[p][color=red]Warrior[/color] นักต่อสู้ระยะประชิดที่ขึ้นชื่อว่าเป็น [color=blue]“อาชีพที่ต่อสู้บนพื้นดินที่เก่งที่สุด”[/color] แถมยังสามารถเลือกถืออาวุธได้ถึง 4 ประเภทนั่นก็คือ ดาบและกระบี่, หอกและทวน, ขวานและค้อน, ถุงมือและมือเปล่า ทำให้อาชีพนี้เลือกเก่งได้หลายแบบหลายสไตล์ขึ้นอยู่กับที่เราเลือกว่าอยากจะเก่งแบบไหน[p][color=blue]ความแตกต่างของอาวุธสกิล[/color][p]การถืออาวุธในช่วงเลเวลต้นๆ เราอาจจะถืออะไรก็ได้ แต่เมื่อเราเริ่มโตขึ้นเราจะต้องเลือกแล้วว่าอาวุธประเภทไหนกันแน่ที่ถูกใจเราที่สุด [p]ทำไมต้องเลือก? นั่นก็เพราะว่าอาวุธแต่ละประเภทจะต้องการค่าสเตตัสที่แตกต่างกันออกไป แค่การอัพค่าสเตตัสตามอาวุธและชุดเกราะก็แทบจะไม่มี Point เหลือให้กดอัพอย่างอื่นกันแล้ว นี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเราต้องเลือก ที่สำคัญอาวุธแต่ละประเภทยังมีสกิลเฉพาะของแต่ละสายอีก ดังนั้นการเลือกอาวุธจะมีผลต่อแนวทางการเล่นมากพอสมควร เราลองมาดูบทวิเคราะห์กันว่าอาวุธแต่ละแบบแตกต่างกันยังไง[center][img=52203]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]ช่วงแรกจะถืออะไรก็ได้ไม่สำคัญ[/color][/center][p][color=darkblue]ดาบและกระบี่[/color][p][color=indigo]ค่าสเตตัส[/color][p]เป็นสายการเล่นที่เรียกได้ว่าสมดุลที่สุดเพราะอัตราส่วนของการอัพค่าสเตตัสของสายนี้เฉลี่ยแล้วจะอัพ STR 57% และ AGI 43% ทำให้พลังโจมตีอยู่ในระดับที่ไม่ขี้เหร่เลย ในส่วนของความแม่นยำอยู่ในระดับพอตัว อัตราการโจมตี Miss ต่ำและถึงแม้ว่า % ในการติดคริติคอลจะไม่สูงแต่เราก็จะเห็นการโจมตีติดคริติคอลได้บ่อยๆ แต่ถ้าอัตราการหลบหลีกละก็ลืมมันไปได้เลย[p][color=indigo]สกิลเฉพาะของดาบและกระบี่ [/color][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Lethe Stance[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพ และความเร็วในการร่ายเวทย์ของศัตรูจะลดลงเป็นระยะเวลาหนึ่ง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Spirit Chaser Knack[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพ[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Atmos Sword Strike[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพ และมีโอกาสที่จะทำให้ศัตรูกระเด็นถอยหลัง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Myriad Sword Stance[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพแก่ศัตรูโดยรอบ และทำให้พลังโจมตีทางกายภาพและเวทย์มนต์ของศัตรูลดลง [p]จะเห็นได้ว่าสกิลของสายนี้จุดเด่นอยู่ที่การสภาวะผิดปกติให้กับศัตรู เพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวเองไม่ว่าจะเป็นเชิงรุกหรือรับ[center][img=52208]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]มีการติดคริบ้าง แต่จะหวังมากไม่ได้[/color][/center][p][color=indigo]สรุป[/color] [p]สายนี้อาจจะฆ่าคนไม่มันส์เท่าสายอื่น เพราะในการต่อสู้กับคนจะวัดกันที่สกิลมากกว่าการโจมตีธรรมดา ถึงแม้ว่าจะมีสกิลทีเด็ดอย่างการลดความเร็วในการร่ายเวทมนตร์ แต่ก็แลกกับการสูญเสียปราณโทสะถึง 100 หน่วย ยิ่งเป็นสกิลที่ลดพลังโจมตีของศัตรูต้องใช้ค่าปราณถึง 200 หน่วย (ผลของสกิลอยู่ได้ 15 นาที) ซึ่งอย่าลืมว่าสกิลโจมตีอื่นๆ ก็ใช้ค่าปราณในการร่ายเหมือนกัน (ในระดับฝีมือขั้นจอมยุทธ ตอนเลเวล 40 เราจะมีหลอดปราณโทสะอยู่ 200 หน่วย หากใช้สกิลนี้ค่าปราณโทสะก็หมดหลอดพอดี) [p]ในการสู้กับผู้เล่นด้วยกันถึงแม้ว่าเราจะยัดสกิลไม้ตายพวกนี้ใส่เป้าหมาย แต่ดาเมจรวมของเรากับสกิลที่เหลือ ก็ใช้ว่าจะสามารถฆ่าคนให้ตายภายใน 15 วินาทีได้ เมื่อมองสถานการณ์ระยะยาวแล้วสายนี้จะเด่นในการเก็บเลเวลมากที่สุด เพราะค่าสเตตัสโดยรวมแล้วซดกับมอนสเตอร์ 1-1 สบายมาก (ตีไม่ค่อยวืด คริบ่อยใช้ได้ เก็บเลเวลเนียน) [p][color=indigo]นิยามสำหรับสายนี้[/color] : [color=red]“แทบจะไม่มีข้อเสีย แต่ก็แทบจะหาจุดเด่นไม่เจอ”[/color][center][img=52209]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]สายดาบและกระบี่เลเวลสูงๆ ยิ่งบาดใจ[/color][/center][p][color=darkblue]หอกและทวน[/color][p][color=indigo]ค่าสเตตัส[/color][p]สายนี้จะเริ่มเด่นมาที่เรื่องของพลังการโจมตีมากขึ้นเพราะการอัพค่าสเตตัส STR 71% และ AGI 29% ทำให้พลังการโจมตีอยู่ในเกณฑ์ที่สูงเลยทีเดียว และด้วยอัตราส่วนของ AGI ที่เฉลี่ยแล้วประมาณ 29% ทำให้สายนี้แทบจะไม่ต้องหวังกับอัตราการคริติคอลหรืออัตราการหลบหลีกเลย แต่ถ้าในเรื่องของความแม่นยำล่ะก็ พอเอาตัวรอดได้สบายเลยครับ[p][color=indigo]สกิลเฉพาะของหอกและทวน[/color][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Whisk Stab[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพแก่ศัตรูทั้งหมดตรงหน้า และทำให้ศัตรูเลือดไหลเป็นระยะเวลา 15 วินาที[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Back Thrust[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพ[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Meteor Rush[/color] ปล่อยลำแสงโจมตีศัตรูตรงหน้า สร้างความเสียหายทางกายภาพและยังทำให้ศัตรูกระเด็นถอยหลัง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Frost Glacier[/color] สร้างความเสียหายทางกายภาพแก่ศัตรูในระยะ 12 เมตรรอบตัว และลดพลังป้องกันทางกายภาพและเวทย์มนต์ของศัตรูลงเป็นระยะเวลา 10 วินาที ทีเด็ดของสกิลสายหอกก็คือจะมีสกิล [color=brown]Whisk Stab[/color] ที่ทำให้เลือดไหล เมื่อรวมกับสกิล [color=brown]Short Burst[/color] ที่ทำให้เลือดไหลเหมือนกันเท่ากับว่าจะมีสกิลเลือดไหลถึง 2 สกิล ซึ่งทั้ง 2 สกิลสามารถใช้ได้โดยความสามารถไม่ทับซ้อนกัน ส่วนสกิลไม้ตายอย่าง [color=brown]Frost Glacier[/color] หากไม่จำเป็นจริงๆ จะเป็นสกิลที่ไม่ค่อยน่าใช้เท่าไหร่เพราะผลของสกิลจะอยู่ได้แค่ 10 วินาทีเท่านั้นแถมยังใช้ค่าปราณโทสะถึง 200 หน่วยเลยทีเดียว[center][img=52214]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]หวดสกิลทีเหมือนตีกอล์ฟ - -a[/color][/center][p][color=indigo]สรุป[/color][p]สายนี้จะสามารถเก็บเลเวลคนเดียวได้ดีในช่วงแรกๆ เพราะมีค่า AGI พอสมควร ทำให้โจมตีไม่ Miss