เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ทีมงาน Online Station เคยมีการลงพรีวิวเกี่ยวกับเกมเพลย์ของเกม Onimusha: Way of the Sword กันไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าอาจจะมีหลายคนเกิดความสงสัยถึงระบบใหม่ ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภาคนี้ ตลอดจนข้อสงสัยอื่น ๆ ที่อาจจะคาใจกัน ซึ่งเราก็มีบทสัมภาษณ์จากคุณซาโตรุ นิเฮย์ (Satoshi Nihei), คุณอากิฮิโตะ คาโดวากิ (Akihito Kadowaki) และคุณโคอิจิ ชิบาตะ (Koichi Shibata) สามหัวเรือใหญ่ที่คุมโปรเจกต์พัฒนาเกมนี้ ที่มาตอบทุกข้อสงสัยแก่เพื่อน ๆ ครับ
เพื่อน ๆ สามารถย้อนอ่านพรีวิวได้จากลิงค์ https://www.online-station.net/pc-console-game/990467
(จากซ้ายไปขวา) คุณซาโตรุ นิเฮย์ ตำแหน่งผู้กำกับ / คุณอากิฮิโตะ คาโดวากิ ตำแหน่งโปรดิวเซอร์ / คุณโคอิจิ ชิบาตะ ตำแหน่งโปรดิวเซอร์
Q: ระยะเวลาระหว่างวันวางจำหน่ายเกม Onimusha: Dawn of Dreams กับ Onimusha: Way of the Sword นั้นห่างกัน 20 ปีพอดี อะไรทำให้พวกคุณตัดสินใจนำซีรีส์คัมแบ็คกลับมาในตอนนี้ครับ?
A: จริง ๆ เราเคยมีการพูดคุยกันภายในเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอด และมีความต้องการที่จะทำเกม Onimusha ภาคใหม่เสมอมาครับ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ทางเรามีโปรเจกต์พัฒนาเกมอื่น ๆ จนล้นมือ ทำให้เราต้องให้ความสำคัญกับโปรเจกต์ที่มีอยู่แล้วให้เสร็จก่อน รวมถึงการพัฒนาเกมภาคล่าสุดจำเป็นจะต้องมีทีมที่ใหญ่กว่านี้ ดังนั้นเลยเป็นเรื่องยากที่จะได้เริ่มทำจริง ๆ จัง ๆ เสียที กระทั่งต้นปี 2020 ก็ถึงเวลาที่เหมาะสม อีกทั้งได้ทีมงานที่เป็นแกนหลักกลับมารวมตัวกันครบ ตลอดจน RE Engine ก็มีการพัฒนาไปจากเดิมมากแล้ว พอปัจจัยทุกอย่างลงตัวจึงได้เริ่มโปรเจกต์พัฒนาเกมภาคนี้ครับ
Q: ระบบ Chain Issen นั้นน่าประทับใจมาก และชวนให้เรานึกถึงระบบที่คล้ายกับในภาค Dawn of Dreams อยู่เหมือนกัน เช่นนี้แล้วเราพอคาดหวังว่าจะได้เห็นระบบอื่น ๆ จากภาคเก่า ๆ ที่ถูกนำมาปรับปรุงหรือต่อยอดลงในภาคนี้อีกหรือเปล่าครับ?
A: จะมีระบบอื่น ๆ จาก Onimusha ภาคก่อน ๆ ให้ได้ใช้งานกันในภาค Way of the Sword แน่นอนครับ โดยบางระบบมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ขณะที่บางระบบก็จะนำมาพัฒนาใหม่ให้ทันสมัยตามเทรนด์ปัจจุบันด้วย และนอกจากนี้ยังมีระบบใหม่ที่คล้ายกับท่า Magic Attack ของภาคก่อนที่การใช้งานแต่ละครั้งจะต้องใช้เกจเวทมนตร์ (เกจสีน้ำเงินใต้เกจพลังชีวิต) แต่ในภาคนี้จะมีเป็นท่าพิเศษที่โจมตีติดคริติคัลอันรุนแรงได้ ซึ่งเราจะมีการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับระบบนี้อีกครั้งในอนาคตครับ
Q: Way of the Sword ถือเป็นภาคแรกที่ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ในยุคเซ็นโกคุ แต่อยู่ในช่วงต้นยุคเอโดะแทน อยากทราบว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปเพื่อการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไปหรือเปล่า หรือเป็นเพราะดีไซน์จำเพาะบางอย่างที่มีผลทำให้ต้องเปลี่ยนยุคสมัยของเหตุการณ์ครับ?
