หลังจากรอคอยกันมานาน ในที่สุด Ice Frog และทีมงานก็ได้ปล่อย DotA 6.53 ออกมาซะที ซึ่งหลายๆคนคงได้ลองกันแล้วนะครับเพราะออกมาได้พักนึงแล้วเวอร์ชั่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดฮีโร่ชุดใหญ่ รวมทั้งมี Hero ใหม่ให้ได้ลองกันอีกด้วย ซึ่งสาระสำคัญของเวอร์ชั่นนี้ก็คือการปรับสมดุลฮีโร่หลายๆ ตัว แต่ที่เด่นที่สุดคงไม่พ้นฮีโร่ใหม่ คือ Clockwerk Goblin และการปรับ Lycanthrope เรามาเริ่มจากการดู change log เกี่ยวกับ game play ที่สำคัญๆ กันก่อนครับ
Change Log
* Added a new Sentinel Hero (Clockwerk Goblin )
- เพิ่ม Hero ใหม่ของฝั่ง Sentinel 1 ตัว คือ Clockwerk Goblin ( ดูรายละเอียดด้านล่าง )
* Completely reworked and improved the way RD hero picking is done
- แก้ไข และปรับปรุง เกี่ยวกับโหมด Random Draft ( -rd )
* Imported a temporary rune model to replace the default one until the death animation in 1.22 is fixed (thanks PGRu-Unexpect3D)
- นำเข้าโมเดลใหม่ของรูนชั่วคราว มาแทนที่ของเก่าที่มีปัญหาเรื่องรูนไม่เกิดในเวอร์ชั่น 1.22 และทำให้เป็นปกติแล้ว
* Reworked Lycanthrope a bit
- แก้ไขสกิลของ Lycanthrope ( ดูรายละเอียดด้านล่าง )
* Removed the "undroppable while in cooldown" mechanism added a long time ago to prevent item abuses. This mechanism is no longer needed as of Warcraft patch 1.22
- เอาระบบ "ที่ไอเทมต่าง ๆ เมื่ออยู่ในระยะ Cooldown ในการใช้ ไม่สามารถทิ้งลงพื้นได้" ออก ( แต่ก่อนที่ต้องใส่ไว้เพราะว่ามันกันการเกิดปัญหาของ Item ) แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นในเวอร์ชั่น 1.22
* Improved Fire Panda's movement speed per level
- เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ของ Fire Panda ( ร่างแยกจาก Primal Split ของ Pandaren Battlemaster ) จาก 325/325/325 movespeed เป็น 325/375/425 movespeed
* Observers and replays now see a $ symbol above a dying creep when a player gets gold for killing a unit
- Observer และ การดู Replay ตอนนี้จะเห็นสัญลักษณ์ $ เหนือ Creep ที่ตาย เมื่อผู้เล่นคนนั้นได้เงินจากการฆ่า Unit นั้น ๆ
* Improved Drow's Marksmanship slightly
- เพิ่มความสามารถให้สกิล Markmanship จาก 10/20/30 Agi ต่อเลเวล เป็น 12/24/36 Agi ต่อเลเวล
* Increase AOE on Dispersion
- เพิ่มระยะการทำงาน ของสกิล Dispersion ของ Spectre จาก 600 AoE เป็น 1000 AoE
* Lowered Soul Keeper's base movement speed and increased cast
- ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของ Soul Keeper จาก 320 เหลือ 300 และเพิ่มระยะเวลาง้างอาวุธก่อนโจมตี จาก 0.3 sec เป็น 0.5 sec ( ทำให้เล็ง Last Shot ลำบากขึ้นเล็กน้อย )
* Improved Stifling Dagger
- เพิ่มความสามารถให้สกิล Stifling Dagger ของ Phanton Assassin จาก 20/25/30/35% slow ในเวลา 2/2.75/3.5/4.25 วินาที ต่อเลเวล กลายเป็น 50/50/50/50% slow ในเวลา 1/2/3/4 วินาที ต่อเลเวลแทน
