยว[/b][/color][p][b]ก่อนหน้านั้น:[/b] ทั้ง Pandora Tomorrow และ Chaos Theory นั้นเป็นเกมการเล่นมัลติเพลเยอร์ที่เข้าท่าที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ลองเล่นมา แต่ก็อีกนั่นล่ะ มันดูด้อยลงไปเพราะความจริงที่ว่าบรรดาเพื่อนร่วมงานและเพื่อนเล่นเกมของผมต่างไม่แตะมันเลยเพราะความซับซ้อนที่มากจนเกินพอดี, ความโหดหินแบบฮาร์ดคอร์ และความยุ่งยากในการเล่น ให้ตายสิ ก็เป็นซะแบบนี้กันหมด เด็กๆ กันทั้งนั้น! [p][b]ตอนนี้:[/b] ในตอนแรกผมรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับทิศทางใหม่ของโหมดการเล่นมัลติเพลเยอร์ของภาคนี้กันสักเท่าไร ไม่มีอุปกรณ์ให้ใช้แล้วน่ะเหรอ? ไม่มีกับดักสุดมันไว้ล่อเชือดสายลับจอมจุ้น? แล้วแบบนี้กลยุทธ์ทั้งหลายที่เคยมีมามันจะไปอยู่ที่ไหนหมดเนี่ย? เอาเถอะ เรื่องเก่าๆ ก็ควรจะปล่อยไปอยู่ในวันเก่าๆ ที่ผ่านไปแล้วนั่นล่ะ เว้นเสียแต่ผมจะเก็บเอาเกม Chaos Theory อย่างถาวรไว้ในชั้นวางแผ่นแล้วล่ะก็ แต่หลังจากที่ผมได้ลองเล่น Double Agent ไปสักพักหนึ่ง มันก็ค่อยๆ ซึมซับเข้ามาทีละน้อยๆ ก็ไม่แน่ใจว่าเพราะผมโหยหาการเล่นแบบ Versus ของซีรีส์ Splinter Cell (ที่ผมห่างหายไปเกือบปี) หรืออย่างไร แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าติดใจกับความลื่นไหลของเกมการเล่นเป็นอย่างมากเพราะ ในฐานะสายลับ ผมไม่ต้องมาคอยพะวงตรวจหากับดักสุดโหดทุกฝีก้าวอีกต่อไปแล้ว จะมีก็แต่เพียงทหารรับจ้าง ภารกิจ และการย่องให้เงียบในแบบที่สายลับที่ดีควรเป็นเท่านั้น และเมื่อพบว่าไม่สามารถที่จะตามไปเก็บทหารรับจ้างได้ทุกคนที่เห็น (เพราะสายลับถูกลดความได้เปรียบในเชิงรุกลง) มันทำให้ผมตกอยู่ในสภาพวิตกจริตแบบสุดๆ นั่นเพราะผมอ่อนแอ เกือบจะเรียกว่าไร้พลังต่อกร และจำเป็นต้องอยู่ในเงามืดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคุณรู้อะไรมั้ย? เกมการเล่นแบบนี้ล่ะที่นำพาเราเข้าใกล้กับบางสิ่งที่เหนือกว่าความกดดันเสียอีก แต่ในทางกลับกันกับฝ่ายทหารรับจ้าง ผมกลับคิดถึงการติดตั้งอุปกรณ์ดักจับสายลับพวกนั้นเลยล่ะ[p]แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกประทับใจในความเรียบง่ายไม่ยุ่งยากของฝ่ายนี้ในการต่อกรกับเหล่าสายลับและการที่ต้องใช้การตอบสนองชนิดถึงเนื้อหนังต่อสถานการณ์หนึ่งๆ มากขึ้น (บอกลาได้เลยกับกับระเบิดปริศนา ต้องเห็นและยิงกันจะจะเท่านั้น) ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ในขณะที่มันสูญเสียความลุ่มลึกในการวางแผนของโหมดนี้ไป แต่อย่างน้อย ผมก็เชื่อว่าบรรดาเพื่อนร่วมเกมและเพื่อนร่วมงานทั้งหลายคงจะต้องหันกลับมาปะทะกันในภาค Double Agent นี้กันเสียทีหลังจากที่หลบเลี่ยงจากภาค Chaos Theory ดูท่าความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนี้ก็มีแต่จะดีวันดีคืนเสียจริงๆ Large Image[p]Large Image[color=blue][b]Credit :[/b][/color] นิตยสาร Electronic Gaming Monthly (EGM)

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้