A: เนื่องจากภาคนี้เป็นภาคใหม่ของซีรีส์ เราเลยมีการศึกษาและเนรมิตโลกในเกมขึ้นใหม่หมด ในจำนวนนี้รวมถึงตำนานที่มาเกี่ยวกับพวกเก็นม่า (ปีศาจร้ายในเกม) ด้วย และในบรรดาสิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปนี้ เราอยากนำเสนอความกล้าหาญตามแบบฉบับของซามูไรจริง ๆ ในการต่อสู้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเลือกมิยาโมโตะ มุซาชิ บุคคลระดับตำนานผู้ตอบโจทย์ที่เราต้องการ มาเป็นตัวละครหลักของภาคนี้ครับ ทีนี้ เมื่อครั้งที่เราเซ็ตเหตุการณ์ให้อยู่ในยุคเซ็นโกคุ ภาพลักษณ์ของตัวละครมักจะต้องเป็นซามูไรที่คอยรับใช้เจ้าเมืองหรือโชกุน ทว่าในกรณีของมุซาชินั้น เขาจะใช้ชีวิตอิสระอยู่ในยุคเอโดะ ซึ่งไลฟ์สไตล์แบบนี้ก็เหมาะสมกับการเล่าเรื่องที่เราต้องการจะนำเสนอในภาคนี้พอดีด้วย
Q: ในพรีวิวที่ได้ชมกันไป เราเห็นว่าทางทีมงานมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามามากมาย ขณะที่องค์ประกอบหลัก ๆ อย่างการโจมตีติดคริติคัล หรือระบบที่คล้ายกับ Issen ก็ยังคงมีอยู่ คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าสิ่งใหม่ ๆ ที่ใส่เพิ่มเข้ามาจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับระบบเกมเพลย์เดิมที่มีอยู่แล้ว?
A: ในการทำเกม Onimusha ภาคใหม่ในรอบ 20 ปี เราต้องใช้เวลาอย่างมากในการพิจารณาอย่างรอบคอบว่าอะไรควรเปลี่ยน และอะไรที่ควรคงไว้แบบเดิม อย่างเช่นการดูดวิญญาณของศัตรูมาเข้าปลอกแขน หรือระบบแบบ Issen จะยังคงไว้อยู่ ขณะเดียวกัน รูปแบบเกมเพลย์แนวแอ๊กชั่นที่สู้กันด้วยดาบจำเป็นต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน เราจึงทำเกมโดยจัดสมดุลให้ดีระหว่างการเคารพแนวทางเดิมของซีรีส์และการคาดหวังเกมเพลย์ที่ทันสมัยจากผู้เล่น
Q: นอกเหนือไปจากระบบต่อสู้แล้ว เกม Onimusha ยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของเกมเพลย์ส่วนที่เป็นการแก้ไขปริศนาด้วย อยากทราบว่าผู้เล่นหน้าเก่าและใหม่จะพอคาดหวังอะไรจากเกมเพลย์ส่วนนี้ได้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบ Oni Vision ที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้?
A: เกมภาคใหม่นี้จะไม่มีการให้ไขปริศนาแบบเดิมที่แช่หน้าจอในส่วนที่ต้องไขปริศนานาน ๆ เหมือนเล่นมินิเกมแล้วครับ แต่จะเป็นการไขปริศนารูปแบบใหม่ที่ผู้เล่นต้องใช้ความช่างสังเกต รวมทั้งสำรวจให้ทั่วบริเวณ แล้วขบคิดว่าจะต้องไขปริศนาอย่างไร ในตัวอย่างที่ให้ดูกันไป คุณจะเห็นว่าผู้เล่นสามารถใช้ทักษะ Oni Vision เพื่อค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในฉากได้ ยิ่งไปกว่านั้น เกมยังมีการออกแบบให้ผู้เล่นลองไขปริศนาและทดลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างภายในฉากด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มอรรถรสและมอบประสบการณ์เด็ด ๆ แก่ผู้เล่นได้มากครับ
Q: (ถามคุณนิเฮย์) เกมภาคนี้เป็นผลงานการกำกับของคุณ ในฐานะที่คุณเองก็เป็นคนที่เชี่ยวชาญในด้านการออกแบบเกมแอ๊กชั่นด้วย ประสบการณ์ของคุณมีส่วนช่วยในด้านเนรมิตความคิดสร้างสรรค์อย่างไรต่อเกมนี้ โดยเฉพาะกับเกมซีรีส์นี้ที่มีเกียรติประวัติมาอย่างยาวนาน?