* Improved Open Wounds a little
- เพิ่มความสามารถ สกิล Open Wounds ของ N'aix จาก 1s stun, 1s 70% slow, 1s 50% slow, 1s 30% slow, 3s 10% slow เป็น 1s stun, 1s 70% slow, 1s 60% slow, 1s 50% slow, 1s 30% slow, 3s 10% slow แทน
* Decreased Mana Void's cooldown
- ลด Cooldown สกิล Mana Void's ของ Anti-Mage จาก 120 วินาทีทุกเลเวล เหลือ 120/100/80 วินาทีต่อเลเวลแทน
* Lowered Infest manacost (50/100/150 mana, 100/70/40 seconds cooldown->50/50/50 mana, 100/60/30 seconds cooldown)
- ลดอัตราการใช้ Mana และลด Cooldown สกิล Infest ของ N'aix จาก 50/100/150 มานา ต่อเลเวล คูลดาวน์ 100/70/40 วินาที เป็น 50 มานา ทุกเลเวล คูลดาวน์ 100/60/30 วินาทีต่อเลเวลแทน
การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการแก้ไข bug
* Fixed a minor bug with the order of the heal and damage operation on Purification when combine with Aphotic Shield on a nearby enemy
- แก้ไขบั๊ก เกี่ยวกับการสั่งงานของการ Heal และการทำ Damage กับสกิล Purification ของ Omniknight เมื่อใช้ร่วมกับ Aphotic Shield ของ Lord of Avernus ใกล้ ๆ ศัตรู
* Fixed a bug with Magic Immunity and Haunt
- แก้ไขบั๊ก เกี่ยวกับ Magic Immunity ของสกิล Haunt (Spectre)
* Fixed a bug with Song of the Siren and Berserker's Call
- แก้ไขบั๊ก ของ Song of the Siren ของ Naga Siren และ Berserker's Call ของ Axe
* Fixed a bug with selling Aghanim's Scepter
- แก้ไขบั๊ก เกี่ยวกับการขาย Aghanim's Scepter
* Fixed a minor bug with Soul Assumption and buying items
- แก้ไขบั๊กของสกิล Soul Assumption เมื่อซื้อ Item (Necrolic)
* Fixed a bug with Magic Immunity and Strygwyr's Thirst
- แก้ไขบั๊กเกี่ยวกับ Magic Immunity ของ Strygwyr's Thrist (Bloodseeker)
* Fixed Berserker's Call interaction with Neutrals at night
- แก้ไขบั๊กสกิล Berserker's Call ของ Axe เมื่อใช้กับ Creep ป่าในตอนกลางคืน
* Fixed Stout Shield hotkey conflicting with Kelen's Dagger in the Goblin Shop
- แก้ไขเกี่ยวกับ Hotkey ของ Stout Shield ที่จะทับกันกับ Kelen's Dagger ในร้าน Goblin (ร้านขายของมุมซ้ายบนและขวาล่างของ Map)
* Fixed a bug with Shackles and Berserker's Call
- แก้ไขบั๊กสกิล Shackles ของ Shadow Shaman และ Berserker's Call ของ Axe
* Fixed a bug with Magic Immunity and Sand Storm
- แก้ไขบั๊กเกี่ยวกับ Magic Immunity และ สกิล Sand Storm ของ Sand King
* Fixed Mana Leak to not trigger off of Exort/Quas/Wex
- แก้ไขสกิล Mana Leak ของ Keeper of the Light ที่มันจะไม่มีผลเมื่อ Invoker ใช้สกิล Exort / Quas / Wex
* Fixed -ah for observers
- แก้ไขโหมด -ah สำหรับ Observers
Credit : คัดลอกบางส่วนมาจากคุณ Note2001 และ SunWaltz เวป TCG นะครับ
