-
หน้าแรก
-
PC CONSOLE GAME
- Sins of a Solar Empire : รู้จักพื้นฐานกันก่อน
Sins of a Solar Empire : รู้จักพื้นฐานกันก่อน
[p]ในห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่ หลากหลายอารยธรรมที่ต้องการมีอำนาจสูงสุด จะทำอย่างไรให้เผ่าพันธุ์ของคุณไปสู่จุดนั้นได้ นี่คือเกม RTS ที่มีการจัดการด้านรายละเอียดค่อนข้างยิบย่อย และการเล่นที่เปิดกว้างไม่ตายตัว ผมจึงมีไกด์ไลน์และเทคนิคในการเล่นที่จะช่วยให้คุณพิชิตจักรวาลนี้ได้ง่ายขึ้นมานำเสนอ[color=red][b]รู้จักพื้นฐานกันก่อน[/b][/color][p][b]ถ้าใครเคยเล่น[/b]เกมอย่าง Galactic Civilization 2 หรือ Imperial Galactica 2 มาก่อนก็คงจะคุ้นเคยกับเกมนี้ได้ไม่ยากเพราะมีลักษณะการเล่นที่คล้ายๆ กัน แต่เกมนี้มีการจัดการไม่เยอะเท่า และซับซ้อนน้อยกว่ามาก (ถึงไม่เคยเล่นก็ไม่ต้องกังวลครับไกด์ไลน์นี้ช่วยคุณได้) เป้าหมายหลักๆ ในการเล่นก็คือ พิชิตศัตรู และครอบครองดวงดาวทั้งหมดทั่วระบบสุริยะ โดยใช้วิธีต่างๆ ทั้งด้านการทูต และกำลังทางทหาร คุณสามารถเลือกเผ่าพันธุ์ที่จะเล่นได้ทั้งหมด 3 เผ่าพันธุ์ ได้แก่ TEC (Trade Emergency Coalition), Advent และ Vasari ซึ่งความแตกต่างของแต่ละเผ่าพันธุ์คือรูปลักษณ์ของสิ่งก่อสร้าง กองยาน และเทคโนโลยีที่สามารถวิจัยได้ นอกเหนือจากนี้รายละเอียดจะคล้ายๆ กัน หลังจากตัดสินใจเลือกฝ่ายได้แล้วเกมจะตัดเข้าสู่แผนที่ดาวที่คุณเลือก [color=red][b]ค่าสถานะของดวงดาวและยูนิต[/b][/color][p][b]ไม่ว่าจะเลือกฝ่ายใด [/b]เมื่อเริ่มเกมมาอย่างน้อยคุณจะมี Frigate Factory อยู่ 1 แห่ง และดาว 1 ดวงในครอบครอง ซึ่งจะถูกตั้งให้เป็น Home Planet พื้นฐานอย่างแรกที่คุณควรจะรู้เมื่อเล่นเกมนี้ก็คือ ค่าสถานะต่างๆ ของดวงดาวและยูนิต อันดับแรกมาดูค่าสถานะของดวงดาวที่คุณครอบครองอยู่กันก่อน หลักๆ แล้วจะมีดังนี้[p][b]Name - [/b]ชื่อของดวงดาว (คุณสามารถแก้ไขได้ตามใจชอบโดยการเลือกที่ดาวแล้วกด Y)[p][b]Type - [/b]บอกลักษณะของดวงดาวนั้นๆ เช่น Ice, Volcano, Terrain, Desert, Home เป็นต้น[p][b]Allegiance -[/b] ความจงรักภักดีของดาวดวงนั้นต่อผู้ที่ครอบครอง[p][b]Planet Health - [/b]พลังชีวิตของดวงดาว [p][b]Population -[/b] จำนวนประชากร ส่งผลต่ออัตราการเก็บภาษีของดาวดวงนั้น[p][b]Culture Rate -[/b] ค่าวัฒนธรรมของดาว จะแสดงเมื่อมีการสร้าง Logistic Structure เกี่ยวกับวัฒนธรรม [p][b]Tax Income Rate -[/b] อัตราการเก็บภาษี ส่งผลต่อ Credit ที่คุณจะได้จากดาวดวงนั้น[p][b]Tactical Slot - จำนวน[/b] Tactical Structure ที่สามารถสร้างได้[p][b]Logistic Slot -[/b] จำนวน Logistic Structure ที่สามารถสร้างได้[p][b]Planet Exploration -[/b] แสดงเปอร์เซ็นต์การสำรวจดาวดวงนั้น [center][img=63850]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ค่าสถานะเหล่านี้จะบอกลักษณะต่างๆ ของดาวที่คุณครอบครองอยู่[/center][p][b]สำหรับดาวที่มีสถานะ Home [/b]จะได้รับ Bonus ด้านการเก็บภาษีและยังมีอิทธิพลต่อค่าความจงรักภักดี (Allegiance) ต่อดาวรอบๆ ข้างด้วย ต่อมาคือค่าสถานะของยูนิต ยานรบในเกมนี้แบ่งออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ 1. ยานรบขนาดเล็ก เช่น Fighter และ Bomber 2. Frigate 3. Cruisers 4. Capital Ship ในที่นี้ผมขอยก Capital Ship มาเป็นตัวอย่าง เนื่องจากค่าสถานะต่างๆ ครอบคลุมยานชนิดอื่นๆ [p][b]Name -[/b] ชื่อของยูนิต[p][b]Hull - [/b]พลังชีวิตของยูนิต [p][b]Shield - [/b]โล่พลังงานของยูนิต [p][b]Antimatter -[/b] พลังงานของยูนิตสำหรับใช้ความสามารถต่างๆ รวมถึงการ Phase Jump [p][b]Armor -[/b] เกราะป้องกัน[p][b]Shield Mitigation - [/b]เป็นการปรับสภาวะของโล่พลังงาน ค่านี้จะแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและความเสียหายที่ได้รับ เมื่อยานถูกโจมตีค่านี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วยลดความเสียหายต่อโล่พลังงานเป็น % ซึ่งจะมีผลจนกว่าโล่พลังงานของยานจะหมดไป[p][b]Experience Point - [/b]ค่าประสบการณ์ของยูนิต (เฉพาะ Capital Ship)[p][b]Culture Repel Rate -[/b] ค่านี้ช่วยป้องกันอิทธิพลทางวัฒนธรรมของศัตรูที่แผ่ขยายเข้ามายังดวงดาวบริเวณที่ยูนิตอยู่ ทำให้โอกาสที่ดวงดาวจะถูกยึดครองด้วยอิทธิพลของศัตรูลดลงในทางกลับกันเมื่อคุณบุกโจมตีดวงดาว ค่านี้จะช่วยลดความจงรักภักดีของประชากรที่อาศัยบนดาวดวงนั้นต่อผู้ครอบครองคนเก่า ยิ่งค่านี้มากคุณยิ่งยึดครองได้เร็วขึ้น (เฉพาะ Capital Ship)[color=red][b]แผนที่ดวงดาว[/b][/color][p][b]ดวงดาวแต่ละดวงในเกมนี้[/b]เปรียบเสมือนอาณาจักรขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถสร้างผลประโยชน์ทางการค้าและการวิจัยแก่ผู้ครอบครองได้ แผนที่ดวงดาวนี้ประกอบไปด้วยดวงดาวหลายชนิด ตั้งแต่ดาวที่มีลักษณะเป็นน้ำแข็งไปจนถึงดาวที่แห้งแล้งจนเป็นทะเลทราย นอกจากนี้ยังมีดาวฤกษ์ เศษอุกกาบาต และฐานของโจรสลัดอวกาศอีกด้วย ดวงดาวแต่ละดวงจะมีบริเวณที่มีแรงดึงดูดอยู่รอบๆ วงโคจรเรียกว่า Gravity Well ซึ่งในบริเวณนี้จะมีอุกกาบาตซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรให้คุณเก็บเกี่ยว ดาวแต่ละดวงจะเชื่อมต่อกันด้วยเส้นสีต่างๆ ตามแต่ผู้ครอบครองดาวนั้น การจะเดินทางไปดาวดวงอื่นทำได้โดยการ Phase Jump ผ่านเส้นทางเหล่านี้ เท่านั้น และยานที่จะเดินทางต้องอยู่นอกบริเวณ Gravity Well ด้วยจึงจะสามารถใช้ Phase Jump ได้ สำหรับบางแผนที่ระบบสุริยะที่คุณอยู่จะเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ผ่านช่องทางที่เรียกว่า Wormhole เกมการเล่นส่วนใหญ่จะอยู่ในหน้าจอนี้เป็นหลัก[center][img=63851]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]การสั่งยูนิตต่างๆ ส่วนใหญ่จะผ่านทางแผนที่ดาวลักษณะเช่นนี้[img=63852]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]จักรวาลมีอะไรให้แปลกใจมากกว่าที่คิด รวมถึง Plasma Storm เหล่านี้ด้วย[/center][color=red][b]ประเภทของสิ่งก่อสร้าง[/b][/color]มาดูประเภทสิ่งก่อสร้างกันบ้าง สิ่งก่อสร้างในเกมนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้[p]-[b] Logistic Structure[/b] เป็นสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆ ประกอบด้วยโรงงานสร้างยานรบตั้งแต่ชั้น Frigate ไปจนถึง Capital สถานีวิจัย สถานีการค้า และเหมืองทรัพยากรชนิดต่างๆ [p][b]- Tactical Structure [/b]เป็นสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวกับการป้องกันดวงดาว เช่น ป้อมปืน โรงจอดยานขนาดเล็ก สถานีซ่อมแซม ไปจนถึงอาวุธสุดยอดของแต่ละฝ่าย[p]การสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ นั้นไม่ยาก ทำได้โดยเลือกไปที่ดาวที่เราต้องการจะสร้าง แล้วเลือกชนิดสิ่งก่อสร้าง จากนั้นเลือกตำแหน่งที่จะวางลงไป ซึ่งจะสามารถวางได้เฉพาะในบริเวณ Gravity Well รอบๆดาวเท่านั้น และถ้าคุณขี้เกียจวางตำแหน่งสิ่งก่อสร้างเองเกมก็มีบริการจัดวางให้อัตโนมัติ โดยเลือกไปที่ไอคอน Auto-Structures ที่อยู่ด้านขวาล่างหรือกด K เพื่อเปิดการใช้งาน มาถึงตรงนี้หลายๆ คนที่เริ่มเล่นก็คงจะงงว่าจะเริ่มสร้างอะไรก่อนดี หลักๆ แล้วในตอนเริ่มต้นหรือเมื่อคุณยึดดาวได้แล้วควรสร้างเหมืองเก็บทรัพยากรเป็นอันดับแรก จากนั้นพัฒนาดวงดาวแล้วสร้างสถานีวิจัยหรือการค้า สำหรับรายละเอียดของการวิจัยและการค้าจะอธิบายในส่วนต่อไป[center][img=63853]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]เหมืองทรัพยากรคือสิ่งก่อสร้างอันดับต้นๆ ที่คุณควรสร้าง[/center][color=red][b]บริหารจัดการดีมีชัยไปกว่าครึ่ง[/b][/color][color=red][b]จะหาทรัพยากรเพิ่มได้อย่างไร? [/b][/color][p][b]เกมนี้มีระบบการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งก่อสร้างต่างๆ [/b]เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหนทางสู่ความสำเร็จในการพิชิตศัตรูและครอบครองดวงดาวก็ขึ้นอยู่กับการบริหารทรัพยากรต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างแรกคุณควรทราบก่อนว่าทรัพยากรในเกมนี้มีอยู่ 3 ประเภท คือ 1. Credits (เงิน) 2. Metal (โลหะ) 3. Crystal (คริสตัล) โดยปกติแล้วทรัพยากรเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเองทุกวินาที เมื่อคุณครอบครองดวงดาวหรือเหมืองทรัพยากร Credits นั้นได้จากการเก็บภาษีหรือการค้าขายของดาว ส่วน Metal และ Crystal ได้จากเหมืองที่สร้าง แต่ปริมาณทรัพยากรที่ได้รับจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้[center][img=63854]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]แหล่งทรัพยากรเหล่านี้จะโคจรอยู่รอบๆ ดาวของคุณ[/center][p][b]1. จำนวนดวงดาวและแหล่งทรัพยากรที่ครอบครองอยู่[/b] [p]ดังคำกล่าวที่ว่า “ยิ่งครอบครองมากเท่าไรผลกำไรยิ่งมากตามไปด้วย” สิ่งนี้ส่งผลต่อทรัพยากรทั้ง 3 ชนิด ยิ่งคุณครอบครองดวงดาวหลายดวง เงินที่ได้จากการเก็บภาษีก็จะยิ่งมาก และดาวแต่ละดวงก็จะมีเหมืองทรัพยากรให้เก็บเกี่ยวด้วย[p][b]2. จำนวนประชากรของดาวแต่ละดวง [/b][p]แน่นอน...เงินภาษีจะมาจากไหนถ้าไม่ใช่ประชากร จำนวนประชากรส่งผลโดยตรงต่อปริมาณ Credits ที่เก็บได้จากดาวแต่ละดวง ยิ่งมีประชากรมากเงินที่เก็บได้ก็จะมากไปด้วย การเพิ่มจำนวนประชากรทำได้ 2 วิธีคือ 1. ค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีที่ให้ผลการเพิ่มค่าประชากรสูงสุด (Max Population Increase) ซึ่งวิจัยครั้งเดียวจะส่งผลต่อดาวทุกดวงที่มีลักษณะ (Type) เช่นเดียวกับที่เทคโนโลยีกำหนด ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีที่ชื่อ Thriving Desert Citiesของฝ่าย Advent จะเป็นการเพิ่มประชากรสูงสุด 30% ให้แก่ดาวที่มีลักษณะเป็นทะเลทราย ดังนั้นดาวทะเลทรายที่คุณครอบครองทุกดวงจะได้รับผลนี้ไปด้วย และ 2. การพัฒนาดวงดาว (Develop Planet) ในหัวข้อ Civilian Infrastructure เพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตและค่าประชากรสูงสุด การพัฒนาดาวนี้จะส่งผลต่อดาวที่เราเลือกพัฒนาเท่านั้น[p][b]3. สถานีการค้าของดาวแต่ละดวง [/b][p]การค้าส่งผลต่อ Credits ของคุณโดยตรง ยกเว้นฝ่าย Advent ซึ่งสามารถใช้ Trade Port เพิ่มอัตราการเก็บทรัพยากรในบริเวณดาวที่มันตั้งอยู่ แต่ความสามารถนี้จะใช้ได้ต่อเมื่อวิจัยเทคโนโลยีไปจนถึงระดับหนึ่ง ดังนั้นอย่ารีรอที่จะสร้าง Trade Port ในดาวแต่ละดวงถ้าคุณสามารถสร้างได้[p][b]4. ระดับการวิจัยเทคโนโลยีและสิ่งก่อสร้างบางชนิด [/b][p]เทคโนโลยีบางอย่างเมื่อวิจัยแล้วจะส่งผลต่อปริมาณทรัพยากรที่เก็บได้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เช่น การวิจัยเพิ่มอัตราการเก็บเกี่ยวสูงสุดของ Metal และ Crystal หรือการวิจัยเพิ่มประชากรที่ทำให้คุณได้รับ Credits มากขึ้น พยายามวิจัยเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการเพิ่มทรัพยากรเหล่านี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะมันจะส่งผลดีต่อคุณในระยะยาว นอกจากนี้การสร้างสิ่งก่อสร้างอย่าง Orbital Refinery ของฝ่าย TEC ก็ช่วยเพิ่มทรัพยากรจากเหมืองเช่นกัน[p][b]5. จำนวนยานรบ [/b][p]ยูนิตยานรบชนิดต่างๆ จะต้องเสียค่า Upkeep หรือค่าดูแลรักษาโดยจ่ายเป็นทรัพยากรทั้ง 3 ชนิด แต่มันไม่ได้หักจากจำนวนทรัพยากรที่คุณมีอยู่ มันจะหักจากอัตราการเก็บเกี่ยวทั้งหมดของทรัพยากรทั้ง 3 ชนิด พูดง่ายๆ ก็คือยิ่งคุณมียานรบมากเท่าไร อัตราการเก็บเกี่ยวทรัพยากรก็จะลดลง และยิ่งคุณวิจัยเทคโนโลยีสาย Fleet Logistics เพื่อเพิ่มปริมาณยานรบที่สามารถสร้างได้สูงสุดไปมากเท่าไร ค่า Upkeep ก็จะยิ่งสูงขึ้นไปด้วย ยิ่งตอนท้ายๆ เกมถ้าคุณมีกองยานรบขนาดใหญ่อัตราการเก็บทรัพยากรของคุณจะลดลงอย่างมากจนแทบไม่พอใช้จ่าย ดังนั้นจำไว้ว่า ตลอดเกมคุณควรสร้างยานรบเฉพาะที่ต้องการใช้จริงๆ เท่านั้น ถ้าเศรษฐกิจคุณไม่เข้มแข็งพอการสร้างกองยานขนาดใหญ่อาจทำให้ทรัพยากรที่มีอยู่ไม่พอใช้ในระยะยาว[p][b]คุณสามารถดูผลรวมอัตราการเก็บเกี่ยวของทรัพยากรชนิดต่างๆ ได้โดยการเอาลูกศรชี้ไปที่ปริมาณทรัพยากรชนิดต่างๆ ที่แสดงอยู่บริเวณมุมขวาบนของหน้าจอ[/b] [color=red][b]Black Market แหล่งทรัพยากรที่ไม่ควรมองข้าม[/b][/color][p]หลายๆ คน[b]คงจะประสบปัญหา[/b]ทรัพยากรขาดมือในช่วงต้นเกม อาจจะเพราะดาวเริ่มต้นของคุณมีทรัพยากรให้เก็บไม่ครบทั้ง 3 ชนิดหรือคุณอาจจะใช้มันในการวิจัยจนหมด ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม Black Market เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในช่วงแรกๆ หรือเวลาที่ทรัพยากรคุณไม่พอใช้ คุณสามารถเข้าสู่ Black Market ผ่านไอคอน Criminal Underground ด้านบนของหน้าจอหรือการกด F3 แล้วเลือกที่ Black Market ตลาดมืดแห่งนี้จะมีทรัพยากรให้คุณซื้อขาย 2 ชนิดคือ Metal และ Crystal การซื้อขายจะคิดราคาต่อ100 หน่วย และราคาทรัพยากรเหล่านี้ก็จะขึ้นๆ ลงๆ ตามหลักอุปสงค์และอุปทาน ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เมื่อคุณซื้อเยอะราคาจะยิ่งสูงขึ้น เพราะความต้องการมากขึ้น กลับกันเมื่อคุณขายราคาก็จะตกลงเรื่อยๆ เพราะของล้นตลาด แต่ราคาขายจะตกลงต่ำสุดไม่เกิน 200 ดังนั้นไม่ต้องกังวลกับราคาขายมากนัก เพราะยังไงก็ยังได้ Credits อยู่ดี ควรจะห่วงเรื่องราคาซื้อจะดีกว่า เพราะมันจะพุ่งขึ้นสูงมาก เรียกว่าถ้าซื้อเพลินละก็ Credits ที่มีแม้ว่าจะเป็นหมื่นก็อาจจะหายไปในพริบตาเลยทีเดียว ถ้าราคาซื้อสูงขึ้นมากๆ ให้ปล่อยไว้สักครู่ ราคาซื้อจะค่อยๆ ลดลงเอง[center][img=63855]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]เมื่อคุณต้องการทรัพยากรแบบเร่งด่วน ที่นี่ช่วยคุณได้[/center][color=red][b]การค้าช่วยให้คุณร่ำรวย[/b][/color][p][b]การค้าช่วยเพิ่มพูน Credit[/b] ในคลังของคุณได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับจำนวน Trade Port และดวงดาวที่คุณครอบครองด้วย คุณจะสามารถสร้าง Trade Port ได้ก็ต่อเมื่อได้วิจัยเทคโนโลยีของมันจนเสร็จสิ้นแล้ว การค้ามี 2 ลักษณะ อย่างแรกคือ การค้าระหว่างดวงดาวของคุณเอง เมื่อคุณสร้าง Trade Port ตามดวงดาวต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Trade Ship จะทำการขนส่งสินค้าในรูปของ Credits ข้ามไปมาระหว่างดวงดาวที่คุณได้สร้าง Trade Port เอาไว้ ยิ่งมีขนส่งระหว่างดวงดาวหลายๆ ดวงมากเท่าไร Credits ที่ได้รับต่อวินาทีก็ยิ่งมากขึ้นไปด้วย อย่างที่สองคือการค้าระหว่างพันธมิตร คุณจะค้าขายในลักษณะนี้ได้ก็ต่อเมื่อสถานะทางการทูตของคุณกับอีกฝ่ายที่จะค้าขายด้วยนั้นอยู่ในภาวะสันติหรือเจรจาหยุดยิง คุณถึงจะสามารถเจรจาค้าขายต่อกันได้ และฝ่ายตรงข้ามต้องมี Trade Port เหมือนกับคุณ ผลที่ได้รับก็อยู่ในรูป Credits เช่นเดียวกัน[color=red][b]การพัฒนาดวงดาวแต่ละแห่ง[/b][/color][p]การพัฒนาดาวในด้านต่างๆ นั้นจะช่วยเพิ่มจำนวนประชากรหรือสิ่งก่อสร้าง ส่งผลโดยรวมในหลายๆด้าน คุณสามารถสั่งพัฒนาดาวที่ครอบครองอยู่ได้โดยเลือกที่ดวงดาว แล้วเลือกที่ Develop Planet (Q) หัวข้อในการพัฒนามีทั้งหมด 6 อย่างดังนี้[p][b]1. Civilian Infrastructure[/b] ช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต และจำนวนประชากรสูงสุด[p][b]2. Emergency Facilities[/b] มีการสร้างศูนย์ป้องกันภัยฉุกเฉิน และที่หลบภัยเพิ่มบนดาว ทำให้พลังชีวิตของดวงดาวเพิ่มขึ้น[p][b]3. Explore Planet[/b] เป็นการส่งนักสำรวจออกไปสำรวจพื้นผิวดาว เพื่อค้นหาทรัพยากร สิ่งก่อสร้างพิเศษและ Artifacts ที่ให้ผลพิเศษแก่ดวงดาวหรือยูนิต[p][b]4. Designate Capital Planet [/b]กำหนดดาวเป้าหมายให้เป็น Home Planet ซึ่งดาวดวงนั้นจะได้ Bonus การเก็บภาษีเพิ่มอีก 4 หน่วย ปกติแล้ว Home Planet จะมีอยู่แล้วก็คือดาวดวงแรกในตอนเริ่มเกม[p][b]5. Logistics Capacity [/b]เพิ่มจำนวนของ Logistics Structure ที่สามารถสร้างได้ในวงโคจร[p][b]6. Tactical Capacity [/b]เพิ่มจำนวนของ Tactical Structure ที่สามารถสร้างได้ในวงโคจรสิ่งที่คุณควรเลือกพัฒนาเป็นอันดับแรกสำหรับดาวทุกดวงก็คือ Civilian Infrastructure และควรพัฒนาจนเต็ม เพราะการเพิ่มจำนวนประชากรทำให้ภาษีที่เก็บได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับหัวข้อที่เหลือให้เลือกพัฒนาตามความเหมาะสมของสถานการณ์ จะได้ไม่เสียทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์[color=red][b]การวิจัยค้นคว้าเทคโนโลยีใหม่ (Research)[/b][/color][p]สิ่งที่จะทำให้คุณก้าวนำศัตรูอยู่หนึ่งก้าวเสมอก็คือการวิจัย อย่าหยุดวิจัยเทคโนโลยีใหม่ๆ ถ้าคุณมีทรัพยากรเพียงพอ คุณจะสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างและยานรบชนิดใหม่ๆ ได้ก็ต่อเมื่อคุณได้วิจัยเทคโนโลยีของมันเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น หากจะทำการวิจัยคุณต้องเริ่มจากการสร้างสถานีวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชนิดนั้นก่อน ซึ่งเลือกได้จากหัวข้อ Logistics Structure สถานีวิจัยจะแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ สถานีวิจัยทางทหาร และสถานีวิจัยทางอาณาจักรและเศรษฐกิจ สังเกตให้ดีๆ เพราะสถานีวิจัยของทั้ง 3 ฝ่ายนั้นชื่อไม่เหมือนกัน จากนั้นคุณจะสามารถเข้าสู่หน้าจอการวิจัยได้จากไอคอน Research ด้านบนของหน้าจอหรือกด F2 เทคโนโลยีที่คุณสามารถวิจัยได้จะแบ่งออกเป็น [b]4 สายหลักๆ คือ[/b][p]1. เทคโนโลยีด้านการทหาร [p]2. เทคโนโลยีด้านอาณาจักรและประชากร[p]3. Fleet Logistics[p]4. Artifacts[center][img=63856]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]กว่าจะไปถึงระดับสูงสุดเช่นนี้มันต้องใช้เวลานานมาก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้อย่าหยุดวิจัย [/center][p]เทคโนโลยีของทั้ง 3 ฝ่ายนั้นจะแตกต่างกันเฉพาะสายที่ 1 และ 2 สำหรับสายที่ 3 และ 4 จะเหมือนกันทุกประการ ผมคงต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยเนื่องจากไม่สามารถแจกแจงเทคโนโลยีสายที่ 1 และ 2 ของทั้ง 3 ฝ่ายได้ทั้งหมด เพราะรายละเอียดค่อนข้างเยอะ และแตกต่างกันทั้งชื่อหัวข้อจนถึงผลการวิจัย ซึ่งบางอย่างเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะของแต่ละฝ่ายซึ่งฝ่ายอื่นไม่มี คุณสามารถดูรายละเอียดของเทคโนโลยีชนิดต่างๆได้โดยเลือกหัวข้อที่ต้องการจะวิจัย ซึ่งก็เข้าใจได้ไม่ยากนัก สำหรับรายละเอียดของแต่ละสายหลักๆ เป็นดังนี้[p][b] 1. เทคโนโลยีด้านการทหาร Advent (Hostility), TEC (Military), Vasari (Warfare)[/b][p]การวิจัยเทคโนโลยีสายนี้จะเป็นการเพิ่มความสามารถในการรบของยูนิตต่างๆ ทั้งพลังชีวิต เกราะป้องกัน พลังโจมตีไปจนถึงโล่พลังงาน นอกจากนี้ยังทำให้คุณเข้าถึงยานรบชนิดใหม่ๆ และความสามารถพิเศษของยูนิตชนิดต่างๆ อีกด้วย[p][b]2. เทคโนโลยีด้านอาณาจักรและประชากร Advent (Harmony), TEC (Civilian), Vasari (Empire)[/b][p]เทคโนโลยีสายนี้ประกอบไปด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บทรัพยากรชนิดต่างๆ การเพิ่มจำนวนประชากร การตั้งถิ่นฐานบนดาวลักษณะต่างๆ กัน ความสามารถในการป้องกันดวงดาว การค้าขาย การเพิ่มประสิทธิภาพสิ่งก่อสร้างชนิดต่างๆ การวิจัยเทคโนโลยีสายนี้ทำให้คุณเข้าถึงสิ่งก่อสร้างชนิดใหม่ๆ ทั้ง Logistics และ Tactical Structure [p][b]3. Fleet Logistics แบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่[/b][p]- [b]Capital Ship[/b] หัวข้อนี้จะเพิ่มจำนวน Capital Ship ที่คุณสามารถสร้างได้ การวิจัยมันจะไม่เพิ่มค่า