ELDEN RING NIGHTREIGN รวมบอสหน้าคุ้นจาก Dark Souls ที่โผล่มาในเกม

ใน ELDEN RING NIGHTREIGN เมื่อเราลง Expeditions อาจได้พบเจอกับบอสหน้าคุ้นจากซีรีส์ Dark Souls อยู่บ้าง แม้จะมีไม่มากมายจนเกลื่อนกลาด แต่ก็ยังมีให้แฟน ๆ ที่คุ้นเคยกับซีรีส์ได้พบเจอและหวนคิดถึงการต่อสู้ในอดีต และในบทความนี้เราจะมาพูดถึง บอสจาก Dark Souls ที่โผล่มาใน ELDEN RING NIGHTREIGN พร้อมการตามหา และรายละเอียดของพวกมัน ให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน!?

Centipede Demon

Centipede Demon หนึ่งในบอสสุด Iconic ของ Dark Souls 1 ที่คุณสามารถตัดแขน ขา และหางของมันเพื่อทำให้มันอ่อนแอลงได้ นอกจากนี้ความดังของมันยังอยู่ที่การต่อสู้กับมันที่ชวนหัวร้อนได้ที่สุดของเกมอีกด้วย และใน NIGHTREIGN แม้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องพื้นที่ลาวาเหมือนในต้นฉบับ แต่คุณยังสามารถตัดแขน ขา และหางของมันได้เหมือนเดิมอยู่นะ แต่ยังไงก็ระวังว่าชิ้นส่วนที่ตัดออกมาแล้วจะโจมตีเข้าด้วยเล่า

ตำแหน่ง Centipede Demon ใน NIGHTREIGN

ผู้เล่นที่อยากเจอเจ้าบอสตะขาบตัวนี้ คุณต้องพุ่งเป้าไปที่การลง Sentient Pest Expeditions หรือ Darkdrift Knight Expeditions ซึ่งเจ้าตะขาบจะโผล่หน้ามาทักทายคุณไม่คืนที่หนึ่งก็คืนที่สองนี่แหละ

Gaping Dragon

Gaping Dragon เป็นบอสทางเลือกจาก Dark Souls 1 ที่กลายเป็นหนึ่งในบอสที่น่าจดจำของเกม ด้วยรูปลักษณ์อันชวนสยอง ที่ราวกับมังกรถูกผ่าและเต็มไปด้วยฟันที่เรียงรายอันไม่น่าพิสมัย และใน NIGHTREIGN เจ้า Gaping Dragon ก็ได้ถูกพากลับมาพร้อมเพิ่มรายละเอียดชวนแหวะตามยุคสมัย

ตำแหน่ง Gaping Dragon ใน NIGHTREIGN

ผู้เล่นที่อยากเจอบอส Gaping Dragon ต้องพุ่งเป้าไปที่การลง Gaping Jaw Expedition ซึ่งเจ้าหมอนี่อาจจะโผล่มาทักทายคุณในคืนที่สองก็เป็นได้

Smelter Demon

Smelter Demon เป็นบอสที่โดดเด่นจาก Dark Souls 2 เนื่องจากการต่อสู้ที่ติดตรึงในการพบกันครั้งแรกใน Iron Keep และสำหรับใครที่มี DLC Old Iron Keep ก็จะได้เจอกับเจ้าตัวนี้ในเวอร์ชั่นไฟน้ำเงินอันร้อนแรงอย่างหาเหตุผลไม่เจอด้วย!? ทั้งนี้ใน NIGHTREIGN เจ้า Smelter Demon จะยังคงรูปลักษณ์และใช้สกิลหาต่อสู้เช่นเดียวกับต้นฉบับ ทว่าการโจมตีและการเคลื่อนไหวของมันจะเร็วกว่าใน Dark Souls 2 อยู่มากโข ทั้งมันยังสามารถเปลี่ยนสลับไฟปกติและไฟน้ำเงินเมื่อทำการชาร์จ Close-range blast เพื่อปลดปล่อยการโจมตีพลังระเบิดสุดแกร่งได้ด้วย