ฮีโร่ใหม่ และฮีโร่เก่าในรูปแบบใหม่
Clockwrek Goblin
Strenght - 24+2.9 ( Main Attribute )
Agility - 13+1.2
Intelligence - 17+1.7
Attack Range - 125 (Melee)
Movespeed – 310
สกิลของ Clockwrek Goblin
Battery Assault
ทำการโจมตีศัตรูในรัศมี 300 AoE แบบสุ่ม เป็นเวลา 15 วินาที เป้าหมายที่โดนจะรับดาเมจตามสกิลเลเวลและสตันเป็นเวลา 0.75 วินาที
Level 1 - 20 Damage
Level 2 - 40 Damage
Level 3 - 60 Damage
Level 4 - 80 Damage
Cooldown : 32/28/24/20
ManaCost : 75
สกิลนี้เป็นหนึ่งในสกิลเด็ด ที่ทำให้ Clockwrek Goblin ได้เปรียบในการเผชิญหน้าแบบเดี่ยวๆเป็นอย่างมาก รูปแบบการทำงานของสกิลจะเป็นการยิงสุ่มในรัศมี 300 AoE อัตราการยิงคือ 1 ครั้ง ต่อ 1 วินาที เป็นเวลา 15 วินาที หากมีฝ่ายตรงข้ามอยู่กันหลายๆตัวก็จะยิงสุ่มเฉลี่ยๆกันออกไป แต่ถ้าในรัศมี 300 AoE มีแต่ Hero ฝ่ายตรงข้ามแค่ตัวเดียวล่ะ? แน่นอนว่าเป้าหมายก็จะต้องรับไปเต็มๆทุกดอก ถูกสตัน 0.75 วินาทีต่อวินาทีไปจนครบ 15 วินาทีเลย รวมดาเมจทั้งหมดที่เลเวล 4 ก็ 80 x 15 = 1200 ดาเมจ O_o’’ หักความต้านทานเวทย์ของ Hero แล้วก็จะเหลือราวๆ 900 ดาเมจ ซึ่งก็นับว่าเยอะอยู่ดี ( แต่นับจริงๆคือ 60 dps เป็นเวลา 15 วินาทีอะนะ ) แต่เรื่องดาเมจไม่สำคัญเท่าการหน่วงฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ได้แบบค่อนข้างเหนียวแน่น แถมยังคอมโบร่วมกับสกิลอื่นๆของตัวเองได้เป็นอย่างดีอีกด้วยซึ่งจะอธิบายให้ได้อ่านกันต่อไป
Battery Assault จะเกิดผลสูงสุดเมื่อสู้แบบเดี่ยวๆ แต่จะด้อยประสิทธิภาพลงกับศัตรูที่อยู่เป็นกลุ่ม
Power Cog
สร้างกรงพลังงานขึ้นมาล้อมรอบตัว ศัตรูที่โจมตีกรงนี้จะถูกมานาเบิร์นทุกครั้งที่โจมตีใส่กรง ( สูญเสียมานาและรับดาเมจเท่ากับมานาที่เสียไป ) และถูกทำให้กระเด็นด้วย กรงแต่ละอันสามารถรับการโจมตีได้ 3 ครั้งก่อนจะพัง
Level 1 - อยู่นาน 3 วินาที และ Burn Mana 55
Level 2 - อยู่นาน 4 วินาที และ Burn Mana 70
Level 3 - อยู่นาน 5 วินาที และ Burn Mana 85
Level 4 - อยู่นาน 6 วินาที และ Burn Mana 100
Cooldown : 15
Mana Cost : 50/60/70/80
นี่เป็นอีกสกิลที่ทำมาสนุนเสริมกับสกิลอื่นๆแบบจงใจมาก เป็นการสร้างกรงล้อมรอบตัวเองไว้ ซึ่งจะขังฝ่ายตรงข้าม ( หรือแม้แต่พวกเดียวกัน )ที่อยู่ใกล้ๆเอาไว้ได้ แม้ซี่กรงแต่ละอันจะถูกทำลายได้โดยการโจมตี 3 ครั้ง แต่การที่มี Knockback ทำให้การหลุดออกจากกรงโดยการพังกรงออกมานั้นทำได้ไม่เร็วขนาดนั้น อย่างไวสุดก็ต้องใช้เวลาราวๆ 4-5 วินาทีเพื่อแหกกรงออกมา ซึ่งถึงตอนนั้น Battery Assault เลเวล 4 ของเราก็คูลดาวน์เสร็จแล้ว -0- และก็สามารถใช้ซ้ำและวิ่งหน่วงเป้าหมายไปเรื่อยๆจนกว่า Power Cog จะใช้ซ้ำได้อีก การใช้สองสกิลวนชนรอบกันได้แบบนี้เป็นสาเหตุให้ถูกวิจารย์เรื่องความสมดุลอย่างมากทีเดียว
Power Cog ใช้สำหรับขังคุณเอาไว้กับเหยื่อ(?)อันโอชะของคุณ ^^
Rocket Flare
