-
หน้าแรก
-
PC CONSOLE GAME
- Step7 ค่า EXP และ Ability ของยูนิตทางการบ ใน Civilization IV
Step7 ค่า EXP และ Ability ของยูนิตทางการบ ใน Civilization IV
ในเกมนี้เมื่อยูนิตที่ได้ผ่านการรบจะได้รับค่าประสบการณ์ในรูปแบบของ EXP เมื่อได้รับ EXP ถึงกำหนดตัวละครเราจะพัฒนาขึ้น 1 ระดับและเราจะสามารถเพิ่มเติมความสามารถด้านต่างๆให้กับยูนิตของเราได้ตามที่ต้องการ [img]//img.online-station.net/image_content/2020/03/default-image.jpg[/img]จากรูปจะเห็นยูนิตในรูปเปล่งรัศมีแสง นั่นคือยูนิตที่ได้รับค่า EXP จนถึงระดับที่เลเวลอัพ จากนั้นหน้าจอคำสั่งบังคับยูนิตจะขึ้นไอคอนสำหรับการพัฒนาความสามารถให้กับยูนิตนั้นๆได้ ทุกๆครั้งที่เลเวลขึ้น 1 ระดับจะสามารถพัฒนาความสามารถได้ 1 อย่างอะไรก็ได้ ในรูป Swordman ของผมเดิมทีมีความสามารถแค่ +10% เมื่อโจมตีเมือง แต่ตอนนี้สามารถอัพความสามารถด้านอื่นๆให้เพิ่มเติมได้ โดยอันแรกจะเป็น +10% STR อันที่2จะเป็น +20% พลังป้องกันเมื่ออยู่ในป่าและป่าทึบ และอันสุดท้ายจะเป็น +20% เมื่อโจมตีเมือง โดยการจะเลือกอัพด้านไหนก็อยู่ที่สไตล์การเล่นแต่ละคนและสถานการณ์ในตอนนั้นจากตัวอย่างในรูปถ้าหากจะเอา Swordman เพื่อใช้ในการเข้าโจมตีเมืองคู่แข่งเป็นหลัก ความสามารถที่ผมควรจะมองแรกๆเลยก็คือ +20% เมื่อโจมตีเมืองเพราะเมื่อบวกกับของเก่าที่เป็นความสามารถติดตัวยูนิตนี้จะมีพลังโจมตีเพิ่มเมื่อเข้าตีเมืองถึง 30% ในขณะเดียวกันถ้าหากจะเอา Swordman ไว้ป้องกันอาณาเขตใกล้ๆก่อนที่จะถึงเมืองและบริเวณนั้นเป็นป่าแล้ว ความสามารถ +20% พลังป้องกันเมื่ออยู่ในป่าและป่าทึบจะช่วยได้มากเลย เพราะยูนิตทุกตัวที่ใช้คำสั่งป้องกัน (Fortify) ได้จะได้รับโบนัสจากการป้องกันทุก Turnๆ ละ 5% แต่รวมแล้วไม่เกิน 25%ดังนั้นถ้าหากผมตั้งรับยูนิตไว้จนได้รับโบนัสของ Fortify จนเต็ม 25% เมื่อรวมกับค่าป้องกันจากความสามารถที่เราอัพไปอีก 20% และจากค่าโบนัสป้องกันเมื่ออยู่ในพื้นที่ป่าอีก 50% (ภูมิประเทศจะส่งผลต่อค่าโบนัสของค่าป้องกันสำหรับยูนิตที่อยู่ในช่องนั้นๆ) รวมกันแล้ว Swordman ผมจะได้รับโบนัสจากค่าป้องกันทั้งหมดถึง 95% ถ้าหากผมตั้งรับอยู่ในป่าและมีใครเข้ามาโจมตี STR เดิมของ Swordman ผมเท่ากับ 6 เมื่อรวมกับโบนัสค่าป้องกันทั้งหมดแล้ว Swordman ตัวนี้จะมีค่าป้องกันสูงถึง 11.7 ซึ่งยูนิตในยุคเดียวกันนี่สู้ได้ค่อนข้างยากแน่ครับแต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันคือ Swordman ตัวนี้จะเก่งก็ต่อเมื่อใช้คำสั่งป้องกันและอยู่ในป่า ดังนั้นถ้าหากเอา Swordman ที่อัพความสามารถแบบนี้ไปตีเมืองก็จะไม่ได้รับโบนัสอะไรพิเศษเลย ในขณะเดียวกันความสามารถ +10% STR อาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่เน้นสายกลางๆ เพราะ +10% STR