ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทีมงาน Online Station ได้มีโอกาสไปทดลองเล่นเกม Shinobi: Art of Vengeance ถึงสำนักงานของ Sega ที่ประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งภาคนี้เป็นการคัมแบ็คครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่มีการปรับโฉมหน้าของเกมและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาเยอะมาก ซึ่งในโอกาสเดียวกันนี้ เราก็ได้สัมภาษณ์ผู้พัฒนาเกม 2 ท่านที่เป็นระดับหัวเรือใหญ่ของเกมนี้ ได้แก่ คุณทาคาฮารุ เทราดะ (Takaharu Terada) ตำแหน่งผู้กำกับ และคุณโทรุ โอฮาระ (Toru Ohara) ตำแหน่งโปรดิวเซอร์ โดยพูดคุยเกี่ยวกับเกมนี้กันแบบเจาะลึกเลย ชมบทสัมภาษณ์กันได้ที่ด้านล่างครับ
Q: พล็อตเรื่องแนวล้างแค้นนั้นไม่เคยตกยุคและมักถูกนำมาใช้กันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมซีรีส์ Shinobi อยากทราบว่าการล้างแค้นนั้นมีความหมายกับคุณอย่างไรในบริบทของยุคสมัยใหม่ และกับเกมภาคล่าสุดนี้ครับ?
A: ในเกมภาคนี้ มุซาชิจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายและมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และโดยทั่วไปแล้ว ประเด็นการล้างแค้นอาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ดีในบางครั้ง แต่ปกติจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนักซะมากกว่า ทว่ามุซาชินั้นเป็นนินจา ดังนั้นการล้างแค้นมันเลยเหมือนเป็นหนึ่งในภารกิจประจำตัวเขามาตลอด การที่มุซาชิใช้ความแค้นเป็นแรงผลักดันจึงเป็นแกนหลักของพล็อตเรื่องเกมนี้ อีกทั้งแนวทางที่มุซาชิบริหารจัดการกับความแค้นก็เป็นหนึ่งในจุดสำคัญของเกมนี้ด้วยเช่นกัน นั่นเลยเป็นสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนควรจะได้ตื่นเต้นกับมัน เราคงไม่อาจตอบได้จริง ๆ ว่าการล้างแค้นมันเป็นยังไง แต่หากได้เล่นเกมนี้จนปรุโปร่ง คุณก็จะเข้าใจความหมายของมันเอง
Q: นี่ก็เป็นเวลาประมาณ 14 ปีแล้วนะครับที่เว้นช่วงมาตั้งแต่เกม Shinobi ภาคสุดท้ายวางขาย (บน Nintendo 3DS เมื่อปี 2011) อะไรทำให้พวกคุณตัดสินใจนำเกมซีรีส์นี้คัมแบ็คกลับมาอีกครั้ง?
A: คือทาง SEGA ในช่วงนี้มีความพยายามที่จะคืนชีพบรรดาเกม IP เก่า ๆ กลับมาสู่ผู้เล่นอีกครั้ง ซึ่งเราก็พยายามจะคืนชีพซีรีส์ Shinobi กลับมาเป็นเกมแนว 2D เหมือนครั้งที่ซีรีส์นี้เคยทำจนโด่งดังในอดีต โดยทางเราได้คิดมาอย่างรอบคอบและทำการบ้านมาอย่างหนักในการทำเกมแนว 2D ที่สามารถเข้าถึงผู้เล่นในยุคสมัยใหม่ได้ กระทั่งได้พบปะกับทีมจากสตูดิโอ Lizardcube ที่เคยมีผลงานทำเกม Streets of Rage 4 มาก่อน เลยมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการสร้างเกม Shinobi ขึ้นมาอีกครั้ง
ผม (คุณเทราดะ) เคยร่วมงานในโปรเจกต์พัฒนาเกม Shinobi ภาคที่ลง PS2 เมื่อปี 2002 และมีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของระบบการออกแอ็กชั่นของตัวละคร เช่น การปีนป่ายกับระบบต่อสู้ และการได้มามีส่วนร่วมในโปรเจกต์เกมซีรีส์นี้อีกครั้ง ส่วนตัวแล้วเป็นอะไรที่สนุกมากและมีความสุขสุด ๆ และการได้ทำเมคานิกใหม่ ๆ อย่างระบบ Shinobi Execution จนเสร็จลุล่วงก็เพราะผลงานเก่า ๆ ที่ผมเคยทำไว้กับซีรีส์นี้ด้วย
(ล่าง) คุณทาคาฮารุ เทราดะ ตำแหน่งผู้กำกับ และคุณโทรุ โอฮาระ ตำแหน่งโปรดิวเซอร์ จากซ้ายไปขวา
Q: ขอถามถึงเกม Shinobi ภาคที่ลงปี 2002 เพิ่มเติมอีกสักหน่อยครับ คือภาคนั้นทำเป็นแนวแอ็กชั่นแบบ 3D อยากทราบว่าอะไรทำให้ทีมงานตัดสินใจหวนกลับมาทำเกมแอ็กชั่นแบบ 2D ด้วยเหตุผลที่นอกเหนือไปจากที่ตอบไปก่อนหน้านี้?