ยิงจรวดไปยังพื้นที่ใดก็ได้ในแผนที่ ทำดาเมจในรัศมี 600 AoE ซึ่งจะเปิดแผนที่ในจุดระเบิดเป็นระยะเวลาหนึ่ง
Level 1 - สร้างความเสียหาย 100 Damage และวิสัยทัศน์คงอยู่ 5 วินาที
Level 2 - สร้างความเสียหาย 133 Damage และวิสัยทัศน์คงอยู่ 10 วินาที
Level 3 - สร้างความเสียหาย 166 Damage และวิสัยทัศน์คงอยู่ 15 วินาที
Level 4 - สร้างความเสียหาย 200 Damage และวิสัยทัศน์คงอยู่ 20 วินาที
Cooldown : 30/25/20/15
Manacost : 50
อีกสกิลที่ถูกวิจารย์ถึงความสมดุล ( โดนเกือบทุกสกิลเลยแฮะ -0- ) เพราะเป็นสกิลแมปแฮคแบบพกพานั่นเอง จรวดของ Rocket Flare จะยิงไปได้ทุกจุดบนแผนที่ เปิดเส้นทางตลอดสายที่จรวดบินไป และคงรัศมีการมองเห็น ณ จุดระเบิดในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ใช้งานได้ดีทั้งการเช็ค Rune และสอดแนมพื้นที่เสี่ยงต่างๆ นอกจากนี้ยังใช้เก็บพวก Hero ใกล้ตายที่กำลังหนีได้ด้วย ( แต่ต้องกะเวลาดีๆหน่อย )
Hook Shot
ยิงโซ่ตะขอไปยังเป้าหมาย และเมื่อกระทบเป้าหมายแล้วเราก็จะโหนตัวเข้าไปหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เป้าหมายที่โดนจะรับดาเมจและสตันเป็นระยะเวลาหนึ่ง
Level 1 - ระยะ 2000 Range ทำความเสียหายแก่เป้าหมาย 100 Damage และเป้าหมายจะถูก Stun 1 วินาที
Level 2 - ระยะ 2500 Range ทำความเสียหายแก่เป้าหมาย 200 Damage และเป้าหมายจะถูก Stun 1.5 วินาที
Level 3 - ระยะ 3000 Range ทำความเสียหายแก่เป้าหมาย 300 Damage และเป้าหมายจะถูก Stun 2 วินาที
Cooldown : 40/35/30
Manacost : 125
สกิลนี้จะทำงานคล้ายๆกับ Meat Hook ของ Pudge แต่จะกลับกระบวนการกัน แทนที่จะดึงเป้าหมายเข้ามาหา จะกลายเป็นเราโหนตัวเองเข้าไปหาเป้าหมายแทน ซึ่งจะทำดาเมจและสตันเป้าหมายเมื่อเราโหนไปถึง ระยะของการยิงนั้นไกลมาก คือ 3000 Range แต่ความแม่นยำนั้นดีกว่า Meat Hook มาก เพราะความเร็วของโซ่ที่ยิงออกไปนั้นจะไวกว่าโซ่ของ Meat Hook ราวๆ 3 เท่าได้ และแน่นอนว่าสกิลนี้ทำมารับกับสกิล 1 และ 2 ของตัวเองแบบเห็นๆ โดยศัตรูที่หลุดรอดจากการวนคอมโบของ Battery Assault กับ Power Cog ไปได้ ก็จะถูกไล่กวดอีกครั้งด้วย Hook Shot นี่เอง ข้อเสียของสกิลนี้คือการโหนเข้าไปหาเป้าหมายอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะเสี่ยงต่อการโดนรุมยำถ้าอีกฝ่ายมี Hero ที่กำลังวิ่งเข้ามาช่วย และค่อนข้างหาโอกาสใช้ยากในการตะลุมบอนเป็นทีม อีกประการคือสกิลนี้ไม่มีผลกับฝ่ายเดียวกัน ถ้าปลายตะขอพุ่งไปชนกับยูนิทหรือ Hero ฝ่ายเดียวกัน ตะขอจะถูกดึงกลับทันทีโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ใช้งานง่ายกว่าที่คิด เพราะตะขอพุ่งไวมากๆ
จุดแข็งของ Clockwrek Goblin