มากเกินไปแถมพลังโจมตียังอยู่ในเกณฑ์สูงจึงแทบจะไม่ต้องพึ่งอัตราการคริติคอลเลย แต่ในช่วงหลังๆ (เลเวล 60+) จะต้องอาศัยปาร์ตี้ในการเก็บเลเวลเป็นอย่างมาก เพราะสกิลส่วนใหญ่เป็นสกิลโจมตีหมู่ทำให้ไปไหนมาไหนได้เองลำบาก [p]สำหรับสกิลที่เน้นไปทางการทำให้ศัตรูเลือดไหล ซึ่งจะเป็นดาเมจทางกายภาพ หากเจอสายเวทย์เกราะเบาจะได้เปรียบในเรื่องดาเมจที่รุนแรงแบบเห็นได้ชัด แต่ถ้าเจอพวกเกราะหนักดาเมจอาจจะถูกลดไปบ้าง อีกสกิลหนึ่งที่ทำให้สายนี้น่าจับตามองก็คือสกิล Meteor Rush เป็นสกิลยิงจากระยะไกล (ถึงไกลมาก) ที่มีพลังโจมตีรุนแรงและทำให้เป้าหมายกระเด็นถอยหลัง ในเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศสายการเล่นนี้ถูกยกย่องว่าเป็นสายการเล่นที่ฆ่าคนเก่งที่สุด (ตอนช่วงเลเวล 80 เป็นต้นไป) ยิ่งช่วงหลังๆ ถ้าเลือกเป็นฝ่ายมารจะสามารถเรียนสกิล Stun เพิ่มมาอีกหนึ่งสกิลทำให้เพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีก[p][color=indigo]นิยามสำหรับสายนี้[/color] : [color=red]“เด่น PVP แต่เก็บเลเวลทีปาร์ตี้เครียด”[/color][center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]นี่คือสายแห่งการ PVP จริงหรือไม่? ต้องพิสูจน์[/color][/center][p][color=darkblue]ขวานและค้อน[/color][p][color=indigo]ค่าสเตตัส[/color][p]ในสายการเล่นทั้งหมดของ Warrior สายนี้ถือว่าเน้นความบ้าพลังที่สุดเพราะการอัพค่าสเตตัสจะอัพ STR 86% และ AGI 14% เรียกได้ว่าค่า AGI เอามาแค่ประดับให้พอหอมปากหอมคอเท่านั้น อย่าว่าแต่อัตราการคริติคอลหรืออัตราการหลบหลีกที่จะไม่มีแล้ว อัตราความแม่นยำเองก็ยังแทบจะไม่เห็นผลเลย การโจมตีธรรมดาก็ช้าที่สุดเมื่อเทียบกับอาวุธอื่น แต่จุดเด่นของสายนี้คือการอัดด้วยสกิลครับ[p][color=indigo]สกิลเฉพาะของขวานและค้อน[/color][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]DrakeSwift Strike[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพและยังทำให้ศัตรูมึนเป็นระยะเวลาหนึ่ง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Mountsever Sweep[/color] สร้างความเสียหายทางกายภาพแก่ศัตรูในระยะ 10 เมตรรอบตัว[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Volcanic Stunner[/color] สร้างความเสียหายทางกายภาพแก่ศัตรูในระยะ 10 เมตรรอบตัว และทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูลดลง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Heaven FlameDragon[/color] สร้างความเสียหายทางกายภาพแก่ศัตรูในระยะ 12 เมตรรอบตัว และความเสียหายต่อเนื่องอีก 6 วินาทีให้หลัง [p]สิ่งที่ดึงดูดให้คนมาสนใจที่จะเล่นสายนี้คือ การมีสกิล Stun เพิ่มมาอีกหนึ่ง เท่ากับว่าเมื่อรวมสกิลทั้งหมดแล้ว คนที่เล่นสายนี้จะมีสกิล Stun ถึง 3 สกิลได้แก่ [color=brown]Aeolian Blade[/color] (Stun สูงสุด 3 วินาที) [color=brown]Lion Roar[/color] (Stun สูงสุด 6 วินาที) และ [color=brown]DrakeSwift Strike[/color] (Stun สูงสุด 6 วินาที) รวมแล้วจะสามารถทำให้ศัตรูติด Stun ได้นานถึง 15 วินาที ลองคิดดูสิครับว่าชัยชนะจะหอมหวานขนาดไหน (ถ้าไม่ Miss นะ) ส่วนสกิลที่เหลือจะเป็นสกิลหมู่ทั้งหมด เห็นแบบนี้แต่ก็ใช่ว่าจะให้ไปลากมอนสเตอร์เยอะๆ ได้นะครับ เพราะ Warrior ไม่ได้เกิดมาเป็น Tanker เหมือนอาชีพ Wear Beat ดังนั้นสกิลซัพพอร์ตจึงต่างกัน[center][img=52220]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]Stun คือจุดขายของสายขวานและค้อน[/color][/center][p][color=indigo]สรุป[/color] [p]ข้อดีของการอัพ STR มาสูงทำให้ดาเมจของสกิลค่อนข้างแรง เมื่อเทียบกับสายอื่นแล้วหากใช้สกิลแบบเดียวกันสายนี้จะได้เปรียบในเรื่องของดาเมจที่รุนแรงกว่า (ขอย้ำ ถ้าไม่ Miss) แต่ในส่วนของความแม่นยำนั้นอย่าไปเทียบสายอื่นเลยครับช้ำใจเปล่าๆ แต่วิธีลบข้อด้อยตรงนี้ก็คือให้หาเครื่องประดับที่เพิ่มความแม่นยำมาแทนเท่านี้ก็เทพแล้วครับ ที่สำคัญสายนี้ถูกยกย่องว่าเป็นสายแห่งการฆ่ามอนสเตอร์ที่ดีที่สุดของ Warrior เพราะด้วยการอัดไม่กี่สกิลมอนสเตอร์ก็ลงไปกองแล้ว แถมช่วงเลเวลสูงๆ ยังมีสกิลหมู่ให้ใช้หลายสกิลและยังเต็มไปด้วยความรุนแรง เวลาเจอมอนสเตอร์เยอะๆ ถ้าได้บัฟดีๆ มีพระฮีล รับรองปาร์ตี้จะรักคุณจนแทบอยากจะแจกเบอร์โทรน้องสาวให้คุณเลยทีเดียว [p][color=indigo]นิยามสำหรับสายนี้[/color] : [color=red]“เก็บเลเวลดี PVP ก็โอเค”[/color][center][img=52221]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]ถึงจะเป็นค้อนเลเวลต่ำ ดูยังไงก็น่ากลัวอยู่ดี[/color][/center][p][color=darkblue]ถุงมือและมือเปล่า[/color][p][color=indigo]ค่าสเตตัส[/color] [p]สายนี้จะเน้นไปที่ความรวดเร็วในการโจมตีและอาศัยคริติคอลเป็นจุดเด่นในเรื่องของดาเมจ เพราะการอัพค่าสเตตัสจะอัพ STR 43% และ AGI 57% ด้วยการเน้นค่า AGI สูงทำให้อัตราความแม่นยำ, อัตราการคริติคอล สูงตามไปด้วย ปัญหาเดียวของการอัพค่าสเตตัสของสายนี้ก็คือมักจะมีปัญหาเรื่องของการใส่ชุดที่อาจจะล่าช้ากว่าสายอื่นๆ เพราะชุดจะต้องการค่า STR ค่อนข้างสูงเหมือนกัน เมื่อมั่วแต่อัพ STR + AGI ทำให้ค่า Con จะน้อยส่งผลถึงค่า Max HP จึงไม่แปลกถ้าสายนี้จะมีเลือดที่น้อยกว่าสายอื่นในระดับเลเวลที่เท่ากัน ส่วนการอัพ AGI 20 หน่วยจะได้โอกาสการติดคริติคอลมา 1%[p][color=indigo]สกิลเฉพาะของขวานและค้อน[/color][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]AirSlicer Palm[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพ และยังทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลงเป็นระยะเวลา 8 นาที[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Shadowless Kick[/color] โจมตีศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพ และยกเลิกสกิลที่ศัตรูกำลังใช้อยู่[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Cyclone Kick[/color] สร้างความเสียหายทางกายภาพแก่ศัตรูในระยะ 8 เมตรรอบตัว และเพิ่มความเร็วในการโจมตีปกติให้กับตัวเองเป็นระยะเวลาหนึ่ง[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Dragon Thruster Bash[/color] ซัดพลังโจมตีระยะไกลใส่ศัตรูสร้างความเสียหายทางกายภาพ และยังทำให้การโจมตีแบบปกติมีผลของธาตุไฟเป็นระยะเวลา 