Upkeep โดยรวมแต่อย่างใด เมื่อวิจัยที่ระดับสูงสุดคุณจะสามารถสร้าง Capital Ship ได้ทั้งหมด 16 ลำ[p]- [b]Fleet Supply [/b]เป็นการเพิ่มจำนวนยานรบสูงสุดที่คุณสามารถสร้างได้ (เปรียบเสมือน Population Cap ของยูนิตครับ) โดยจำนวนยานที่เพิ่มนี้จะนับเฉพาะยานชั้น Frigate และ Cruisers เท่านั้น Capital Ship และยานรบขนาดเล็กไม่เกี่ยว การค้นคว้าเทคโนโลยีนี้จะเพิ่มค่า Upkeep ของยานรบทุกชนิดขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ (รวม Capital Ship ที่สร้างแล้วด้วยนะครับ) โดยสูงสุดจะอยู่ที่ 75 % ยิ่งค่า Upkeep สูงมากเท่าไรอัตราการเก็บเกี่ยวทรัพยากรทั้ง 3 ชนิดจะยิ่งลดลง ดังนั้นควรวิจัยเมื่อจำเป็นต้องการใช้จริงๆ เท่านั้น รายละเอียดของ Fleet Supply จะแสดงอยู่ด้านบนของหน้าจอใกล้ๆ กับจำนวน Credits[center][img=63857]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]การวิจัย Fleet Logistic นั้น เพิ่มค่าดูแลรักษายานรบ คิดให้ดีก่อนวิจัย[/center][p][b]4. Artifacts[/b][p]ส่วนนี้จะแสดง Artifacts ที่คุณค้นพบตามดวงดาวต่าง Artifacts แต่ละชิ้นนั้นจะมีความสามารถไม่เหมือนกัน ผลของมันจะคล้ายๆ กับเทคโนโลยีบางอย่างที่คุณวิจัยได้ บางชิ้นช่วยเพิ่มพลังโจมตีแก่ยูนิตทั้งหมดหรือช่วยลดพลังงานในการใช้ Phase Jump เป็นต้น การค้นหา Artifacts ทำได้ 2 วิธีคือ แบบแรกรอให้ศัตรูค้นพบ Artifacts ก่อนจากนั้นเกมจะแจ้งให้เราทราบว่าศัตรูพบ Artifact ที่ดาวดวงไหนโดยสังเกตจากชื่อดาวหรือสัญลักษณ์ลูกศรสีเหลืองเล็กๆ ที่แสดงอยู่ใต้ดาวดวงนั้น (แต่คุณต้องเคยค้นพบดาวดวงนั้นมาก่อนด้วยนะครับ) ให้เราส่งยานรบไปยึดดาวดวงนั้น วิธีนี้คุณไม่ต้องสำรวจหาเอง แต่บางครั้งการบุกเข้าไปยึดดาวที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในอาณาเขตศัตรูก็เป็นเรื่องยากและใช้เวลานาน แบบที่สองคือคุณต้องสำรวจตามดาวต่างๆ หาเอาเอง โดยใช้คำสั่ง Explore Planet ที่อยู่ในหัวข้อ Develop Planet สำรวจดาวที่สงสัยให้ครบ 100% ถ้าโชคดีดาวที่สำรวจนั้นมี Artifact อยู่คุณก็จะได้มันไปครอบครอง[p]สำหรับเทคโนโลยีด้านการทหารและอาณาจักรนั้นยังแบ่งออกเป็นระดับ ซึ่งมีทั้งหมด [b]8 ระดับ[/b] นั่นหมายถึงคุณต้องมีสถานีวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างละ 8 แห่ง (ทั้งด้านทหารและอาณาจักรรวมกันทั้งหมดเป็น 16 แห่งนะครับ) เพื่อให้คุณสามารถวิจัยเทคโนโลยีได้จนถึงระดับสูงสุด[color=red][b]เทคนิคการทำสงคราม[/b][/color][color=blue][b]เตรียมความพร้อมก่อนออกรบ[/b][/color][p][b]สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงก่อนทำสงคราม[/b]ก็คือความพร้อมด้านต่างๆ รวมถึงทรัพยากร ถ้าคุณมีทรัพยากรมากพอที่จะสร้างกองยานขนาดใหญ่แล้วส่งไปบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามได้เลยก็คงจะไม่เป็นปัญหา แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันต้องใช้เวลามากพอสมควรกว่าคุณจะมีทรัพยากรแบบเหลือกินเหลือใช้ขนาดนั้น และศัตรูรวมทั้งโจรสลัดก็มักจะมาเยือนคุณถึงประตูบ้านอยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำให้ทำในตอนแรกอาจจะไม่ถูกใจพวกชอบลุยนัก นั่นก็คือให้คุณป้องกันอยู่กับดาวแม่ก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมหลายๆ ด้าน การผลิตยาน Frigate จำนวนมากเพียงอย่างเดียวแล้วส่งออกไปลุยเลยในตอนแรกนั้นเป็นความคิดที่ไม่ค่อยเข้าท่าสักเท่าไร การตั้งรับอยู่กับที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ทรัพยากรไปกับการวิจัยพัฒนาได้อย่างเต็มที่ แทนที่จะเอาไปสร้างยานแล้วส่งออกไปตายฟรีตั้งแต่แรก ยิ่งถ้าดาวของคุณมีเส้นทางออกสู่ดาวอื่นหรือ Wormhole เชื่อมต่อน้อยเท่าไรการป้องกันจะยิ่งง่าย ขณะเดียวกันก็ให้คุณหาแหล่งทรัพยากรเพิ่มโดยการยึดดาวที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมียานของศัตรูเพียงไม่กี่ลำคุ้มกันอยู่ คุณอาจส่ง Scout ออกไปสอดแนมหาตำแหน่งศัตรูด้วยก็ได้ รอจนเศรษฐกิจของคุณมั่นคง และพัฒนาความสามารถของยูนิตจนมีประสิทธิภาพเต็มที่หรือระดับหนึ่ง แล้วค่อยผลิตยานรบส่งออกไปบดขยี้ศัตรูก็ยังไม่สาย [center][img=63858]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]อาวุธสุดยอดของแต่ละฝ่ายในเกมนี้ สามารถยิงข้ามระบบสุริยะได้เลยทีเดียว[img=63859]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]การผสมผสานยูนิตหลายๆ ชนิดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรบ[/center][color=red][b]ปริมาณหรือคุณภาพ?[/b][/color][p][b]ยานรบที่ได้รับการวิจัยอัพเกรด[/b]มาอย่างดีนั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่ไม่ได้อัพเกรดอย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านพลังโจมตี เกราะป้องกัน อัตราการฟื้นฟูของโล่พลังงาน และพลังชีวิต ประสิทธิภาพของยานรบด้านต่างๆ ที่ถูกปรับปรุงแล้วจะช่วยลดเวลาในการเข้าโจมตีหรือซื้อเวลาให้คุณล่าถอยได้ทัน แน่นอนว่าคุณภาพต้องมาก่อนแต่ใช่ว่าปริมาณจะไม่สำคัญ ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ได้แก่ Capital Ship ลำเดียวที่อัพเกรดมาอย่างดีแล้วก็ไม่อาจทนการโจมตีของ Bomber ธรรมดาๆ ที่มีจำนวนมากกว่าได้ ดังนั้นทั้งปริมาณและคุณภาพจึงมีความสำคัญพอๆ กัน จำไว้ว่าถ้าคุณภาพดีแล้วมีปริมาณมากด้วย รบที่ไหนชัยชนะก็อยู่แค่เอื้อม[center][img=63861]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ถึงแม้คุณภาพจะสำคัญกว่า แต่จากที่เห็นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าปริมาณนั้นก็มีส่วนสำคัญ[img=63862]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ยานรบขนาดเล็กเหล่านี้มีประสิทธิภาพอย่างมาก เมื่อพวกมันมีจำนวนเยอะพอ[/center][color=red][b]ค่าประสบการณ์[/b][/color][p][b]เฉพาะ Capital Ship เท่านั้น[/b]ที่สามารถเก็บค่าประสบการณ์เพื่อไต่ Level ได้ เมื่อเก็บค่าประสบการณ์จนครบจำนวนหนึ่ง ยูนิตจะได้เลื่อน Level และได้ความสามารถพิเศษชนิดใหม่เป็นรางวัลแถมด้วยการปรับปรุงความสามารถที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ความสามารถพิเศษบางอย่างช่วยสนับสนุนการรบได้เป็นอย่างดี เช่น ความสามารถ Shield Regeneration ที่ใช้ช่วยเร่งอัตราการฟื้นฟูโล่พลังงานของยานรบที่อยู่โดยรอบ หรือ Concentration Aura ที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีแก่ยานรบที่อยู่ใกล้เคียง เป็นต้น Level สูงสุดของ Capital Ship จะอยู่ที่ระดับ 9 ดังนั้นทุกครั้งที่มีโอกาสให้นำ Capital Ship เข้าร่วมรบเสมอแต่ก็ต้องคอยระวังไม่ให้มันถูกทำลายด้วยเช่นกัน[color=red][b]รู้เขา รู้เรา[/b][/color][p][b]สิ่งที่ผมทำเสมอ[/b]ก่อนส่งยูนิต Phase Jump เข้าไปยังดาวหรือที่มั่นของศัตรู ก็คือการสอดแนมดูจำนวนยานของศัตรูเพื่อประเมินกำลังก่อนว่ามีโอกาสชนะมากน้อยแค่ไหน การสอดแนมที่ผมใช้ประจำมีอยู่ 2 แบบ อย่างแรกคือส่งยานรบความเร็วสูงประเภท Scout เข้าไปเพียงลำเดียว เพื่อจะได้หนีออกมาได้ทันหากไปโผล่กลางวงศัตรู หรือถ้าหากหนีไม่ทันโดนสอยร่วง อย่างน้อยมันก็เป็นยานรบที่ราคาถูกกว่ายานชนิดอื่น (แต่ส่วนมากรอดเพราะความเร็วของมัน) การสอดแนมอย่างที่สองก็คือ การใช้ความสามารถพิเศษของยานรบ เช่น Capital Ship ของฝ่าย Advent มีความสามารถที่ชื่อ Clairvoyance ซึ่งใช้สอดแนมดูดาวดวงไหนก็ได้ในแผนที่ชั่วขณะหนึ่ง นับว่ามีประโยชน์มาก ถ้าคุณไม่สอดแนมก่อนทำการบุกเข้าไป คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าปลายทางข้างหน้ามีอะไรรอคุณอยู่ โดยเฉพาะการบุกเข้าไปใน Pirate Base แบบสุ่มสี่สุ่มห้าที่มักจะมียานไม่ต่ำกว่า 100 ลำป้องกันอยู่ อาจทำให้กองยานทั้งหมดที่คุณสร้างมาละลายหายไปหมดในพริบตา [color=red][b]การยึดครองดาวศัตรู[/b] [/color][p]การยึดครองดาวที่เป็นกลางนั้นไม่มีอะไรมาก แค่คุณใช้ยานรบชั้น Frigate หรือ Capital Ship ที่มีความสามารถ Colonize เข้ายึดดาวหลังจากกำจัดยูนิตที่เฝ้าอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการยึดดาวที่ศัตรูครอบครองอยู่ทำได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมขึ้นอยู่กับการเล่นของคุณดังนี้[p]- [b]ใช้กำลังทางทหาร[/b] วิธีนี้ไม่มีอะไรมากแค่ส่งยานรบของคุณไปจัดการศัตรูที่เฝ้าอยู่ และทำลายสิ่งก่อสร้างในวงโคจรทั้งหมด จากนั้นใช้ Capital Ship โจมตีดาวจนพลังชีวิตของมันลดลงถึงระดับหนึ่ง ดาวดวงนั้นจะกลายเป็นกลาง แต่คุณจะยังไม่สามารถ Colonize ได้จนกว่าค่าอิทธิพลของวัฒนธรรมเก่านั้นจะหมดไป[p]- [b]ใช้อิทธิพลทางวัฒนธรรม[/b] วิธีนี้ใช้เวลานานมากกว่าจะเห็นผล และเหมาะสำหรับตัดทรัพยากรด้าน Credits ของศัตรูทางอ้อมมากกว่ายึดดาวจริงๆ การจะยึดดาวของศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงโดยใช้วิธีนี้คุณต้องมีสิ่งก่อสร้างที่ใช้เผยแพร่วัฒนธรรมก่อน สร้างได้จากตัวเลือก Logistic Structure (มันยังช่วยป้องกันวัฒนธรรมของคุณถูกกลืนกินโดยศัตรูอีกด้วย) จากนั้นรอวัฒนธรรมจะแพร่กระจายออกไปโดยสังเกตจากสีของเส้นทางที่เชื่อมต่อกันของดวงดาว (สีของฝ่ายใดคือวัฒนธรรมของฝ่ายนั้น) ถ้าวัฒนธรรมคุณเข้มแข็งพอค่า Allegiance ของดาวเป้าหมายจะลดลงเรื่อยๆ จนเหลือ 0 % ศัตรูจะสูญเสียการครอบครองดาวดวงนั้น และมันจะกลายเป็นกลาง ให้คุณส่งยูนิตไป Colonize คุณก็จะได้ดาวดวงนั้นมาครอบครอง [center][img=63862]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]คุณจะได้เห็นภาพเช่นนี้ เมื่อใช้กองยานรบเข้าโจมตีเพื่อยึดดาว[img=63863]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]การใช้อาวุธสุดยอดยิงถล่มดวงดาวศัตรูก็ช่วยลดความจงรักภักดีและวัฒนธรรมลงได้[/center][color=red][b]โจรสลัดคือตัวแปรสำคัญ[/b][/color][p][b]บ่อยครั้งขณะที่เล่น[/b]คุณจะพบว่าทรัพยากรมีไม่เพียงพอสำหรับสร้างกองยานขนาดใหญ่เพื่อส่งไปจัดการศัตรู และขณะเดียวกันกองยานของศัตรูเองก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ๆ ทางออกในกรณีแบบนี้คือการส่งโจรสลัดไปโจมตีศัตรูเพื่อลดปริมาณกองยานหรือถ่วงเวลาการบุกโจมตี เพื่อให้เรามีเวลาเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ การสั่งให้โจรสลัดไปโจมตีศัตรูนั้นไม่สามารถทำได้โดยตรง แต่ทำได้โดยกำหนด “ค่าหัว” ของศัตรูคนนั้นโดยผ่านหน้าจอ Criminal Underground (กด F3) แล้วเลือกหัวข้อ Pirate ในตอนเริ่มเกมนั้นค่าหัวทุกคนจะเป็น 0 ในสภาวะนี้ โจรสลัดจะโจมตีแต่ละฝ่ายแบบสุ่มจนกว่าจะมีการตั้งค่าหัวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ค่าหัวยิ่งสูงโจรสลัดก็จะบุกโจมตีด้วยกองยานที่มีขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายคือ Home Planet หรือดาวที่อยู่ในเส้นทางใกล้ที่สุด การใช้โจรสลัดนี้เหมือนดาบสองคม เพราะศัตรูเองก็สามารถตั้งค่าหัวคุณได้เช่นกัน (และก็บ่อยซะด้วย) ถ้าคุณถูกตั้งค่าหัวเป็นอันดับต้นๆ (หรือไม่ก็ตาม) ให้เตรียมรับมือได้เลย สังเกตได้จากแถบเวลาที่เหลืออยู่ทางด้านล่างในหน้าจอนี้ เมื่อถึง 0 จะมีคำเตือนว่าโจรสลัดบุกมาโจมตี ถ้า Capital Ship ของคุณมีความสามารถ Dominate จะเปลี่ยนยานของโจรสลัดมาเป็นพวกไว้ใช้งานก็ยังได้ และถ้าเกิดคุณเบื่อที่ต้องคอยรับมือกับพวกมันแล้วละก็ มีอยู่หนทางเดียวก็คือบุกไปทำลาย Pirate Base ในแผนที่นั้นซึ่งส่วนมากตั้งอยู่บนซากอุกกาบาต และมีการป้องกันแน่นหนามาก[center][img=63864]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]ถ้าคิดว่าโจรสลัดพวกนี้ไร้พิษสงแล้วละก็ คิดใหม่ได้เลยครับ[img=63865]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]เป็นเรื่องปกติที่ Pirate Base จะมีการป้องกันแน่นหนาเช่นนี้[/center]