ย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งในอดีต ยังมีสามยักษ์ใหญ่ของวงการเกมอย่าง Sony ที่ยังยืนหยัดเป็นมหาอำนาจของวงการในปัจจุบัน Nintendo ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว และยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบันนี้ และ SEGA ที่ปัจจุบันคงสถานะผู้ผลิตเกมเท่านั้น
เรากำลังพูดถึง SEGA ที่ในอดีตพวกเขาคือศัตรูตัวฉกาจของ Sony เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว พวกเขาเปิดตัว SEGA Dreamcast เครื่องคอนโซลที่แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของค่าย มันคือฮาร์ดแวร์ที่น่าประทับใจเอามากๆ เพราะมันสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ที่เป็นสิ่งใหม่ในยุคนั้นได้ และยังเป็นการเอาชนะความล้มเหลวของ SEGA Saturn ในยุคก่อนหน้า ถึงแม้ว่ามันจะมีเกมที่ดีมากมายก็ตาม
SEGA Dreamcast เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในปี 1998 และเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกในปีถัดมา ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่ดูล้ำสมัย คอนโทรลเลอร์ที่มีรูปร่างคล้ายยานอวกาศ ตัวเครื่องมีระบบความจำที่ทำให้เราสามารถเล่นมินิเกมเพิ่มเติมได้ เพียงแต่มันกลับไม่ประสบความสำเร็จเสียอย่างนั้น ทั้งๆ ที่มันมีเกมชั้นดีอย่าง Phantasy Star Online, Shenmue และ Sonic Adventure ที่สามารถนำไปสู่การประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียการสนับสนุนจากทีมพัฒนาอย่าง EA Sports แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลให้ SEGA Dreamcast ที่โดดเด่นท่ามกลางดวงดาวตามที่คาดหวัง
แล้วทำไม SEGA Dreamcast ถึงล้มเหลวล่ะ? ทั้งๆ ที่มันเป็นเครื่องคอนโซลที่ทรงพลังในยุคนั้น แต่กลับมีอายุขัยที่แสนสั้น (1998-2001) เราจะมาหาคำตอบกัน
หลังจาก SEGA Dreamcast เปิดตัว บริษัทคู่แข่งก็เปิดตัว Nintendo GameCube, Microsoft Xbox และคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Sony ก็เปิดตัว PlayStation 2 ทุกบริษัทที่กล่าวมาล้วนประสบความสำเร็จ เพียงแต่ SEGA Dreamcast กลับล้มเหลวในเชิงพาณิชย์อย่างมาก ทั้งๆ ที่มันมีฮาร์ดแวร์และคุณสมบัติที่ดี แต่มันกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน ถึงแม้ภายหลัง ทาง SEGA จะลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่มันกลับทำให้สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม
คอนโทรลเลอร์ขนาดใหญ่ที่ดูล้ำสมัย แต่มันกลับดูเทอะทะไป ในขณะที่ Sony ค้นพบโครงสร้างที่ลงตัวสำหรับคอนโทรลเลอร์ ของเครื่อง PlayStation 2 ในขณะที่หน่วยความจำที่ถูกเพิ่มเข้ามา มันดูดีมากในโฆษณาทางสื่อ เพียงแต่เมื่อนำมาใช้งานจริงกลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมันยังไม่จำเป็นสำหรับยุคสมัยนั้น เช่นเดียวกับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต มันก็เป็นสิ่งที่ SEGA Dreamcast ทำได้ดี เพียงแต่ในยุคนั้นอินเตอร์เน็ตยังมีขีดจำกัด และมีอัตราการส่งข้อมูลในระดับที่ต่ำ จนทำให้เราไม่สามารถเล่นออนไลน์ได้นาน
เชื่อกันว่า SEGA เองก็รู้ดีว่าเจ้าเครื่อง Dreamcast อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาในการช่วงชิงพื้นที่ในตลาดวงการเกมกลับมา แม้เป็นเช่นนั้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับความล้มเหลว หรือบางทีพวกเขาอาจต้องการปล่อยของเพื่อทิ้งทวนครั้งสุดท้าย ซึ่งเราก็ไม่มีทางรู้ความจริงได้อยู่ดี
แต่บทเรียนสำคัญจากเรื่องนี้ก็คือ ‘บางครั้งคุณภาพที่ดีก็ไม่ใช่คำตอบของทุกเรื่อง’ SEGA Dreamcast เป็นเครื่องคอนโซลที่ทรงพลังและยอดเยี่ยมเอามากๆ เพียงแต่มันอาจมาผิดที่ผิดเวลาไปบ้าง และน่าเสียดายที่ SEGA ไม่สามารถนำฮาร์ดแวร์และมรดกจากงานเก่าๆ ของพวกเขามาต่อยอดใหม่ รวมถึงการที่พวกเขาไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถาพแวดล้อมและสถานการณ์กับปัจจุบัน จนไม่สามารถต่อสู่กับคู่แข่งหน้าใหม่ๆ ที่เข้ามาได้ และทำให้พวกเขากลายเป็นเพียงบริษัทผลิตเกมเท่านั้น
แปลโดย : Beer_Barbaro