15 วินาที [p]ต้องขอบอกก่อนเลยว่าสกิลเฉพาะของสายการเล่นนี้จะเน้นซัพพอร์ตการโจมตีปกติซะส่วนใหญ่ เพราะมีทั้งสกิลเพิ่มความเร็วในการโจมตีปกติ, สกิลที่ทำให้การโจมตีแบบปกติมีผลเป็นธาตุไฟ (พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นจะคำนวณจากความแรงของอาวุธที่ถือ) /การป้องกันผลของสกิลนี้มีทางเดียวนั่นคือใส่ของป้องกันธาตุไฟอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าไม่มีละก็เตรียมเจ็บตัวได้เลย[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]ใครชกดีเดี๋ยวพาไปแข่งซีเกมส์ปีหน้า[/color][/center][p][color=indigo]สรุป[/color] [p]สิ่งที่ถือว่าแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับสายอื่นๆ คือ สายนี้จะไม่เน้นไปที่การอัดสกิลตูมตามๆ เหมือนสายอื่นๆ แต่สายนี้จะเน้นไปที่การโจมตีธรรมดาล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่ามอนสเตอร์หรือตอน PVP เพราะด้วยความเร็วในการโจมตีปกติที่เร็วถึง 1.43 ครั้งต่อวินาที ทำให้ต่อยได้มันส์มืออย่างมาก แถมยังมีโอกาสติดคริติคอลสูง จึงทำให้การเล่นสายนี้ดูจะสนุกและแตกต่างไปอีกแบบ เวลา PVP อย่าลืมใช้สกิลเด็ดอย่าง [color=brown]Cyclone Kick[/color], [color=brown]Dragon Thruster Bash[/color], [color=brown]Shadowless Kick[/color] ที่เป็นจุดเด่นของมันเพื่อเสริมการโจมตีแบบปกติให้เหี้ยมขึ้นไปอีกนะครับ[p][color=indigo]นิยามสำหรับสายนี้[/color] : [color=red]“คริบ่อย ต่อยเบา รัวหมัดไวปาน มนัส บุญจำนงค์”[/color][center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]หมัดเลเวลสูงสียิ่งสวย[/color][/center][p][color=blue]ทีเด็ดสกิล Warrior[/color][p]หากจะพูดถึงสกิลที่น่าอัพหรือสกิลน่าใช้ก็คงบอกได้คำเดียวเลยว่า “มันก็น่าใช้ทุกสกิลนั้นแหละ” เพียงแต่ว่าคุณจะมีเงินเรียนมันหมดไหม (ในช่วงหลังๆ ยังไงเราก็ต้องอัพหมดเกือบทุกสกิล) แต่ที่หัวข้อนี้ต้องการจะบอกก็คือ ทีเด็ดของการใช้สกิลเพื่อเสริมจุดเด่น ลบจุดด้อยของอาชีพ Warrior ที่จะมีเทคนิคการใช้ ซึ่งคงจะบอกได้คำเดียวว่า ใช้ได้ตั้งแต่เด็กยันแก่ /gg[p][color=darkblue]ใช้สกิลลบจุดด้อยเรื่องป้องกันเวทย์ต่ำ[/color] [p]สิ่งที่เป็นกฎเกณฑ์ตายตัวไม่ว่าจะเกมไหนก็คือ Warrior มักจะแพ้ทางพวกนักเวทย์เสมอ เพื่อความสมดุลไม่อย่างนั้น Warrior จะเทพเกินไป :P แต่ข้อเสียเปรียบในส่วนนี้เราสามารถทำให้มันบรรเทาลงได้ด้วยสกิล Muscle Alter Sutra (ลดพลังป้องกันทางกายภาพลงส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปเพิ่มให้กับพลังป้องกันทางเวทมนตร์เป็นระยะเวลา 30 วินาที) สกิลจำเป็นเมื่อต้องต่อสู้กับสายเวทมนตร์ แต่สกิลนี้ก็มีความลับเล็กๆ ซ่อนอยู่เหมือนกัน ส่วนจะเป็นอะไรนั้นเรามาดูตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพกันเลยครับ[center][img=52227]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=red]คิดกำราบสายเวทย์ก็อัพไปเยอะๆ[/color][/center][p][color=indigo]สกิลตัวแปรที่ใช้ทดสอบ[/color] 1. สกิล [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Auric