A: จากที่เคยสร้างเกมแอ๊กชั่นที่มีเซ็ตติ้งอยู่ในโลกต่าง ๆ เช่นยุคเซ็นโกคุ หรือโลกแฟนตาซีจ๋า หรือไซไฟ จุดแข็งของเราคือการสร้างแอ๊กชั่นของตัวละครให้เข้ากับฟีเจอร์เฉพาะในเซ็ตติ้งของโลกนั้นครับ ซึ่งประสบการณ์ที่กล่าวมาก็มีอิทธิพลกับการสร้างเกมภาคนี้ที่ผสมผสานความเป็นแอ๊กชั่นของซามูไรที่สมจริงให้เข้ากับโลกดาร์คแฟนตาซี นอกจากนี้เรายังมีการลงลึกไปที่โมชั่นแคปเจอร์ทั้งในส่วนบทบู๊และคัตซีน และการแสดงสีหน้าและอารมณ์ของตัวละครที่สมจริง ทั้งหมดที่กล่าวมาก็เพื่อทำให้เกมมีอะไรมากกว่าเกมแอ๊กชั่นทั่วไป สิ่งที่กล่าวมาล้วนสร้างอิมแพ็คในกระบวนการพัฒนาของเกมที่มีโลกและตัวละครเฉพาะไปพร้อม ๆ กัน
Q: ถ้าดูแค่ในพรีวิวล่าสุด เราไม่เห็นการสลับเปลี่ยนอาวุธให้เห็นเลย ทั้ง ๆ ที่เกม Onimusha มักจะมีอาวุธหลากหลายชนิดให้ใช้เสมอ อยากทราบว่าในภาค Way of the Sword จะมีอาวุธอื่น ๆ ให้ใช้บ้างมั้ยครับ?
A: นั่นเป็นเพราะว่าเราต้องการนำเสนอให้เห็นถึงเกมเพลย์ที่สู้ด้วยดาบเป็นพื้นฐาน ดังนั้นอาวุธหลักของมุซาชิก็เลยเป็นดาบ ซึ่งในตัวอย่างแรกของเกมเราเคยมีการโชว์ให้เห็นว่ามุซาชิใช้ดาบคู่ และตัวอย่างตัวถัดมาก็ใช้อาวุธเป็นค้อนคู่ แน่นอนว่ายังมีอาวุธชนิดอื่น ๆ ให้ใช้อีกเพียบในเกมตัวเต็มครับ และการใช้ท่าพิเศษ (ที่ใช้เกจเวทมนตร์) ผู้เล่นจะสามารถปล่อยท่าอันรุนแรงของอาวุธที่กำลังใช้อยู่ ซึ่งท่าพวกนี้จะมีบทบาทสำคัญในการพลิกสถานการณ์ได้ด้วยเช่นกัน
Q: ในพรีวิวมีการพูดถึงปลอกแขนว่าเจ้าสิ่งนี้จะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางของมุซาชิด้วย พอจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมได้มั้ยครับว่ามันมีฟังก์ชั่นอะไรที่คอยช่วยเหลือมุซาชิระหว่างผจญภัยได้บ้าง?
A: ภายในปลอกแขนจะมีหญิงนางหนึ่งที่อยู่ในนั้นครับ แต่เหตุผลที่เธอต้องอยู่ในนั้นยังเป็นปริศนาที่รอผู้เล่นไปค้นพบ และถ้าสังเกตในเกมเพลย์ดี ๆ จะพบว่าเวลาเราดูดวิญญาณสีดำเข้ามา พลังของหญิงในปลอกแขนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น อีกทั้งตอนท้ายของตัวอย่างล่าสุด มุซาชิก็มีเผยด้วยว่ายิ่งดูดวิญญาณเข้ามามากเท่าไหร่ ตัวตนของหญิงผู้นี้ก็จะยิ่งเผยออกมามากขึ้น โดยเธอจะมีบทบาทสำคัญเมื่อเราดำเนินเกมไปเรื่อย ๆ ขอให้อดใจรอชมข้อมูลที่เราจะอัปเดตในภายหลังครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station