Clockwrek Goblin นั้นกำลังถูกวิพากษ์วิจารย์อย่างหนาหูว่าโกงงงง มาก สาเหตุก็เพราะมีสกิลเด็ดๆหลายสกิลซึ่งคุมเกมในช่วงต้นไปจนกลางเกมได้ดีมาก ทั้ง Battery Assault ซึ่งเป็นยอดสกิลในการปะทะแบบตัวต่อตัว และ Power Cog ที่ใช้ขังตัวเองและ Hero ที่อยู่ใกล้ๆไว้ในกรงส่วนตัวได้ชั่วระยะหนึ่ง สองสกิลนี้สามารถวนชนรอบกันได้ถ้ากะเวลาดีๆ ไหนจะมี Hook Shot คอยช่วยไล่กวดอีกครั้งถ้าเป้าหมายหลุดจากคอมโบแรกไปได้ การสู้กับ Clockwrek Goblin แบบตัวต่อตัวจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย ทั้งนี้ยังมีสกิลแมปแฮคส่วนตัว Rocket Flare ซึ่งยิงไปที่ไหนก็ได้ในแผนที่ !! O_o ดาเมจสูงสุด 200 นับว่าไม่สูงนัก แต่การที่ยิงไปที่ไหนก็ได้นั้นมีประโยชน์มาก ที่สำคัญยังให้ทัศนะวิสัยในบริเวณนั้นเป็นเวลานานด้วย จึงพลิกแพลงใช้งานได้หลากหลาย ทั้งดูต้นทาง สอดส่องป่า หรือเช็ค Rune
จุดด้อยของ Clockwrek Goblin
ประการแรกคือแต่ละสกิลนั้นค่อนข้างโกงเมื่อใช้ในการปะทะแบบเดี่ยวๆ แต่จะลดความแรงลงเรื่อยๆถ้าอีกฝ่ายมีจำนวนมากขึ้น ดังนั้น Hero ที่มีความสามารถในการ Summon หรือแยกร่างได้จึงต่อกรกับ Clockwrek Goblin ได้เป็นอย่างดีเพราะสามารถเฉลี่ยความแรงสกิลไปยังร่างแยกหรือตัว Summon ได้นั่นเอง และตัว Clockwrek Goblin เองก็เล่นด้วยสกิลเป็นหลัก ไม่มี Passive อะไรเลย ยิ่งเข้าช่วงเลทเกมความแรงจึงยิ่งแผ่วลงเรื่อยๆ หากช่วงต้นเกมไม่ทำสกอร์ทิ้งห่าง สะสมเงินและไอเท็มไว้มากๆ ท้ายเกมก็ต้องลำบากแน่นอน
Lycanthrope
อีกตัวคือ Lycanthrope ที่ปรับปรุงมาใหม่ ไม่เชิงจะยกเครื่อง แต่ปรับรูปแบบของ Hero จาก Tanker + Damage ที่สามารถวิ่งฆ่าได้ ถูกปรับจนกลายเป็นตัววิ่งตัวหลักแทน ไปดูสกิลที่ถูกปรับกันก่อนนะครับ
Summon Wolves
หมาป่าจะไม่มี Bash และโมเดลของหมาป่าจะไม่ใหญ่ขึ้นตามเลเวลแล้ว และอยู่นาน 55 วินาที ทุกเลเวล
Howl
เอฟเฟคของ Howl กลายเป็น Global (ได้รับผลกันทั้งแผนที่) โดยจะมีผลกับฮีโร่และยูนิตฝ่ายเราที่มีผู้เล่นควบคุมทุกตัว (ไม่มีผลกับยูนิทที่ควบคุมด้วย AI) และจะไม่เพิ่มดาเมจเป็น % แต่เพิ่มเป็นแต้มแบบตายตัวแทน โดยที่เลเวล 4 จะเพิ่มดาเมจให้ Hero 44 ดาเมจ และเพิ่มดาเมจให้ยูนิท 16 ดาเมจ
Feral Heart
ไม่เพิ่ม Move Speed แล้ว แต่จะเพิ่ม Attack Damage แทน และยูนิทที่เราควบคุมอยู่จะได้รับผลจาก Feral Heart ด้วย ที่เลเวล 4 จะเพิ่มดาเมจ 25% และ Attack Speed 25% เช่นกัน
Shape Shift
ลดระยะเวลาของสกิลลงเหลือ 16 วินาทีทุกเลเวล และลดคูลดาวน์ลงเหลือ 100/70/40 วินาที ต่อเลเวล เมื่อกดใช้จะเพิ่ม Move Speed เป็น 522 ให้กับตัวเองและยูนิทที่อยู่ใต้การควบคุมของเราทุกตัว และ Move Speed นี้จะไม่ถูกลดลงโดยสกิล slow ใดๆ
วิเคราะห์โดยรวม
Lycanthrope ตัวใหม่นี้เน้นไปที่การใช้วิ่งลอบสังหารฝ่ายตรงข้ามมากกว่าเดิม การเพิ่ม Max Move Speed ( 522 ) ให้กับตัวเองและยูนิทในการควบคุมทุกตัวนับว่าดีมาก ที่สำคัญยังไม่ถูก slow อีกด้วย เสียแต่ระยะเวลาของร่างแปลงค่อนข้างน้อย คือ 16 วินาที ซึ่งบ่อยครั้งที่ไม่เพียงพอต่อการไล่ล่าเป้าหมาย ที่สำคัญคือทำให้ความสามารถในการแท๊งเวลาสู้กันเป็นทีมด้อยลง การเล่นจึงเน้นไปที่การร่วมมือกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น และผู้เล่นต้องกระตือรือร้นมากกว่าเดิมพอสมควร ( เพราะกลายเป็นตัววิ่งแทนแล้ว )