แนะวิธีการเล่นเกมการ์ดสุดมันส์ Yu-Gi-Oh!GX:Spirit Caller [Part 2]

แชร์เรื่องนี้:
แนะวิธีการเล่นเกมการ์ดสุดมันส์ Yu-Gi-Oh!GX:Spirit Caller [Part 2]
[b]ประเภทของการ์ดเวทมนตร์ [/b][p]โดยปกติแล้วการ์ดเวทมนตร์นั้นจะสามารถเรียกใช้ได้เฉพาะใน Main Phase เท่านั้นครับ แต่ก็ยกเว้นการ์ดเวทมนตร์บางประเภทอย่าง Quick-Play ที่สามารถใช้ได้แม้แต่ใน Battle Phase ด้วยความสามารถของการ์ดเวทมนตร์จะช่วยแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้ด้วยผลของความสามารถที่แตกต่างกันออกไป เช่น ทำลายการ์ดมอนสเตอร์บนสนาม หรือการ์ดเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการ์ดมอนสเตอร์แต่ละใบได้ ดังนั้นการอดใจเก็บการ์ดเวทมนตร์ไว้บนมือจนกว่าจะเจอโอกาสที่เหมาะสมกับการใช้ที่สุดจึงเปรียบเสมือนกุญแจที่จะนำไปสู่ชัยชนะได้นั่นเองครับ มาลองดูประเภทของการ์ดเวทมนตร์กันนะฮะ• [b]Normal Spell Card (เวทมนตร์ปกติ) [/b] คือ การ์ดเวทมนตร์ที่ใช้ความสามารถได้เพียงครั้งเดียว เรียกใช้ได้ด้วยการวางการ์ดบนสนามเพื่อ Activate และหลังจากใช้ความสามารถไปแล้ว การ์ดก็จะถูกทำลายและส่งลงในสุสานในทันที• [b]Ritual Spell Card (เวทมนตร์บูชายัญ) [/b]คือ การ์ดเวทมนตร์แบบพิเศษที่ใช้ในการบูชายัญ เพื่อเรียกการ์ดมอนสเตอร์บูชายัญลงในสนาม หลังจากใช้ความสามารถไปแล้ว การ์ดก็จะถูกทำลายและส่งลงในสุสานในทันทีเช่นกัน•[b]Continuous Spell Card (เวทมนตร์ต่อเนื่อง[/b]) คือ การ์ดเวทมนตร์ที่ส่งผลของความสามารถแบบต่อเนื่องตราบเท่าที่การ์ดเวทมนตร์ใบดังกล่าวยังคง Face-up อยู่ในบนสนาม และความสามารถจะหมดไปเมื่อถูกนำออกจากสนาม•[b]Equip Spell Card (เวทมนตร์สวมใส่)[/b] คือ การ์ดเวทมนตร์ที่มีผลต่อการ์ดมอนสเตอร์เพียงใบเดียวในสนาม สามารถเลือกที่จะใช้ได้กับทั้งฝั่งของผู้เล่นเองหรือฝ่ายตรงข้ามตามแต่เงื่อนไขของการ์ดเวทมนตร์สวมใส่แต่ละใบ และจะยังคง Activate อยู่ในสนาม การ์ดเวทมนตร์สวมใส่จะถูกทำลายด้วยเมื่อการ์ดมอนสเตอร์ดังกล่าวถูกทำลายระหว่างการ Duel หรือการ์ดมอนสเตอร์ถูกพลิกกลับสู่สถานะ Face-down• [b]Field Spell Card (เวทมนตร์สนาม) [/b]คือ การ์ดเวทมนตร์สนามจะถูกวางลงบน Field Card Zone และจะคงอยู่ต่อไปหลังจากการเรียกใช้ความสามารถ โดยการ์ดเวทมนตร์สนามนั้นจะเรียกใช้ได้เพียงครั้งละ 1 ใบต่อผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย และจะถูกทำลายเมื่อการ์ดเวทมนตร์สนามใบใหม่ถูกเรียกใช้โดยทันที การ์ดเวทมนตร์สนามสามารถ Set ได้เช่นกัน แต่ก็จะไม่ส่งผลของความสามารถจนกว่าจะอยู่ในสถานะ Face-up เท่านั้น• [b]Quick-Play Spell Card (เวทมนตร์ฉับพลัน) [/b] คือ การ์ดเวทมนตร์ฉับพลันเป็นการ์ดที่สามารถเรียกใช้ความสามารถได้ทันทีในทุก Phase ของผู้เล่น และยังใช้ได้แม้กระทั่งในเทิร์นของผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามด้วยเช่นกัน โดยการวางการ์ดเวทมนตร์ในสนามแบบ Face-down แต่ก็จะไม่สามารถเรียกใช้ได้ในเทิร์นแรกที่คว่ำการ์ดไว้นะครับ [b]ประเภทของการ์ดกับดัก [/b][p]การ์ดกับดักคือการ์ดที่จะสามารถช่วยแก้สถานการณ์ต่างๆ ด้วยผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปคล้ายๆ กับการ์ดเวทมนตร์ สิ่งที่แตกต่างจากการ์ดเวทมนตร์ก็คือ การ์ดกับดักสามารถที่จะเรียกใช้ความสามารถได้ในเทิร์นของผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้เสมอ การ์ดเวทมนตร์ส่วนใหญ่จะส่งผลช่วยในการโจมตี แต่การ์ดกับดักจะคอยสร้างความแปลกใจให้กับผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามด้วยการก่อกวนการโจมตีและแผนการเล่นของเขาครับ แต่บางครั้งการใช้การ์ดกับดักก็สร้างความวุ่นวายใช่เล่นนะ เพราะต้องรอการอาศัยจังหวะจากผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก่อนกว่าจะเรียกใช้ความสามารถได้ฮะ ประเภทของการ์ดกับดักแบ่งเป็น 3 ชนิดครับ• [b]Normal Trap Card (กับดักปกติ) [/b] การ์ดกับดักจำเป็นที่จะต้อง Set ลงในสนามก่อนการใช้งานเสมอนะครับ และจะยังไม่สามารถใช้ได้ในเทิร์นที่ได้ทำการ Set การ์ดกับดักไว้ แต่เมื่อผ่านเทิร์นไปแล้วก็จะสามารถใช้ได้ทุกเวลาเลยครับ การ์ดกับดักปกติใช้ความสามารถได้เพียงครั้งเดียว และหลังจากใช้ความสามารถไปแล้ว การ์ดก็จะถูกทำลายและส่งลงในสุสานในทันที•[b]Continuous Trap Card (กับดักต่อเนื่อง)[/b] เช่นเดียวกับการ์ดเวทมนตร์ต่อเนื่องครับ การ์ดกับดักจะส่งผลของความสามารถแบบต่อเนื่องตราบเท่าที่การ์ดกับดักใบดังกล่าวยังคง Face-up อยู่ในบนสนาม และความสามารถจะหมดไปเมื่อถูกนำออกจากสนาม การ์ดกับดักแบบต่อเนื่องมักจะมีเงื่อนไขในการใช้งานคล้ายๆ กับการ์ดมอนสเตอร์แบบมีความสามารถชนิด Ignition Effect หรือ Trigger Effect ฮะ• [b]Counter Trap Card (กับดักสวนกลับ) [/b]การ์ดกับดักชนิดนี้จะถูก Activate เมื่อการ์ดใบอื่นๆ ของผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้ถูกใช้ความสามารถครับ เช่น คอยทำหน้าที่ในการยกเลิกความสามารถของการ์ดใบดังอื่น เป็นต้น และมักจะใช้ได้ดีกับการสวนกลับของการ Activate พวกการ์ดเวทมนตร์หรือกับดักของผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามครับ[b]3. Limited Card [/b][p]นอกจากการจัดชุดการ์ดหลักที่ประกอบไปด้วยการ์ดมอนสเตอร์ การ์ดเวทมนตร์ และการ์ดกับดัก สำหรับการเตรียมตัวจะไป Duel กับเพื่อนๆ ท่านอื่นแล้วนั้น ยังคงมีเงื่อนไขสำคัญนอกเหนือจากการที่ห้ามใส่การ์ดแบบเดียวกันเกินกว่า 3 ใบลงในชุดการ์ดหลักด้วยนะครับ นั่นก็คือ การจำกัดจำนวนการ์ดแบบพิเศษในชุดการ์ดหลัก ที่เกิดจากการแบ่งชนิดการ์ดขึ้นมาใหม่จากกฎการเล่นปกติครับ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดดังนี้ฮะ• [b]Limited Card[/b] การ์ดที่ถูกจำกัดว่าห้ามใส่การ์ดใบเดียวกันเกินกว่า 1 ใบในชุดการ์ดหลัก• [b]Semi-Limited Card [/b]การ์ดที่ถูกจำกัดว่าห้ามใส่การ์ดใบเดียวกันเกินกว่า 2 ใบในชุดการ์ดหลัก•[b]Forbidden Card [/b]การ์ดที่ถูกห้ามใส่ลงในชุดการ์ดหลักเลยแม้แต่ใบเดียว[b]4. Starting Duel [/b][p]เอาล่ะครับ! ได้เวลาเริ่มต้นการ Duel