ปลุกตำนาน Kingdom Under Fire จากภาคแรกบนเครื่อง PC ในยุค RTS เฟื่องฟู สู่เกมใหม่ของ TDE ในฉบับ Online (ตอนที่1)

แชร์เรื่องนี้:
ปลุกตำนาน Kingdom Under Fire จากภาคแรกบนเครื่อง PC ในยุค RTS เฟื่องฟู สู่เกมใหม่ของ TDE ในฉบับ Online (ตอนที่1)
[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][b][size=3][color=darkred]ลำดับเหตุการณ์ของเกมซีรี่ย์ Kingdom Under Fire[/b][/size][/color][/center]Kingdom Under Fire: War of Heroes (2000)(PC)Kingdom Under Fire: Crusader (2004)(XBOX)Kingdom Under Fire: Heroes (2005)(XBOX)Kingdom Under Fire: Circle of Doom (2007)(XBOX360)Kingdom Under Fire II (2009)(XBOX360, PC)Kingdom Under Fire Online - Avalanche (2008)(PC)[center][b][size=3][color=red]Kingdom Under Fire: War of Heroes[/b][/size][/color][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p][b]Kingdom Under Fire: War of Heroes[/b] ถือกำเนิดขึ้นด้วยฝีมือการสร้างของบริษัท [b]Phantagram Interactive [/b]จากประเทศเกาหลีใต้ ด้วยรูปแบบเกมในแนว Real Time Strategy ที่ได้รับแรงบันดาลใจเกม RTS รุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่าง [b]Warcraft II [/b]ของ Blizzard จึงทำให้ Kingdom Under Fire: War of Heroes มีหลายๆ อย่างที่คล้ายกับ Warcraft II ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก 2 มิติที่มองเผินๆ แล้วอาจจะนึกไปว่าเป็น Warcraft II หรือรูปแบบการเล่นที่คล้ายคลึงกัน ถึงกระนั้น Phantagram Interactive ก็ไม่ได้ลอกระบบทั้งหมดมาเสียทีเดียว แต่ยังได้ใส่ระบบใหม่เข้ามาใน Kingdom Under Fire อีกด้วย ซึ่งระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามานั้น ถือได้ว่า Kingdom Under Fire เป็นผู้ริเริ่มขึ้นมาก่อนใครเลยทีเดียว[center][img=56689]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]Kingdom Under Fire: War of Heroes เป็นเกมบนเครื่อง PC ที่มีเนื้อหากล่าวถึงการทำสงครามแย่งชิงดินแดนระหว่าง เผ่าพันธุ์ Orc ([i]ออร์ค, อันเดธ, แวมไพร์[/i]) และ กลุ่มกำลังเบอร์เซียห์ ([i]มนุษย์, เอลฟ์, คนแคระ[/i]) ในภายหลังเปลี่ยนเป็นฝ่ายสว่างและฝ่ายความมืด ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ทั้ง 2 ฝ่าย เนื้อเรื่องของแต่ละฝ่ายก็จะนำผู้เล่นเข้าสู่ลำนำของสงครามรวมถึงจุดสิ้นสุดของสงครามในแบบตายตัว ระหว่างการเล่นในโหมดเนื้อเรื่อง มีช่วงหนึ่งที่ยูนิตฮีโร่ของผู้เล่นได้เข้าสู่รูปแบบการเล่นแบบ RPG มีการเดินทางออกตามหาอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ฮีโร่สวมใส่ และจะทำให้ฮีโร่สามารถต่อสู้ในเนื้อเรื่องบทต่อไปได้ง่ายขึ้น โหมดเนื้อเรื่องนั้นไม่สนุกเท่ากับการเล่นแบบ RTS กับผู้เล่นอื่นในระบบเครือข่าย เพราะความลงตัวเป็นอย่างดีของยูนิตแต่ละฝ่าย รวมถึงการใช้งานฮีโร่ ที่เปรียบเสมือนไพ่ตาย ทำให้มีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายนำได้ อินเตอร์เฟสและวิธีการเล่นคล้ายกับ Warcraft II ผู้เล่นที่เคยเล่นเกมแนว RTS อื่นๆ มาแล้วสามารถเข้าใจได้ในทันที[center][img=56690]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]ในประเทศไทย Kingdom Under Fire: War of Heroes ถูกนำมาปรับปรุงใหม่ในเวอร์ชั่น GOLD ซึ่งได้เปลี่ยนรูปแบบอินเตอร์เฟสเป็นภาษาไทย และใส่เสียงพากย์ลงในยูนิตแต่ละตัวอีกด้วย ทำให้ Kingdom Under Fire GOLD Edition ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะไม่โด่งดังเป็นพลุแตกก็ตาม [i][color=darkred]สิ่งที่ Phantagram Interactive ใส่ลงไปใน Kingdom Under Fire: War of Heroes นั้น เป็นระบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีเกม RTS เกมใดในช่วงเวลานั้นทำมาก่อน และยังเป็นช่วงรอยต่อระหว่าง Warcraft II กับ Warcraft III ระบบใหม่นี้ถูกนำออกวางตลาดก่อนที่ Warcraft III จะพัฒนาเสร็จ[/i][/color] ซึ่งนั่นก็คือระบบ EXP ของยูนิต โดยหลังจากการต่อสู้แต่ละครั้ง ยูนิตที่รอดชีวิตมาได้จะได้รับค่าประสบการณ์ ซึ่งทำให้ยูนิตนั้นๆ ได้รับการเลื่อนระดับ และส่งผลต่อพละกำลังและการป้องกันที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบฮีโร่ ซึ่งยูนิตฮีโร่จะมีความสามารถแตกต่างกัน และยังสามารถสวมใส่อุปกรณ์ลงไปเพื่อเสริมความสามารถได้อีก ในปัจจุบันทั้ง 2 ระบบนี้ได้กลายมาเป็นระบบพื้นฐานของเกม RTS ไปเสียแล้ว [center][img=56691]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img=56692]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]สำหรับบริษัท Phantagram Interactive แล้ว Kingdom Under Fire: War of Heroes เป็นผลงานชิ้นแรกที่น่าประทับใจ จนกระทั่งทีมงานได้ตัดสินใจสร้างภาคต่อบนเครื่องเกมคอนโซล [b]XBOX[/b] โดยใช้ชื่อเดียวกับภาคแรกในชื่อตอนว่า [b]Kingdom Under Fire: Crusader[/b]
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