A: ต้องบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือภาคนี้เราได้ร่วมงานกับทีม Lizardcube ที่มีผลงานด้านอาร์ตแบบ 2D อันน่าทึ่ง แถมยังเชี่ยวชาญในการทำเกมที่มีอาร์ตเวิร์คแบบ 2D อีกทั้งยังเคยทำเกม Streets of Rage 4 ที่เป็นภาคต่อของหนึ่งในซีรีส์เก่าแก่จาก Sega ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงมีประสบการณ์ในการทำเกมแอ็กชั่นมุมมองด้านข้างให้ออกมาดี ยิ่งไปกว่านั้น เราตัดสินใจกันว่าควรจะย้อนกลับไปสู่ยุคดั้งเดิมของซีรีส์ Shinobi แล้วค่อยมาดูกันว่าจะทำยอดขายได้ดีหรือไม่ และเกมแนว 2D ก็พอจะมีพื้นที่ให้ได้ปล่อยของอยู่ โดยเฉพาะเกมอินดี้ที่มีทำเกมแนวนี้ออกมาค่อนข้างเยอะ เราเลยคิดว่าเกมนี้จะสร้างอิมแพ็คขึ้นมาได้บ้าง
เกมอาจจะดูเป็น 2D ก็จริง แต่ถ้าคุณเล่นไปเรื่อย ๆ จะสัมผัสถึงความแตกต่างกันบนฉากหน้าและแบ็คกราวด์ ทำให้ดูไม่เหมือนเกม 2D ทั่ว ๆ ไป ขอนิยามว่ามันเหมือน Neo-2D ซะมากกว่า และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากทำเกมแอ็กชั่น 2D ในแนวทางใหม่ครับ
Q: สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมตระกูล Shinobi มาก่อนเลย คุณได้ทำอย่างไรบ้างเพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าเกมนี้มันมีความพิเศษและอยากลองมาเล่นดู?
A: Shinoni เป็นซีรีส์ที่มีอายุยาวนาน มีภาคต่อมาหลายภาค แต่ในภาค Art of Vengeance นี้เป็นเกมที่คุณจะสนุกกับมันได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องราวเกี่ยวกับภาคก่อน ๆ ของซีรีส์นี้เลย ทุกคนสามารถเข้ามาเอนจอยกับเกมได้ทันที และสิ่งที่ทำให้เกมนี้มีความพิเศษก็คือ เราเชื่อว่าอย่างแรกเป็นเพราะมันอยู่ในมือของทีม Lizardcube ที่มีฝีมือเก่งกาจมาก และสร้างสรรค์งานอาร์ตที่สวยลงในเกมได้ ตัวละครแต่ละตัว การเคลื่อนไหวของเหล่าตัวละครที่วาดด้วยมือแบบเฟรมต่อเฟรม รวมถึงกราฟิกที่ใช้เป็นภาพพื้นหลัง เราชอบที่ทุกคนดูจะเพลิดเพลินไปกับงานอาร์ตที่สวยงามนี้ และอีกจุดสำคัญก็คือเกมเพลย์ด้านแอ็กชั่นที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก มันไม่ใช่แค่เกมแอ็กชั่น 2D ทั่วไป แต่มันแฝงด้วยจังหวะจะโคนที่มีความพิถีพิถันและทำให้ภาพรวมของเกมออกมาดี และถ้าใครที่เคยเล่นเกมภาคเก่า ๆ มาก่อน ในภาคนี้ก็จะมีบางจุดที่ชวนให้นึกถึงภาคก่อนหน้านั้นด้วยเช่นกัน