กันแล้ว โดยปกติก่อนเข้าสู่การ Duel นั้นจำเป็นที่จะต้องมีการเล่น Rock-Scissor-Paper กันก่อน โดยผู้ชนะจะมีสิทธิ์เลือกก่อนว่าจะเป็นผู้เริ่มเล่นคนแรก (First to Go) หรือจะเป็นผู้เริ่มเล่นคนที่สอง (Second to Go) หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่การ Duel ของจริงกันเลย ซึ่งผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายก็จะมีค่าพลังชีวิต (LP) อยู่คนละ 8,000 Points และผู้เริ่มเล่นก่อนจะไม่สามารถเข้า Battle Phase ได้นะครับ คราวนี้ลองมาดูขั้นตอนการเล่นแบบพื้นฐานกันว่าปกติแล้วต้องทำอะไรกันบ้างในแต่ละเทิร์น [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][b]Draw Phase[/b] เริ่มต้น Phase ที่ 1 ของผู้เล่นแต่ละคนด้วย Draw Phase ก่อนเสมอฮะ โดยให้ทำการหยิบการ์ด 1 ใบจากการ์ดใบบนสุดของชุดการ์ดหลักบน Deck Zone เพื่อนๆ สามารถที่จะกดปุ่ม R เพื่อหยิบการ์ดทันที หรือไปที่กองการ์ดแล้วกดปุ่ม A ก็ได้เช่นกันครับ และในขั้นตอนนี้ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็สามารถที่จะ Activate พวกการ์ดกับดัก หรือการ์ดเวทมนตร์ฉับพลันได้นะ อ้อ! ที่สำคัญครับ หากชุดการ์ดหลักไม่มีการ์ดเหลือพอจะให้หยิบอีกแล้ว ผู้เล่นฝ่ายนั้นก็จะแพ้ไปในทันทีเลยนะครับ[b]Standby Phase[/b] ใน Phase ที่ 2 นี้ ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายสามารถที่จะ Activate การ์ดกับดัก หรือการ์ดเวทมนตร์ฉับพลันได้เหมือนใน Draw Phase ครับ[b]Main Phase 1[/b] และแล้วก็เข้าสู่ Phase ที่ 3 แล้วฮะ ใน Phase นี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้การ์ดและการตัดสินใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ โดยเพื่อนๆ สามารถที่จะ Normal Summon, Set, หรือเปลี่ยนสถานะของการ์ดมอนสเตอร์ในสนามได้ตามใจชอบ รวมถึงการใช้การ์ดเวทมนตร์ และการ Set การเวทมนตร์หรือการ์ดกับดักลงในสนามฮะ ลองมาดูวิธีการเล่นแต่ละแบบใน Main Phase กันอย่างละเอียดดูนะ•[b]Normal Summon [/b]คือ การวางการ์ดมอนสเตอร์ลงในสนามแบบ Face-up เพื่ออยู่ในสภาพพร้อมโจมตีเพื่อเป็นการเข้าสู่ Battle Phase ต่อไป ด้วยการเลือกไปยังการ์ดที่ต้องการ แล้วเลือกคำสั่ง Summon ฮะ[img=43619]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]•[b] Set [/b]คือ การวางการ์ดมอนสเตอร์ลงในสนามแบบ Face-down ในแนวขวางเพื่ออยู่ในสภาพตั้งรับครับ โดยเป็นวิธีที่เหมาะกับการรักษาพลังชีวิตของผู้เล่นแบบพื้นฐานที่สุดครับ ด้วยการเลือกไปยังการ์ดที่ต้องการ แล้วเลือกคำสั่ง Set ฮะ• [b]Tribute Summon / Set [/b] คือ การวางการ์ดมอนสเตอร์ระดับสูงลงในสนามในแบบ Face-up หรือ Face-down ก็ได้ โดยการส่งการมอนสเตอร์ระดับสูงลงในสนามนั้นต้องอาศัยการสังเวย (Tribute) การ์ดมอนสเตอร์ตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดไว้ครับ นั่นคือ การลงการ์ดมอนสเตอร์ระดับ 5-6 ดาว ต้องใช้การสังเวยการ์ดมอนสเตอร์เป็นจำนวน 1 ใบ และการลงการ์ดมอนสเตอร์ตั้งแต่ 7 