[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center][color=blue][b]MARIO PARTY DS[/b][/color][b]ผู้จัดจำหน่าย:[/b] [color=orange]Nintendo[/color][b]ผู้พัฒนา:[/b] [color=orange]Hudson Soft[/color][b]จำนวนผู้เล่น:[/b] [color=orange]1-4 คน[/color][b]ESRB:[/b] [color=orange]ทุกเพศทุกวัย[/color][color=blue][b]เกมปาตี้ฉบับกระเป๋า[/b][/color][color=red][b]A. FITCH:[/b][/color] ขณะที่มันอาจเป็นเกมที่ 10 (ใน 8 ปีนี้) ในซีรีส์เกมปาร์ตี้ของนินเทนโดที่มีมานานแล้ว Mario Party DS มีนวัตกรรมแปลกใหม่กว่าที่คุณคิด จากครั้งแรกที่เป็นเวอร์ชั่นบนเครื่อง GBA เมื่อปี 2548 ในชื่อ Mario Pary Advance ซึ่งเป็นเกมในตระกูลนี้ที่ไม่มีระบบเล่น 4 คนพร้อมกัน[p]โดยรวมแล้วการเปลี่ยนแปลงมาลงในเครื่อง DS นั้นค่อนข้างจะประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้อยู่แล้ว คุณจะได้ทอยลูกเต๋า เดินทางไปรอบๆ สะสมดาว และเล่นมินิเกมต่างๆ ซึ่งเป็นข้อดีของเครื่องพกพาอย่าง DS ที่มีสไตลัสและไมค์ไว้รองรับการเล่นเกมแบบนี้ได้อย่างเหมาะสม เกมนี้มีมินิเกมมากกว่า 60 รายการ คุณจึงสามารถพบกับความหลากหลายในเกมนี้ได้ แต่มินิเกมบางเกมจะให้คุณเล่นซ้ำอยู่ 2-3 รอบต่อหนึ่งเกม ซึ่งจะทำให้คุณเบื่อและหมดสนุกไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน[p]เกมนี้ก็เหมือนกับ Mario Party อื่น มันเป็นเกมที่ให้ความสนุกสนาน แต่เล่นไปก็เกิดความเซ็งได้จากความซ้ำซากของเกม ซึ่งไม่อาจเทียบได้กับเกมที่สร้างสรรค์อย่าง WarioWare ที่ได้ตำแหน่งราชาตัวจริงของเกมปาตี้ประจำนินเทนโดไปแล้วครับ[color=red][b]BROOKS:[/b][/color] ผมชอบเปิดเพลงเสียงดัง เนื้อสเต็กสุกปานกลาง และตอนนี้ผมก็ชอบ Mario Party บนเครื่อง DS ทำไมนะเหรอ ก็การแบ่งจอของมันทำให้ผู้เล่นไม่ยุ่งยาก เนื่องจากผู้เล่นแต่ละคนมีหน้าจอของตัวเอง แถมด้วยระบบที่น่าชื่นชมอย่างการใช้เกมตลับเดียวแชร์ให้ผู้เล่น 4 คนที่สมบูรณ์แบบด้วยระยะเวลาการโหลดที่น้อยมาก ขณะที่ Mario Party DS ประสบความสำเร็จในเรื่องเหล่านี้ แต่ข้อด้อยก็มี อย่างที่พี่ Fitch ได้ชี้ประเด็นไว้ ในเรื่องของความซ้ำซากในมินิเกม โดยเฉพาะในเกมสั้นๆ (เช่น การที่คุณจะต้องทอยลูกเต๋าถึง 10 ครั้ง) โอ้! อีกอย่าง สำหรับเกมที่ต้องใช้โชคช่วยคุณพี่ Shoe ต้องมีเล่นตุกติกติดสินบนอะไรไว้กับพวกปีศาจแน่ๆ เลย เพราะว่าเขาไม่เคยแพ้เลยนะเนี่ย[color=red][b]SHOE:[/b][/color] จอด้านบนดีสำหรับไว้ดูแผนที่ และภาพด่านต่างๆ ที่ขยายได้ใหญ่ขึ้น ส่วนมินิเกมต่างๆ เดี๋ยวนี้ก็สามารถเข้าไปเล่นได้อย่างรวดเร็วขึ้นและง่ายขึ้นด้วย (เพราะผู้เล่นสามารถอ่านวิธีการเล่น และทิปต่างๆ ได้ในเครื่อง DS ของตนเองและใช้เวลาอ่านได้ตามต้องการ อีกทั้งเกมนี้ยังเด่นในเรื่องการสาธิตการเล่นก่อนการเล่นจริง) แต่ผมก็มีคำถามเช่นเดียวกับ Mario Party 8 ในเครื่อง Wii ว่าทำไมถึงใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมานี้เพียงบางส่วนเท่านั้น ครึ่งหนึ่งของการเล่นไม่มีการใช้จอสัมผัสหรือไมโครโฟนเลย ซึ่งทำให้พวกเราไม่หลงใหลในเกมนี้เหมือนกับมินิเกมในยุคของเครื่อง Nintendo 64 เลยครับ[b]ข้อดี:[/b] มินิเกมส่วนใหญ่สนุก[b]ข้อด้อย:[/b] มินิเกมที่ต้องใช้ดวง บางเกมให้เล่นซ้ำบ่อยเกิน[b]โหมดเนื้อเรื่อง:[/b] ท่าจะผ่านยาก![color=blue][b]การให้คะแนน (เต็ม 10)[/b][/color][color=red][b]A. FITCH[/b][/color] 6.5 พอใช้[color=red][b]BROOKS[/b][/color] 6.5 พอใช้[color=red][b]SHOE[/b][/color] 6.5 พอใช้[center][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][/center]