Shell Barrier[/color] (เพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพให้กับสมาชิกรอบๆ เป็นระยะเวลา 30 นาที)2. สกิล [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Solid Shell Hierogram[/color] (เพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพให้กับเป้าหมายเป็นระยะเวลา 30 นาที) 3. สกิล [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img] [color=brown]Muscle Alter Sutra[/color] (ลดพลังป้องกันทางกายภาพลงส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปเพิ่มให้กับพลังป้องกันทางเวทมนตร์เป็นระยะเวลา 30 วินาที)[center][img=52234]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][p]จากตารางผลสรุปที่ได้คือ สกิลเพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพมีผลต่อจำนวนตัวเลขที่สกิล Muscle Alter Sutra จะนำไปคำนวณก่อนที่จะนำไปเพิ่มพลังป้องกันทางเวทมนตร์ แต่สกิลดังกล่าวจะต้องเป็นสกิลของอาชีพ Warrior เอง ซึ่งสกิลเพิ่มพลังป้องกันสกิลอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของอาชีพ Warrior จะไม่มีผลต่อการนำคำนวณแต่อย่างใด ส่วนเวลาใช้สกิล[p]จะใช้สกิล [color=brown]Auric Shell Barrier[/color] เพิ่มพลังป้องกันก่อนแล้วค่อยใช้สกิล [color=brown]Muscle Alter Sutra[/color] สลับพลังป้องกันทีหลังหรือ[p]จะใช้สกิล [color=brown]Muscle Alter Sutra[/color] สลับพลังป้องกันก่อนแล้วค่อยใช้สกิล [color=brown]Auric Shell Barrier[/color] เพิ่มพลังป้องกันทีหลัง “ผลที่ออกมามีค่าเท่ากัน” [p]สิ่งที่จะเสริมอีกนิดก็คือ เรื่องออฟชั่นของการป้องกันธาตุมีผลต่ออัตรา % ที่จะเพิ่มขึ้นเวลาใช้สกิล Muscle Alter Sutra เช่น พลังป้องกันธาตุน้ำ 284 เมื่อใช้สกิลจากเพิ่มเป็น 367 (เพิ่มมา 83 หน่วย) แต่ถ้าพลังป้องกันธาตุน้ำของเรามี 471 เมื่อใช้สกิลจะเพิ่มเป็น 609 (เพิ่มมา 138 หน่วย) ทั้งๆ ที่ใช้สกิลเลเวลเดียวกันแต่พลังป้องกันเวทมนตร์ที่เพิ่มขึ้นมาจะต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด[p]สิ่งสุดท้ายที่ต้องรู้ก็คือ สกิลธาตุของอาชีพต่างๆ (เมื่อรู้แล้วก็หาออพชั่นป้องกันธาตุนั้นๆ กันเอาเองนะครับ)[color=darkred]Warrior : ไม่มีสกิลธาตุ (ยกเว้นสายหมัดที่มีสกิลธาตุไฟ)Magician : มีสกิลธาตุไฟ, ธาตุน้ำ, ธาตุดินWereBeast :ไม่มีสกิลธาตุWereFox : มีสกิลธาตุไม้, ธาตุน้ำElf Archer : มีสกิลธาตุทองElf Priest : มีสกิลธาตุทอง [/color][center][img=52235]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]บัพเดียวที่มีผลต่อสกิล Muscle Alter Sutra[/color][/center][p][color=darkblue]สกิลวิ่งไวมีอะไรมากกว่าที่คิด[/color] [p]สกิลวิ่งไวที่ว่าก็คือสกิล [color=brown]Cloud Sprint[/color] (เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ตั้งแต่ 45%-90% แล้วแต่เลเวลของสกิล) และสกิล [color=brown]Striding Stroll Sprint[/color] (เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 100% แต่ต้องอัพสกิล Cloud Sprint ให้เต็ม 10 ก่อน) [p]แน่นอนว่าแค่มองปราดเดียวก็คงจะไม่ต้องคิดมากเลย