ตำแหน่ง Smelter Demon ใน NIGHTREIGN

ผู้เล่นที่อยากเจอบอส Smelter Demon ต้องลง Fissure in the Fog Expedition ซึ่งเจ้าหมอนี่อาจจะโผล่ออกมาเป็นบอสในคืนที่หนึ่งหรือคืนที่สองก็เป็นได้

The Duke's Dear Freja

The Duke's Dear Freja เป็นบอสแมงมุมยักษ์ของ Dark Souls 2 ที่พบได้ใน Brightstone Cove Tseldora ในช่วงท้ายเกม ซึ่งแน่นอนว่ามันทำอะไรมากกว่าเอาขาแมงมุมมาจิ้มคุณแน่นอน เพราะเธอสามารถยิงใยและเลเซอร์ระยะไกลที่สามารถฉีกกระชากเหล่าผู้มี HP ต่ำได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ใน Dark Souls 2 บอส Freja จะปรากฏออกมาทั้งในฐานะเมนบอสและบอสเอ็กซ์คลูซีฟสุดเซอร์ไพรส์สำหรับผู้เล่น New Game + โดยท่วงท่าต่าง ๆ ของ Freja แน่นอนว่าคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่ใช้เวลาขลุกอยู่ใน Drangleic

ตำแหน่ง The Duke's Dear Freja ใน NIGHTREIGN

ผู้เล่นที่อยากเจอต้องลง Sentient Pest Expedition และเธออาจจะโผล่มาในฐานะบอสในคืนแรกหรือคืนที่สอง

Dancer of the Boreal Valley

Dance of the Boreal Valley เป็นบอสที่ทั้งงดงามทั้งแข็งแกร่งจาก Dark Souls 3 ซึ่งผู้เล่นสามารถพบเจอได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกมที่ด้านบนของบันไดตรงข้าม Vordt of the Boreal Valley ใน High Wall Of Lothric ซึ่งเจ้าตัวนี้จะเต้นไปรอบ ๆ พื้นที่และใช้ดาบคู่ในการโจมตี ผู้เล่นต้องระวังการหมุนตัวโจมตีของมันให้ดี เพราะมันจะหมุนตัวไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว พร้อมฟาดฟันดาบของมันในทุกการหมุนตัว ถ้าหลบไม่พ้นแล้วเลือดไ่เยอะพอก็เตรียมนอนหมอบรอเพื่อนชุบกันได้เลย

ตำแหน่ง Dance of the Boreal Valley ใน NIGHTREIGN

ให้ลง Fissure in the Fog Expedition เพราะมันอาจจะโผล่มาในคืนแรกหรือคืนที่สอง

The Nameless King

Nameless King เรียกได้ว่าเป็นบอสตัวโปรดของเหล่าแฟนซีรีส์ Souls เลยก็ว่าได้ ซึ่งเข้าตัวคือบอสจาก Dark Souls 3 ที่ถูกกล่าวขานกันว่าเป็นบุตรชายที่ถูกปฏิเสธของ Gwyn, the Lord of Sunlight โดย Nameless King จะมาพร้อมเจ้ามังกร King of the Storm เรียกได้ว่าเป็นบอสที่ยากที่สุดของ Dark Souls 3 เลยทีเดียว และใน NIGHTREIGN บอส Nameless King จะมี 2 เฟสเช่นเดียวกับในตัวเกมต้นฉบับ ซึ่งในตอนแรกคุณต้องสู้กับเขาขณะขี่มังกรรอบ ๆ พื้นที่ และปล่อยสายฟ้าโจมตีจากระยะไกล และเมื่อเราจัดการมังกรที่เขาขี่ได้ เขาจะลงมาสู้กับเราพร้อมหอกสายฟ้าในเฟสที่ 2 นั่นเอง