ดังนั้นถ้าคุณเป็นแฟนเกมซีรีส์นี้มาอย่างยาวนาน คุณจะสนุกกับเกมภาคนี้ได้อย่างแน่นอน ขณะที่ โจ มุซาชิ ตัวเอกของเกมก็มีความแข็งแกร่งมาก โดยปกตินินจาก็มักจะมีภาพลักษณ์ที่ดูเท่และเก่งกาจอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่เคยผ่านเกมซีรีส์นี้มาจะรู้ว่าโจ มุซาชินั้นมีความแข็งแกร่งกว่านินจาทั่วไปหลายเท่าตัว เขาสามารถสังหารศัตรูและเคลื่อนย้ายตัวเองจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งที่มีระยะทางห่างกันได้รวดเร็ว ถ้าได้เล่นแล้วจะสนุกกับมันได้จริง ๆ ราวกับสวมบทบาทเป็นนินจาเลย และโลกในเกมซีรีส์ Shinobi จะมีอะไรที่เหนือความคาดหมายอยู่เพียบ ลองนึกภาพนินจาสักคนบุกฝ่าเข้าไปในป่าไผ่ แต่ต่อมาก็มีช่วงที่ต้องทะยานออกจากเฮลิคอปเตอร์เหมือนเล่นกระดานโต้คลื่น ทุกสิ่งอย่างในเกมนี้จะคอยตอบสนองต่อจินตนาการผู้เล่น และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้ผู้เล่นเริ่มสนุกกัน
Q: ที่คุณพูดว่านี่เป็นเกมแอ็กชั่นที่มีงานอาร์ตแบบ Neo-2D อยากทราบว่าไอเดียนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เพราะผมคิดว่ามันน่าสนใจมากกับบรรยากาศในเกมที่เราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนฉากด้านหน้า แต่ในฉากหลังก็มีอะไรหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันไปด้วย อะไรทำให้พวกคุณเกิดไอเดียที่จะนำเสนอแบบนี้ออกมา คุณคิดว่างานอาร์ต Neo-2D แบบนี้จะมีอิทธิพลหรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับเกมมุมมองด้านข้างในอนาคตได้มัั้ย?
A: พื้นฐานแล้วด้านกราฟิกเป็นผลงานของทาง Lizardcube ครับ และอนิเมชั่นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนฉากหลังส่วนใหญ่ก็เป็นไอเดียของ Lizardcube ทั้งนั้น และ Neo-2D ก็เลยเป็นศัพท์เฉพาะที่เราคิดขึ้นมาได้ และยังเป็นสิ่งที่เรารู้สึกภูมิใจกับมันด้วย ซึ่ง Lizardcube ได้เริ่มก่อร่างกระบวนการพัฒนาเกมนี้ตั้งแต่ศูนย์ และพวกเขาไม่ต้องการที่จะทำเกม 2D พื้น ๆ ทั่วไป เขากระหายที่จะทำอะไรให้มันมากกว่านั้น ทั้งเพิ่มองค์ประกอบหลายอย่างเข้าไปในงานอาร์ต และคอนเซ็ปต์ Neo-2D ก็เลยเริ่มมาจากจุดดังกล่าว คือทำให้มันดูเหมือน 3D แต่รูปแบบการเล่นยังเป็น 2D อยู่ บางทีเกมที่จะออกมาหลังจากนี้ในอนาคตอาจจะมีการนำงานอาร์ตแนวนี้ไปใช้ก็ได้ครับ
และจากที่กล่าวไปข้างต้น เกมแนว 2D แบบแพลตฟอร์เมอร์ กำลังวิวัฒนาการตัวเองให้แตกไลน์เป็นสิ่งใหม่ ๆ และเกมที่เป็น 2D ในยุคนี้ก็มีงานอาร์ตที่หลากหลายและแตกต่างกันมาก เช่น สไตล์พิกเซลอาร์ต หรืองานอาร์ตสไตล์อื่น ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และในเกมภาค Art of Vengeance นี้ก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองสูงมาก ผมคิดว่านี่เป็นจุดที่พิเศษมาก ๆ ของเกมเลย ความสวยงามของงานภาพจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนยกระดับไปอีกขั้น
เวลาคุณนึกถึงการสร้างเกมที่เป็น 2D เนี่ย คุณอาจจะคิดว่ามันมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาที่ถูกกว่าเกม 3D อยู่มาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เกมภาค Art of Vengeance นั้นใช้งานอาร์ตที่วาดด้วยมือล้วน ๆ วาดกันเฟรมต่อเฟรม จึงต้องลงทุนลงแรงกับงานอาร์ตนี้กันสุด ๆ และผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ยากมากที่จะทำเกมที่เหมือนแบบนี้ได้ เพราะมันต้องใช้ความพิถีพิถันและทุ่มเทหนักกันทุกจุดเลย
Q: ซีรีส์ Shinobi เป็นที่รู้จักในหมู่เกมเมอร์ในแง่ความยากของเกมที่โหดเข้าขั้น ทว่าเกมต่าง ๆ ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเข้าหาผู้เล่นหน้าใหม่ หรือผู้เล่นที่ไม่ประสีประสากับเกมแนวแอ็กชั่นนัก อยากทราบว่าทีมงานมีการทำอะไรลักษณะนี้เพื่อเปิดรับผู้เล่นกลุ่มดังกล่าวหรือไม่ครับ?
A: ยอมรับว่า Shinobi เป็นเกมที่ยากจริงครับ หากมีใครที่ไม่สามารถเคลียร์เกมนี้ได้ เรามีทางเลือกให้คุณปรับลดระดับความยากลงได้ และปรับได้ทุกเมื่อที่หน้าเมนูครับ ตรงนี้เราแนะนำว่าให้ลองเล่นระดับความยากปกติที่เกมเซ็ตมาตั้งแต่ต้นก่อน แล้วค่อยมาดูว่าเราเล่นไปได้ไกลแค่ไหน แต่ถึงแม้ว่าโจ มุซาชิจะเป็นตัวละครที่แข็งแกร่งมากก็ตาม เกมก็ยังมีบาลานซ์ที่ทำให้คนที่ไม่เก่งเกมแอ็กชั่นอย่างผม (คุณเทราดะ) เข้าถึงได้อยู่ ยิ่งพอเล่นไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มคล่องและคุ้นชินกับมันไปเอง และเชื่อว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็จะรู้สึกได้ว่ายิ่งเล่นก็จะยิ่งเก่งขึ้นได้เหมือนกัน
Q: (นักข่าวจากอินโดนีเซีย) ตอนที่ผมได้ลองเล่นไปเมื่อครู่นี้ ผมเซอร์ไพรส์มากที่ได้เห็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ปรากฏตัวในฉากหลัง ซึ่งอย่างตัวผมเองไม่คุ้นกับซีรีส์นี้มาก่อน ปกติแล้วกองทัพที่เป็นนินจาไม่น่าจะมีไคจู รถถัง หรือเฮลิคอปเตอร์ใช้กันนะครับ ไม่ทราบว่านี่เป็นอีกองค์ประกอบที่ทีมงานตั้งใจทำเพื่อดึงผู้เล่นหน้าใหม่ด้วยหรือเปล่า?
A: เดิมทีนินจาในเกม Shinobi ภาคก่อน ๆ จะเป็นนินจาที่มีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันนี่แหละครับ อีกทั้งตัวมุซาชิในเกมภาคก่อน ๆ ก็เคยสู้ศัตรูระดับกองทัพมามากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์ประหลาดระดับไคจูด้วยซ้ำไป และนี่ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทางเราตั้งใจให้แฟน ๆ ซีรีส์นี้ได้หวนนึกึงเกมภาคเก่า ๆ ของซีรีส์นี้ และที่กล่าวมาทั้งหมดคือสิ่งที่เราเคยทำมาก่อนครับ
Q: นินจาเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เกมของคุณดูมีเอกลักษณ์เสมอมา อยากทราบว่านินจาเหล่านี้เข้ามามีบทบาทในเกมนี้อย่างไร และคุณรู้สึกประหลาดใจบ้างมั้ยเวลาถูกนำไปเปรียบเทียบกับเกมแอ็กชั่นสมัยใหม่?
