รู้จักกับเกม Parasite Eve กำเนิดฮีโร่สาวในดงสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์

ท่ามกลางยุคที่ PS1 กำลังครองใจเกมเมอร์ทั่วโลกในช่วงปี 1994-2000 ทาง Square Enix เคยมีทำเกมหน้าใหม่ออกมาซีรีส์หนึ่ง ที่เป็นเกมแนว Survival Horror ผสมผสานกับแนว Action RPG พร้อมกับมีคัทซีนดูสวยงามมากๆ ในขณะนั้น ซึ่งซีรีส์ดังกล่าวมีชื่อว่า Parasite Eve นั่นเอง และแค่เพียงการวางจำหน่ายภาคแรกก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนมีภาคหลักออกตามมาอีก 1 ภาค ได้แก่ Parasite Eve II และภาคสปินออฟที่มีชื่อว่า The 3rd Birthday ว่าแล้วทีมงาน OS ขอพาเพื่อนๆ ไปย้อนรำลึกกับรายละเอียดของเกม Parasite Eve ภาคแรกกันสักหน่อยครับ

(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น

(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นอเมริกา


การพัฒนาและความเป็นมา

– ดร. ฮิเดอากิ เซนะ ผู้ประพันธ์นวนิยาย Parasite Eve จริงๆ แล้วเขามีอาชีพหลักเป็นนักเภสัชวิทยาครับ โดย Parasite Eve ที่เขาแต่งขึ้นสามารถคว้ารางวัลนวนิยายยอดเยี่ยมจากนักประพันธ์หน้าใหม่ และความนิยมในนวนิยายชิ้นดังกล่าว ก็ได้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เวอร์ชั่นคนแสดง ผลิตโดยทางสถานีโทรทัศน์ฟูจิทีวี และเกม Parasite Eve ที่พัฒนาโดยบริษัท Squaresoft (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน)

– นวนิยาย Parasite Eve ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ควบคู่กับเรื่อง The Ring ที่ทั้งสองเรื่องถูกนำไปดัดแปลงเป็นสื่อประเภทอื่นแล้วได้รับความนิยมอย่างสูง โดย The Ring ไปปังในด้านภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ส่วน Parasite Eve มาปังในด้านเกมแทน

– เกมนี้ถือเป็นเกมแรกในประวัติศาสตร์ของ Squaresoft ที่ถูกจัดเรตให้อยู่ในเรต M (เหมาะกับผู้เล่นอายุ 17 ปีขึ้นไป) ที่สหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้บรรดาเกมของทางบริษัทจะถูกจัดเรตไว้สูงสุดแค่เรต T (สำหรับอายุ 13 ปีขึ้นไป) แต่เนื่องด้วยตัวเกม Parasite Eve จะมีบางฉากที่ค่อนข้างชวนสยอง (เช่น ฉากกลายร่างของเหล่ามอนสเตอร์ หรือฉากที่ผู้คนในโรงละครถูกเผา ฯลฯ) จึงโดนจัดให้เป็นเรต M ไปโดยปริยาย

– ช่วงที่ทาง Square Enix กำลังพัฒนาเกม Parasite Eve ฝั่งทีมพัฒนาเกม ณ เวลานั้นได้แบ่งออกเป็น 2 ทีม คือทีมที่ประจำอยู่ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น โดนบุคลากรส่วนใหญ่จะประจำอยู่ที่สหรัฐอเมริกามากกว่า

– สำหรับผู้ที่ซื้อแผ่นเกมนี้ในอเมริกาเป็นล็อตแรกๆ ตัวกล่องเกมจะบรรจุมาเป็นแพ็คเกจที่เรียกว่า Squaresoft on PlayStation 1998 Collector’s CD Vol.1 โดยภายในนั้นจะแถมเดโมของเกมที่ทาง Squaresoft เตรียมจะวางจำหน่ายในอนาคตอันใกล้ รวมถึงคอนเซ็ปต์อาร์ตต่างๆ ที่เป็นตัวอย่างภาพสเก็ตช์ของอายะและเมลิซซ่าสไตล์ต้นแบบ