เพราะสกิลนี้จะทำให้เราวิ่งเข้าถึงตัวพวกโจมตีระยะไกลได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วเมื่อต้องสู้กัน หรือเอาไว้หนียามคับขัน แต่ที่เห็นได้ความนิยมสุดๆ คือใช้ตอนที่ต้องวิ่งไปส่งเควสต์ไกลๆ (อันนี้ผมก็ใช้บ่อย -0-) แต่เทคนิคที่ผมจะบอกต่อไปนี้มาจากประสบการณ์ที่ได้เห็นจริงในสงครามกิลด์วอร์ของต่างประเทศ [p]ถ้าเป็นสงครามแบบ 1-1 ประโยชน์ของสกิลก็คงไม่ต้องขยายความแล้ว แต่ถ้าเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่ต้องต่อสู้กันหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นยกปาร์ตี้ตีกัน ยกกิลด์ตีกัน หรือสงครามชิงดินแดน สกิลนี้เด็ดสุดๆ ครับ [p]เทคนิคก็คือ ให้เราวิ่งไปอยู่แนวหน้าเพื่อล่อให้อาชีพโจมตีระยะไกลล็อกเป้าแล้วยิงมาที่เรา (ไม่ต้องห่วงว่าจะตายครับ ยังไงก็ปั๊มเลือดทัน ถ้าเรากับคนที่ยิงเลเวลไม่สูงต่างกันแบบลิบลับ) หลังจากที่เราโดนยิงสกิลดอกแรกเสร็จปุ๊ปให้กดใช้สกิล Cloud Sprint หรือ Striding Stroll Sprint แล้ววิ่งถอยเข้าแนวหลังทันที และเนื่องจากส่วนมากผู้เล่นมักชอบใช้สกิลคอมโบ ทำให้ตอนที่คอมโบกำลังเรียกใช้สกิลที่สอง คนที่ยิงจะวิ่งตามเราที่กำลังวิ่งถอยหลัง เท่ากับว่าตัวคนที่โจมตีเราจะวิ่งล้ำแนวรุกของเขาออกมา ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยโจมตีระยะไกลของเราจัดการยิงให้ดิ้นไปเลยครับ [p]แผนนี้ใช้ได้ผลดีมากกับพวกชอบโจมตีระยะไกลที่ชอบใช้สกิลแบบคอมโบ และยิ่งเป็นพวกที่ Cancel เป้าหมายไม่เป็นยิ่งขนมกรุ๊บเลยครับ เท่าที่เห็นในเซิร์ฟต่างประเทศบางคนวิ่งตามตัวล่อจนหน้าแทบชนกับแนวหน้าอีกฝั่งเลยทีเดียว (คิดแล้วฮาจริงๆ ^0^) แต่มุกนี้ถ้าทำบ่อยๆ อีกฝั่งอาจจะจับไต๋ได้ควรระมัดระวังในเรื่องของการใช้นิดหนึ่ง[center][img=52236]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]แค่วิ่งไว! ใช้เป็น! โคตรป่วน![/center][p][color=darkblue]รู้หลักคอมโบสกิลเวลาเก็บเลเวล[/color] [p]เนื่องจาก Warrior จะมีสกิลโจมตีระยะไกลอยู่หนึ่งสกิล ซึ่งได้มาตั้งแต่ช่วงเลเวล 16 ก็คือสกิล [color=brown]Dragon Emerge[/color] ทำให้บางคนใช้สกิลนี้เพื่อเป็นการเรียกมอนสเตอร์ให้วิ่งเข้ามาโจมตี (เป็นการจองมอนสเตอร์เวลาต้องแย่งกับคนอื่นในบางครั้ง) ช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่เมื่อเลเวล 20+ ขึ้นไปปัญหาจะเริ่มเกิดทันที เพราะมอนสเตอร์บางตัวจะมีการโจมตีระยะไกลด้วยเวทมนตร์ [p]Warrior เป็นอาชีพที่ป้องกันเวทมนตร์ต่ำอยู่แล้ว การที่จะโดนมอนสเตอร์โจมตีด้วยเวทย์คงไม่ดีแน่ ดังนั้นเราจึงไม่ควรนำสกิล Dragon Emerge มาวางเป็นสกิลแรก แต่เราควรวิ่งเข้าไปโจมตีในระยะประชิดให้ไวที่สุด ต่อให้ครั้งแรกจะโดนมอนสเตอร์โจมตีด้วยเวทมนตร์ก็ช่างมันครับ ยอมเจ็บตัวไปก่อนพอคลุกวงในได้จะงัดสกิลอะไรออกมาใช้ก็ตามสะดวกเลย เมื่อเลือดมอนสเตอร์เหลือประมาณ 1/5 ของหลอดมันจะเริ่มร่ายเวทย์อีกครั้ง ถ้าเป็นไปได้เราควรรีบอัดสกิลแรงๆ ตั้งแต่เลือดของมันเหลือ 2/5 แล้ว เพื่อเป็นการรีบปิดบัญชีก่อนที่จะโดนยิงด้วยสกิลเวทมนตร์อีกครั้ง เพราะมันจะเปลืองยาเพิ่ม HP