A: โดยทั่วไปพวกวิชานินจาและระบบต่อสู้จะมีความซับซ้อนมากขึ้นในเกมนี้ และคุณคงได้เห็นกันไปตอนที่ลองเล่นแล้ว และก็จะมีวิชาที่เป็นท่าใหญ่ซึ่งดูอลังการและรุนแรงที่สุด รองลงมาก็จะมีพวกท่ายิบย่อยที่ใช้งานได้หลายสถานการณ์ หรือถ้ารองลงมาอีกก็จะเป็นท่าโจมตีปกติที่มีทั้งการโจมตีหนัก-เบา และสุดท้ายคืออาวุธขว้างจำพวกมีดคุไนหรือชูริเคน ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คุณสามารถปลดล็อคได้จากร้านค้าที่มีในเกม คุณจะมีท่าโจมตีหลากหลายขึ้นเมื่อดำเนินเกมไปเรื่อย ๆ และจากคำถามที่คุณถามมา วิชานินจาก็ยังคงมีอยู่ในภาคนี้ ผมกับทีมงานต้องการที่จะดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ด้วยท่านินจาเหล่านั้น รวมถึงท่วงท่าอันสวยงามในการโจมตี และสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกมมีเอกลักษณ์ในระบบการต่อสู้ครับ
เวลาที่คุณนึกถึงเกมแนว 2D อื่น ๆ ที่คุณปลดล็อคท่าหรือสกิลใหม่ ๆ ได้เมื่อเล่นเกมไปถึงจุดหนึ่ง ปกติแล้วในหลาย ๆ เกมจะมีสล็อตให้ติดตั้งท่าใหม่ ๆ ตามตำแหน่งปุ่มที่เราถนัด แน่นอนว่ายิ่งมีท่าใหม่เยอะขึ้น มันก็จะถูกนำไปติดตั้งแทนที่ท่าเก่า และท่าเก่าพวกนั้นก็จะถูกใช้น้อยลงหรือแทบไม่ได้ใช้อีกเลย แต่กับเกมนี้พอคุณได้ท่าใหม่มา ท่าเก่าก็ไม่ได้หายไปไหน คุณยังทำคอมโบเดิมได้อยู่ และประยุกต์คอมโบใหม่ ๆ ได้อีก ช่วงแรกเริ่มเกมอาจจะดูเหมือนเกมแอ็กชั่นทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าเล่นไปสักพักคุณจะรู้สึกเหมือนได้เล่นเกมแอ็กชั่นควบคู่กับเกมไฟท์ติ้งที่มีท่าไม้ตายให้ใช้เพียบเลย
Q: เห็นว่าซีรีส์ Shinobi จะถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ด้วย นั่นหมายความว่าจักรวาลของ Shinobi มีสิทธิ์จะใหญ่ขึ้นกว่านี้อีก และไม่ว่าอะไรก็ตามที่พวกคุณกำลังทำอยู่ตอนนี้อาจจะมีอิทธิพลต่อจักรวาลของ Shinobi ในภายภาคหน้าด้วย พวกคุณรู้สึกถึงแรงกดดันเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างมั้ยครับ?
A: จะบอกว่าซีรีส์เกม Shinobi เองก็ไม่ได้มีความสอดคล้องกันขนาดนั้นครับ เพราะว่าตัวละครหลักของเกมมีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาในแต่ละภาคอยู่แล้ว พอมีภาคใหม่ ศัตรูก็เปลี่ยนด้วย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องยึดติดอะไรกับการสร้างเนื้อหาหรือการสร้างโลกในเกมเลย ขณะเดียวกัน ซีรีส์ Shinobi นั้นมีความอิสระและยืดหยุ่นมาก ๆ เท่ากับว่าเวอร์ชั่นภาพยนตร์ก็อาจจะมีเซ็ตติ้งอยู่ในโลกที่แตกต่างไปจากเกมภาค Art of Vengeance โดยสิ้นเชิงก็ได้ หรืออาจจะแตกแขนงออกเป็นสื่อประเภทอื่นที่มีความแตกต่างจากเกมไปมากก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้เรากำลังจะแนะนำเกมเมอร์ทุกคนให้มารู้จักกับโลกของเกมภาค Art of Vengeance เราอยากเห็นว่าผู้เล่นจะมีปฏิกิริยายังไงกับเกมนี้ครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่นๆ ได้ที่ Online Station