นี้มีผลไม่ว่าเราจะโจมตีหรือตั้งรับและไม่ว่าเราจะอยู่ในภูมิประเทศแบบใดก็ตามแต่ข้อเสียมันก็อย่างที่เห็นคือค่าโบนัสที่ได้รับไม่มากเป็นกอบเป็นกำเหมือนกับการอัพความสามารถแบบอื่นๆ โดยบทสรุปช่วงท้ายจะอธิบายถึงความสามารถทุกอย่างที่ได้รับจากการเลเวลอัพทั้งหมดครับ และเมื่อพูดถึงการเลเวลอัพแล้วคงต้องขอพูดถึง Ability กันซักนิด Ability ก็คือความสามารถที่ยูนิตนั้นๆมีไม่ว่าจะเป็นความสามารถที่ติดตัวมาแต่แรกหรือว่าเป็นความสามารถที่ได้จากการเลเวลอัพ ในที่นี้จะขอยก Ability ที่น่าสนใจมาอธิบายเพิ่มเติมกัน อันแรกก็คือ First Strike ซึ่ง First Strike คือความสามารถในการโจมตีทำความเสียหายก่อน ปกติแล้วการสู้รบการปกติทั่วไปจะเป็นการรบในลักษณะที่ถ้าหากค่า STR เท่ากัน(รวมโบนัสแล้ว) จะมีโอกาศที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าเกิดในกรณีที่ STR เท่ากันแล้วยูนิตที่มี First Strike จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะมีโอกาศจะโจมตีได้ก่อน ความสามารถที่น่าสนใจอีกอย่างนึงคือ Withdrawal Chance เป็นความสามารถที่ใช้ในการหนีออกจากต่อสู้ในกรณีที่ยูนิตนั้นกำลังจะแพ้โดยจะเป็น% ยิ่ง %มากก็ยิ่งมีโอกาศที่จะหนีออกจากการต่อสู้ได้มาก ความสามารถนี้มีข้อดีตรงที่ว่าหากยูนิตของเราสู้ไม่ได้แล้วเราจะไม่ต้องเสียยูนิตนั้นๆไป เพราะยูนิตนั้นจะออกมาจากการต่อสู้ได้ก่อนที่จะแพ้ แล้วเราสามารถใช้คำสั่ง heal เพื่อฟื้นฟูค่า STR ที่เสียไปได้จนเต็ม แต่ระหว่างนั้นก็ต้องมียูนิตอื่นค่อยช่วยเหลือด้วยความสามารถสุดท้ายที่จะแนะนำในบทนี้คือ Collateral Damage หรือความสามารถในการทำความเสียหายเป็นกลุ่ม ในเกมนี้เราสามารถเอายูนิตหลายๆตัวให้มาอยู่ช่องเดียวกันได้เพื่อเสริมความแข่งแกร่งที่ใช้บ่อยที่สุดก็คือการป้องกันในเมืองนั่นเอง ในกรณีที่มียูนิตใดโจมตีใส่ยูนิตอื่นๆในช่องที่มียูนิตหลายๆตัวอยู่รวมกัน ระบบจะทำการเลือกยูนิตที่แข็งแกร่งที่สุดในช่องนั้นให้มาเป็นคู่ต่อสู้ในขณะที่ยูนิตอื่นๆในช่องนั้นที่ไม่ได้ถูกเลือกจะไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นทั้งนั้น แต่ยูนิตที่มีความสามารถ Collateral Damage (เช่นเครื่องยิงลูกหินกับปืนใหญ่) จะสามารถทำความเสียหายให้กับศัตรูในช่องนั้นๆได้พร้อมกันทีเดียวหลายๆตัวซึ่งข้อดีก็คือจะเป็นประโยชน์มากๆในการเข้าโจมตีเมืองหรือในช่องอื่นๆที่มียูนิตในช่องนั้นหลายๆตัว เพราะความเสียหายแบบกระจายจะส่งผลให้ค่า STR ของกลุ่มยูนิตในช่องนั้นๆลดลง ทำให้เราสามารถเอายูนิตอื่นเข้าโจมตีได้อย่างง่ายดายมากขึ้น แต่ข้อเสียก็คือยูนิตที่ทำความเสียหายแบบ Collateral Damage จะไม่ค่อยแข็งแกร่งมากนัก ควรจะมียูนิตอื่นๆคอยช่วยเสริมกำลังและจัดการศัตรู เพราะถ้าเราไม่สามารถชนะการสู้รบในช่องยูนิตศัตรูที่อยู่เป็นกลุ่มได้แล้วยูนิตเหล่านั้นสามารถฟื้นฟูค่า STR ที่เสียไปกลับมาได้ทั้งหมด