แบบไม่จำเป็น[center][img=52237]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]สกิลดี แต่ต้องใช้ให้ถูกจังหวะ[/color][/center][p][color=blue]เทคนิคการ Stun เวลา PVP[/color] [p]สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการ PVP ผมก็จะบอกเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ให้ลองเอาไปปรับใช้กันดู ต้องขอออกตัวก่อนว่านี้คือประสบการณ์ที่เจอมากับตัวเองโดยตรง [p]สิ่งเดียวที่ทำให้ Warrior เหนือกว่าสายอาชีพอื่นๆ ก็คือมีสกิล Stun ซึ่งจะมีอยู่ 2 สกิลคือ [color=brown]Aeolian Blade[/color] และ [color=brown]Lion Roar[/color] (หากเล่นสายขวานหรือค้อนก็จะมีเพิ่มมาอีกหนึ่งสกิลคือ DrakeSwift Strike) เทคนิคง่ายๆ ครับ นำสกิล Aeolian Blade, Lion Roar, สกิลติดสถานะเลือดไหลซักหนึ่งสกิล, สกิลดาเมจแรงๆ อีกหนึ่งสกิล นำออกมาวางแยกไว้ตรงคีย์ลัดก่อน แล้วให้เอาสกิลที่เราคิดว่าดีที่สุดทั้งหมดเอาไปเรียงเป็นคอมโบสกิล (แต่อย่าเอาสกิลทั้ง 4 สกิลที่แยกออกมาไปรวมนะครับ)[p]ขั้นแรกพยายามเปิดด้วยสกิล Aeolian Blade เพราะมี Cooldown ที่ไว ช่วงที่ศัตรูมึน 3 วินาที ให้ DoT เลือดไหลด้วยสกิลเช่น Short Burst จากนั้นทำให้มึนต่อด้วยสกิล Lion Roar ทันที ที่เหลือตามด้วยคอมโบสกิลทำดาเมจที่เรียงเอาไว้จนจบ หากเป็นไปได้ก็ทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ [p]แต่ถ้าทำตามนี้ไม่ได้ก็พยายามยัดด้วยสกิล Aeolian Blade ให้บ่อยๆ สลับกับ DoT เลือดไหลและสกิลทำดาเมจแรงๆ อีกซักหนึ่งสกิล เพราะยังไงสุดท้ายผลแพ้ชนะจะขึ้นอยู่ที่ว่าใครปั๊มเลือดไม่ทันหรือเลือดหมดก่อนก็แพ้ไป การจับจังหวะ Cooldown ที่ดีจะสร้างความได้เปรียบให้เราได้ระดับหนึ่ง [p]ในกรณีที่เจอพวกยิงไกล พวกนี้จะชอบหนีไปนู้นไปนี้ โดยเฉพาะอาชีพ WareFox ที่มีสกิลสลับเลือดกับมานา แบบว่าถ้าเปิดโอกาสเมื่อไหร่เลือดเต็มทันที อีกสูตรหนึ่งที่ค่อนข้างได้ผลเวลาเจอแบบนี้ก็คือให้คำนวณเลือดเป้าหมาย ถ้าเห็นว่ากดคอมโบชุดใหญ่น่าจะตายให้ใช้สกิล Lion Roar เบรกไว้ก่อนเลย (ลืมบอกไปสกิลนี้ติด Stun 100% ถ้าไม่ Miss) เสร็จแล้วกดคอมโบชุดใหญ่อัดให้ยับไปเลยครับ [p]ในการต่อสู้จริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะไม่ได้มีรูปแบบดังที่ผมกล่าวถึงเสมอไป เพราะมีหลายปัจจัยเช่น สภาพแวดล้อมในขณะต่อสู้, เลเวลของตัวละคร, สกิลที่เรียนมา, อาวุธและอุปกรณ์ที่สวมใส่ แต่สิ่งเดียวที่จะทำให้เราเก่งขึ้นได้ก็คือประสบการณ์เท่านั้นครับ สู้บ่อยๆ แพ้บ่อยๆ แล้วปรับปรุงข้อเสียนั้นซะ[center][img=52238]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][color=red]ของแบบนี้มันอยู่ที่ลีลาและจังหวะ[img=52239]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]เรื่องความเท่ ยังไงก็กินขาดเห็นๆ[/color][/center][p]เพราะอย่าลืมว่าอาชีพ [color=red]Warrior[/color] จะเก่งเมื่อช่วงเลเวลสูงๆ ไปแล้วเท่านั้น การเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่ออนาคตที่สดใสนั้นไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยจริงไหมครับพี่น้องหน้าใสหัวใจ Warrior