รวม 5 เกมซีรีส์ดังที่ออกแบบตัวละครโดย อากิระ โทริยาม่า

หากจะพูดถึง 1 ในบรรดานักวาดการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่นที่สร้างผลงานจนขึ้นไปอยู่ระดับตำนานแล้ว คงต้องมีชื่อของ อากิระ โทริยาม่า ผู้วาดการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอล รวมอยู่ในนั้นด้วยแน่นอน ซึ่งอาจารย์โทริยาม่านั้นนอกจากจะเคยวาดการ์ตูนมาหลายเรื่อง เจ้าตัวยังเคยร่วมออกแบบตัวละครให้กับวิดีโอเกมมาแล้วไม่น้อยเหมือนกัน

และรอบนี้เราก็ได้รวบรวมเกมซีรีส์ต่าง ๆ ที่อาจารย์โทริยาม่าเคยรับหน้าที่เป็นผู้ดีไซน์ตัวละครมาให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จักกันสักหน่อยครับ

Blue Dragon

หลังจากที่คุณฮิโรโนบุ ซาคากุจิ ผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Final Fantasy ได้ลาออกจาก Square Enix แล้ว เขาก็ได้ไปเปิดสตูดิโอพัฒนาเกมของตัวเองที่มีชื่อว่า Mistwalker พร้อมกับทำเกมป้อนลงเครื่อง Xbox 360 แบบ Exclusive อยู่ประปราย หนึ่งในนั้นก็คือ Blue Dragon ที่เป็นเกมแนว RPG แถมยังได้อาจารย์โทริยาม่ามาช่วยดีไซน์ตัวละครและศัตรูในเกมทั้งหมด เรื่องราวของเกมนี้จะโฟกัสไปที่การผจญภัยของเด็กวัยรุ่น 5 คน ที่ต้องเดินทางไปปราบเนเน่ จอมมารผู้ครองอาณาจักรแห่งปีศาจ โดยเกม Blue Dragon ยังได้ถูกดัดแปลงมาทำเป็นอนิเมะชื่อเรื่องเดียวกันที่มีความยาวถึง 51 ตอนอีกด้วย

Chrono Trigger

อดีตเกม RPG ระดับตำนาน ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น โครโน่ เด็กหนุ่มที่ต้องเดินทางท่องเวลาไปยังยุคสมัยต่าง ๆ แล้วรวบรวมพรรคพวกจากแต่ละยุคเพื่อไปปราบ ลาวอส อสุรกายจากต่างดาว ด้วยเกมเพลย์ในยุคนั้นที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเพลิดเพลินกับการผจญภัยข้ามเวลา ที่การกระทำของเราในยุคหนึ่งจะส่งผลต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในยุคหลังจากนั้นด้วย ซึ่งเกมนี้อาจารย์โทริยาม่าก็รับหน้าที่เป็นผู้ดีไซน์ตัวละครและมอนสเตอร์ในเกมทั้งหมดเลย ทุกวันนี้เรายังสามารถหาเกมนี้มาเล่นแบบง่าย ๆ ได้บนแพลตฟอร์ม iOS และ Android ครับ

Tobal No. 1
Tobal 2

ยุคทศวรรษ 1990 จนถึงกลางทศวรรษ 2000 ถือเป็นช่วงที่ Square (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน) พยายามจะออกเกมซีรีส์ใหม่ ๆ ฉีกกรอบจากแนว RPG ที่ตัวเองถนัดออกมาเป็นจำนวนไม่น้อยครับ ซึ่งก็รวมถึงซีรีส์ Tobal ที่เป็นเกมแนวไฟท์ติ้งด้วย โดย Square ได้ไปว่าจ้างให้สตูดิโอ DreamFactory ช่วยพัฒนาเกมซีรีส์นี้ให้จนมีให้เล่นบน PS1 ถึง 2 ภาคด้วยกัน สำหรับภาคแรกนั้นจะเน้นหนักไปที่ความเป็นเกมไฟท์ติ้ง ในขณะที่ภาค 2 จะเพิ่ม Quest Mode เข้ามา มีตะลุยดันเจี้ยนเพื่อปราบศัตรู ฟาร์มไอเทม เก็บประสบการณ์เพื่อเพิ่มสถานะตัวละครคล้ายแนวแอ๊กชั่น-RPG เลย ตอนนั้นใครที่เคยซื้อแผ่นแท้ของเกม Tobal No. 1 เวอร์ชั่นอเมริกาจะมีแผ่นเดโมของเกม Final Fantasy 7 แถมมาด้วย

Dragon Quest

Dragon Quest นั้นเป็นเกมซีรีส์แรก ๆ ที่ใช้บริการงานวาดของอาจารย์โทริยาม่าครับ ซึ่งซีรีส์นี้ถือเป็นแฟรนไชส์ที่เปรียบเสมือนหน้าตาของวัฒนธรรมวิดีโอเกมญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่ตัวเกมค่อนข้างมีเอกลักษณ์เชิงอนุรักษ์นิยมหลายอย่าง และมีแนวทางแตกต่างกับ Final Fantasy เสียเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้ง Dragon Quest ยังเคยสร้างปรากฏการณ์กับตลาดเกมประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่เกมภาค 4 เป็นต้นมา ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเคยถึงกับต้องขอความร่วมมือไปยัง Square Enix ให้วางจำหน่ายเกมให้ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์แทน (จากเดิมที่ 3 ภาคแรกเริ่มวางจำหน่ายตรงกับวันพฤหัสบดี) เป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนแห่กันหยุดเรียนหรือหยุดงานมาซื้อเกม Dragon Quest ซึ่งจะกระทบกับภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศได้นั่นเอง

Dragon Ball

ปิดท้ายด้วยเกมตระกูล Dragon Ball ที่มีการทำออกมาหลายภาคกันครับ ซึ่งตลอดระยะเวลาประมาณกว่า 3 ทศวรรษ เกมซีรีส์นี้ได้ทำออกมาให้เล่นกันหลายแนวเลยทีเดียว ไล่มาตั้งแต่แนวเปิดการ์ดเพื่อเดินหรือสุ่มการโจมตี มาจนถึงแนวไฟท์ติ้ง แนว RPG หรือแม้แต่แนวแอ๊กชั่นกึ่ง RPG โดยแม้ว่าจะไม่มีภาคไหนปังแบบโดดเด่นแบบสุดกู่ แต่ก็ถือว่าสร้างความนิยมในระดับค่าเฉลี่ยมาได้ตลอด และก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาเห็นหน้าของอาจารย์โทริยาม่า ก็ย่อมต้องมีภาพของการ์ตูนดราก้อนบอลลอยเด่นมาก่อนเพื่อนเลย ราวกับเป็นซีรีส์คู่บุญของอาจารย์แกไปซะแล้ว