– อายะเป็นตัวละครที่คุณฮิโรโนบุ ซาคากุจิ ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ของเกมนี้ได้สร้างขึ้น และได้มอบหมายให้คุณเท็ตสึยะ โนมุระ เป็นผู้ออกแบบตัวละคร ซึ่งในตอนแรกตัวละครอายะนั้นมีผู้อื่นรับหน้าที่ดีไซน์ให้อยู่ก่อนแล้ว ทว่าภาพสเก็ตช์ของนักวาดคนนั้นกลับไม่โดนใจคุณซาคากุจิ โดยเดิมทีคุณซาคากุจิต้องการตัวละครเอกของ Parasite Eve เป็นผู้หญิงผมยาวเหมือนแอริธใน Final Fantasy VII แต่เมื่อได้หารือกับทีมพัฒนากันอีกรอบ จึงได้ข้อสรุปมาเป็นตัวละครหญิงผมสั้น ที่เน้นความคล่องตัวมากกว่าเดิม ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่าอายะเป็นสาวสตรอง, เซ็กซี่ และน่าหลงใหลนั่นเอง


พล็อตเรื่องและเกมเพลย์

– เนื้อเรื่องของ Parasite Eve เป็นการดัดแปลงนวนิยายชื่อเรื่องเดียวกัน ที่ประพันธ์โดย ดร.ฮิเดอากิ เซนะ มาเป็นเวอร์ชั่นเกมครับ ซึ่งเหตุการณ์ในเกม Parasite Eve จะเกิดขึ้นต่อจากเวอร์ชั่นนิยาย (ไทม์ไลน์ของเกม Parasite Eve ภาคแรกจะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม – 29 ธันวาคม 1997) เกมจะเล่าถึง อายะ ตำรวจสาวหน้าใหม่ของกรมตำรวจนิวยอร์คที่ไปชมการแสดงในโรงละครโอเปร่าที่คาร์เนกีฮอลล์กับชายหนุ่มที่เธอคบหาอยู่ ทว่าภายในการแสดงนั้น เมื่อถึงคิวที่นักแสดงนำหญิงนามว่า เมลิซซ่า เพียร์ซ ได้ร้องโอเปร่า ทันใดนั้นร่างกายของนักแสดงคนอื่นๆ รวมถึงผู้ชมในโรงละครต่างเกิดไฟลุกพรึ่บขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เหยื่อทุกคนเสียชีวิตทั้งหมด เหลือเพียงแต่อายะกับเมลิซซ่าที่ไม่เป็นอะไรเลย ขณะเดียวกัน เมลิซซ่าในฐานะผู้ต้องสงสัยก็ได้หนีหายไปยังหลังเวที อายะจึงตามไปและพบว่าเมลิซซ่าได้กลายร่างเป็นอสุรกายพร้อมเรียกแทนตัวเองว่า “อีฟ” และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของ 6 วันอันตรายที่อายะจะต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงเป้าหมายที่แท้จริงของอีฟให้ได้