ดาวขึ้นไป ต้องใช้การสังเวยการ์ดมอนสเตอร์เป็นจำนวน 2 ใบครับ ให้เลือกไปยังการ์ดระดับสูงที่ต้องการ แล้วเลือกคำสั่ง Summon หรือ Set ฮะ จากนั้นเกมจะให้เลือกการ์ดมอนสเตอร์ในสนามตามจำนวนที่ต้องใช้ในการสังเวยจึงจะสามารถลงการ์ดได้ครับ•[b]Flip Summon[/b] คือ การพลิกการ์ดมอนสเตอร์ที่อยู่ในสถานะ Face-down บนสนามฝ่ายเรา ให้กลับมาอยู่ในสภาพ Face-up เพื่อเตรียมพร้อมทำการโจมตีครับ โดยหากการ์ดที่ทำการ Flip Summon นั้นเป็นการ์ดมอนสเตอร์แบบมีความสามารถ Flip Effect ก็จะสามารถใช้ความสามารถพิเศษได้ในทันทีครับ• [b]Special Summon [/b]คือ การลงการ์ดมอนสเตอร์ลงในสนามด้วยความสามารถของการ์ดเวทมนตร์ การ์ดกับดัก หรือแม้แต่การ์ดมอนสเตอร์แบบมีความสามารถพิเศษ และสามารถเลือกที่จะลงในแบบ Face-up หรือ Face-down ก็ได้หากไม่ได้มีการกำหนดเงื่อนไขไว้ในคำอธิบายของการ์ดที่ช่วยในการ Special Summon ลงมาในสนามฮะ• [b]Change Battle Position[/b] คือ การเปลี่ยนสภาพการโจมตีหรือป้องกันของการ์ดมอนสเตอร์ที่ Face-up อยู่บนสนามนั่นเองครับ ซึ่งสามารถที่จะเลือกเปลี่ยนได้เพียงครั้งเดียวต่อการ์ดมอนสเตอร์ 1 ใบในสนาม แต่จะไม่สามารถเปลี่ยนสภาพการ์ดการโจมตีหรือป้องกันของการ์ดมอนสเตอร์ที่เพิ่งจะส่งลงมาบนสนามในเทิร์นนั้นได้นะ• [b]Active or Set Spell Card[/b] คือ การเลือกใช้การ์ดเวทมนตร์จากบนมือ หรือจากการ์ดที่ Set อยู่ในสนามเพื่อเรียกใช้ความสามารถของการ์ดเวทมนตร์ใบนั้นๆ โดยไม่จำกัดจำนวนการ์ดที่ใช้ และยังสามารถ Set การ์ดเวทมนตร์ลงในสนามเพิ่มเติมได้อีกด้วยครับ ยกเว้นจำนวนการ์ดใน Spell & Trap Zone มีจำนวนครบ 5 ใบแล้ว ก็จะไม่สามารถ Active หรือ Set การ์ดเวทมนตร์ลงไปได้อีกครับ[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]• [b]Active or Set Trap Card [/b]คือ การเลือกใช้การ์ดกับดักจากการ์ดที่ Set อยู่ในสนามเพื่อเรียกใช้ความสามารถของการ์ดกับดักใบนั้นๆ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งที่ใช้ และยังสามารถ Set การ์ดกับดักลงในสนามเพิ่มเติมได้อีกด้วยนะ ยกเว้นจำนวนการ์ดใน Spell & Trap Zone มีจำนวนครบ 5 ใบแล้ว ก็จะไม่สามารถ Set การ์ดกับดักลงไปได้อีกฮะ [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][b]Battle Phase[/b] ความร้อนแรงที่สุดในการ Duel ก็ต้องตอนนี้เลยครับ การ์ดมอนสเตอร์ทุกใบที่ถูก Summon ลงมาในสนามหรืออยู่ในสถานะพร้อมโจมตี จะสามารถเลือกใช้ในการโจมตีมอนสเตอร์ของผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้ 1 ครั้งต่อเทิร์น สำหรับการ์ดที่ Set เอาไว้หรืออยู่ในสถานะป้องกันในสนามก็จะไม่สามารถโจมตีได้ในเทิร์นดังกล่าว ลักษณะการโจมตีใน Battle Phase และการคำนวณความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถแบ่งได้ดังนี้ คือ• [b]Attack Directly[/b] คือ การที่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามไม่มีการ์ดมอนสเตอร์เลยในสนาม จะทำให้เขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากเราได้ และพลังชีวิตจะถูกลดลงตามค่าพลังโจมตีของการ์ดมอนสเตอร์ที่โจมตีใส่โดยตรงนั้นเอง• [b]Attack vs. Defend [/b]คือ การที่ผู้เล่นเลือกโจมตีใส่การ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้ามที่วางป้องกันอยู่ในสนาม และหากการ์ดมอนสเตอร์ของฝ่ายตรงข้ามวาง Set เอาไว้และถูกเราโจมตีใส่ก็จะต้องหงายการ์ดเป็น Face-up แต่ยังคงอยู่ในลักษณะป้องการเช่นเดิม เพื่อคำนวณความเสียหายครับโดยจะยังสามารถแบ่งลักษณะการโจมตีได้อีก 3 แบบ คือ[b]ATK > DEF [/b]หากการ์ดมอนสเตอร์ที่ใช้ในการโจมตีนั้นมีค่าพลังโจมตีสูงกว่าค่าพลังป้องกันของการ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้าม การ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายรับจะถูกทำลายและส่งไปยังสุสาน โดยที่ตัวผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามไม่ได้รับความเสียหายต่อพลังชีวิตแม้แต่น้อย[b] ATK = DEF [/b]หากการ์ดมอนสเตอร์ที่ใช้ในการโจมตีนั้นมีค่าพลังโจมตีเท่ากับค่าพลังป้องกันของการ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้าม การ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายรับจะไม่ถูกทำลายและยังคงวางอยู่บนสนามตามเดิม โดยที่ตัวผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามยังคงไม่ได้รับความเสียหายต่อพลังชีวิตแม้แต่น้อย[b]ATK < DEF [/b]หากการ์ดมอนสเตอร์ที่ใช้ในการโจมตีนั้นมีค่าพลังโจมตีน้อยกว่าค่าพลังป้องกันของการ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะไม่ได้รับความเสียหายต่อพลังชีวิต แต่ผู้โจมตีจะถูกลดพลังชีวิตเท่ากับ DEF (ผู้รับ) – ATK (ผู้โจมตี) และการ์ดมอนสเตอร์ของทั้ง 2 ฝ่ายจะยังคงอยู่ในสนามตามเดิม• [b]Attack vs. Attack[/b] คือ การที่ผู้เล่นเลือกโจมตีใส่การ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้ามที่วางพร้อมโจมตีอยู่ในสนาม โดยสามารถแบ่งลักษณะการโจมตีได้อีก 3 แบบ คือ[b]ATK > ATK [/b]หากการ์ดมอนสเตอร์ที่ใช้ในการโจมตีนั้นมีค่าพลังโจมตีมากกว่าค่าพลังโจมตีของการ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะได้รับความเสียหายต่อพลังชีวิต และจะถูกลดพลังชีวิตเท่ากับ ATK (ผู้โจมตี) – ATK (ผู้รับ) จากนั้นการ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายรับจะถูกทำลายและส่งไปยังสุสาน[b]ATK = ATK[/b] หากการ์ดมอนสเตอร์ที่ใช้ในการโจมตีนั้นมีค่าพลังโจมตีเท่ากับค่าพลังโจมตีของการ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้าม การ์ดมอนสเตอร์ของทั้ง 2 ใบจะถูกทำลายและส่งไปยังสุสาน โดยที่ตัวผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายก็จะไม่ได้รับความเสียหายต่อพลังชีวิตแม้แต่น้อย [b]ATK < ATK[/b] หากการ์ดมอนสเตอร์ที่ใช้ในการโจมตีนั้นมีค่าพลังโจมตีน้อยกว่าค่าพลังโจมตีของการ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้าม ผู้โจมตีจะได้รับความเสียหายต่อพลังชีวิต และจะถูกลดพลังชีวิตเท่ากับ ATK (ผู้รับ) – ATK (ผู้โจมตี) จากนั้นการ์ดมอนสเตอร์ของผู้โจมตีจะถูกทำลายและส่งไปยังสุสาน ในขณะที่การ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายรับจะไม่ถูกทำลายและยังคงวางอยู่บนสนามตามเดิม [b]Main Phase 2 [/b]มาถึง Phase ที่ 5 แล้วครับ ใน Phase นี้จะเหมือนกับใน Main Phase 1 เลยทีเดียวครับ โดยสามารถที่จะ Normal Summon, Set, หรือเปลี่ยนสถานะของการ์ดมอนสเตอร์ในสนามได้ตามใจชอบ (แต่ต้องยังไม่ได้กระทำไปแล้วในตอน Main Phase 1 เท่านั้นนะ) รวมถึงการใช้การ์ดเวทมนตร์ และการ Set การ์ดเวทมนตร์หรือการ์ดกับดักลงในสนาม หลังประเมินสถานการณ์หลังผ่าน Battle Phase มาแล้ว เพื่อเป็นการปูทางไปสู่เทิร์นถัดไปฮะ[b]End Phase [/b]คือ การประกาศจบเทิร์นของผู้เล่นเพื่อเปลี่ยนไปสู่เทิร์นของผู้เล่นอีกคนหนึ่งครับ และหากในมือของผู้เล่นมีการ์ดมากกว่า 6 ใบแล้วล่ะก็ จำเป็นที่จะต้องเลือกการ์ดส่วนเกินทิ้งลงไปในสุสานเพื่อให้เหลือการ์ดเพียง 6 ใบเท่านั้นนะครับ อ้อ! ใน End Phase นี้ก็ยังคงที่จะสามารถ Activate การ์ดกับดัก หรือการ์ดเวทมนตร์ฉับพลันได้เช่นกันครับ[b]5. Victory Condition [/b][p]การตัดสินแพ้ชนะในการ Duel ในแบบฉบับของ Yu-Gi-Oh! กับผู้เล่นแต่ละคนทั้งในเกมและการเล่นการ์ดจริงต่างก็มีเงื่อนไขที่เหมือนกันครับ ซึ่งสามารถที่จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบได้ดังนี้เลยครับผม[img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]•พลังชีวิต (LP) ของผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็น 0 ก่อน ฝ่ายที่พลังชีวิตหมดก่อนเป็นฝ่ายแพ้ครับ•ผู้เล่นที่การ์ดในชุดการ์ดหลักหมดก่อน ทำให้ไม่สามารถหยิบการ์ดได้ในตอนที่จะต้องหยิบการ์ดจากกองการ์ด เช่น Draw Phase ผู้เล่นคนนั้นเป็นฝ่ายแพ้ฮะ•ชนะผู้เล่นคนอื่นด้วยการใช้ความสามารถพิเศษของการ์ดระหว่างการ Duel เช่น การใช้การ์ดมอนสเตอร์แบบมีความสามารถพิเศษ เช่น Exodia the Forbidden One หรือการ์ดเวทมนตร์ เช่น Final Countdown ครับ[b]6. Wireless Duel / Nintendo WFC Duel [/b] [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img][p]มาถึงจุดสุดท้ายของคู่มือการ์ดเกม Yu-Gi-Oh! GX – Spirit Caller ฉบับนี้กันแล้วนะฮะ สำหรับเพื่อนๆ หรือชาว Duelist ที่เบื่อกับการ Duel กับบรรดาตัวละครในเกมกันแล้วล่ะก็ ในเกมภาค Spirit Caller นี้ยังสามารถที่จะ Wireless Duel กับ Duelist คนอื่นได้เช่นเคยครับ รวมถึงยังมีระบบใหม่อีกนั่นก็คือ Nintendo WFC Duel หรือการ Duel ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อที่จะประลองฝีมือกับเหล่า Duelist จากทั่วทุกมุมโลกนั่นเองครับ และยังคงมีการแลกเปลี่ยน Friend Code (FC) ที่ได้จาก Friend menu ให้กับเพื่อนๆ ได้อีกด้วยเพื่อที่จะสามารถ Duel กันได้เมื่อต้องการฮะ โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าสู่ระบบการ Duel ทั้งหมดนี้ได้ที่ Computer ในห้องพักของ Slifer Red Dorm เลยนะครับ
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