– ระบบพื้นฐานของเกม Parasite Eve จะคล้ายกับเกมแนวแอ็กชั่นกึ่ง RPG โดยการต่อสู้จะเป็นแบบเรียลไทม์ ที่มีเกจ Active Time Bar (ATB) แสดงอยู่ใกล้กับเลขพลังชีวิต เมื่อเกจนี้วิ่งจนเต็มหลอด ก็จะสามารถใส่คำสั่งได้ว่าจะให้อายะโจมตี, ใช้ท่า PE (สกิลพิเศษของอายะที่มีทั้งสกิลโจมตี สกิลซัพพอร์ต และสกิลฟื้นพลัง) หรือแม้แต่ใช้ไอเทมจากคำสั่งเมนู และระหว่างที่สู้นั้นเรายังสามารถบังคับอายะให้วิ่งไปมาในฉากเพื่อคอยหลบระยะการโจมตีของศัตรูได้ด้วย เมื่อเอาชนะการต่อสู้ในแต่ละครั้ง ก็จะได้รับ EXP มา และหากเลเวลยิ่งสูง ก็จะมีสกิลใหม่ๆ ให้ใช้มากขึ้น รวมถึงมีระบบอัพเกรดอาวุธและชุดป้องกัน ที่ผู้เล่นสามารถใช้ไอเทมบางอย่างเพื่อดึงเอาค่าพลังของอาวุธหรือชุดป้องกันที่ไม่ได้ใช้มาเพิ่มให้กับอาวุธชุดป้องกันที่กำลังสวมใส่อยู่ก็ได้ ตลอดจนสามารถใช้ไอเทมกับ NPC บางคนเพื่อเพิ่มสล็อตใส่สกิลของอาวุธชุดป้องกันได้เช่นกัน


ความลับต่างๆ ในเกม

– เกมนี้จะมีบั๊กอยู่จุดหนึ่งครับ นั่นก็คือบั๊กปั๊มไอเทมที่ชื่อว่า Trading Card ซึ่งเอาไว้ใช้เพิ่มสล็อตใส่สกิลของอาวุธหรือชุดป้องกันได้ โดยในวันที่ 4 ของเกม ที่อายะต้องบุกไปยังโรงพยาบาลเซนต์ฟรานซิส จะมีอยู่ห้องหนึ่งที่เราจะพบนางพยาบาลอยู่กับคนไข้ ภายในห้องดังกล่าว ให้ผู้เล่นสำรวจแถวๆ ชั้นวางของที่อยู่ด้านบนของห้อง ก็จะได้ Trading Card มา 1 ใบ และตรงนี้ถ้าผู้เล่นกดสำรวจซ้ำที่จุดเดิม ก็จะได้ Trading Card มาอีกเรื่อยๆ โดยสามารถฟาร์มได้จนกว่าช่องเก็บไอเทมของเราเต็มเลย 
แต่ทว่าบั๊กนี้จะทำได้เพียงรอบเดียวเท่านั้น หากออกห้องไปแล้วกลับเข้ามาใหม่ จะไม่สามารถทำได้อีกเลย

– หากผู้เล่นจบเกมไปแล้วรอบนึง จะมีโหมดใหม่เพิ่มขึ้นมาที่มีชื่อว่า EX Game โดยในโหมดนี้ผู้เล่นจะเริ่มเกมโดยมีอาวุธและชุดป้องกันที่ใช้ตอนจบเกมรอบที่แล้วมาตั้งแต่ต้น พร้อมด้วยสถานที่แห่งใหม่บนแผนที่ นั่นก็คือ ตึกไครสเลอร์ ที่เป็นดันเจี้ยนมหาโหดที่มีให้เล่นเฉพาะการเล่นรอบที่ 2 เป็นต้นไปเท่านั้น ภายในตึกไครสเลอร์จะเป็นการสุ่มแผนที่ทุกครั้งที่เข้ามายังตัวตึก และมีบอสเฝ้าอยู่ทุกๆ 10 ชั้น เมื่อยิ่งบุกถึงชั้นที่สูงขึ้นก็จะมีไอเทม อาวุธ ชุดป้องกันที่มีสกิลเทพๆ ที่หาไม่ได้จากการเล่นในดันเจี้ยนตามเนื้อเรื่องให้เก็บด้วย ทั้งนี้ บนชั้น 77 ที่เป็นชั้นบนสุด ผู้เล่นจะได้สู้กับบอสใหญ่ที่แท้จริงของเกมนี้ ซึ่งก็คือ มายะ พี่สาวแท้ๆ ของอายะนั่นเอง พร้อมด้วยฉากจบจริงๆ ที่รออยู่หากปราบเธอลงได้

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้