สุขสันต์วันเพ็ญ เล่นกระทงกับไนท์หนุ่ม
“วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง....” เต็มตลิ่ง เต็มตลิ่ง ก็แหงล่ะ ไม่ให้เต็มได้ไง ฝนเล่นตกซะทุกวันขนาดนี้ เนื้อเพลงโดนจริงๆ เพลงนี้หนึ่งปีมีหนครับ ผ่านไปไม่กี่วัน กลิ่นเทศกาลยังไม่จางหาย ใช่แล้ว ผมกำลังพูดถึงเทศกาลลอยกระทงในวันเพ็ญเดือนสิบสอง ที่กี่ปีก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ภาพที่เห็นจนชินตา ผู้คนมากมายทุกเพศทุกวัย ถือกระทงไปยังแม่น้ำลำคลอง
น้องๆ ที่อ่านคอลัมน์อยู่ไปลอยกระทงที่ไหนกันบ้างเอ่ย คลองหลังหมู่บ้าน ที่โรงเรียน ที่มหาลัย หรือแม่น้ำฮวงโห จะที่ไหนก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่ดีครับ สำหรับประเพณีที่ดีงาม ควรค่าแก่การรักษาไว้ แต่อย่าได้มีพิเรนเชียว อดเป็นห่วงเล็กๆ ไม่ได้ เพราะเมื่อมองย้อนหลังกลับไป ประเพณีไทยเริ่มจะกลายพันธุ์ขึ้นเรื่อยๆ สงกรานต์นั่นก็ทีนึงแล้ว เข้าขั้นน่าเป็นห่วง ทั้งประเพณีรู้จักแต่สาดน้ำ กับไล่จับนมสาว คราวนี้ก็น่าจะมีเด็กจำนวนไม่น้อยที่รู้จักแต่กระทง ประทัด แล้วก็น้องต้นอ้อตัวเก็งนางนพมาศ โถ อนาถแท้
ให้ถามน้องๆ ที่เดินดุ่มๆ ถือกระทงไปลอยปีนี้สักร้อยคนว่า รู้จักประเพณีลอยกระทงแค่ไหน จะมีสักกี่คนที่ตอบได้ จะถึง 60 ไหม เด็กคนไหนตอบได้เอาไป 3 คะแนน ถ้าตอบไม่ได้ก็อ่านย่อหน้าต่อไปเถอะ อย่าดื้อ
วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน12 เขาว่าเป็นช่วงที่อากาศดี โปร่งสบาย เพราะเป็นช่วงที่สิ้นสุดฤดูฝน (สงสัยปีนี้จัดโปรโมชั่นพิเศษ ตกมันทั้งปี) ระดับแม่น้ำลำคลองทั่วทั้งประเทศขึ้นสูง เดิมที เทศกาลลอยกระทงเป็นพิธีทางศาสนาพราหมณ์ ซึ่งประชาชนต้องการแสดงความขอบคุณต่อพระแม่คงคา ดังนั้น เพื่อให้ท่านได้รับรู้ ประชาชนจึงพร้อมใจกันจุดธูปและเทียน พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน ก่อนจะปล่อยกระทงลงสู่แม่น้ำ ลำคลอง แม้กระทั่งบ่อน้ำเล็กๆ ปล่อยให้ไกลจนสุดลูกหูลูกตา เวลานี้ถ้ากระทงใครโฮมซิก ไม่ยอมพรากจากฝั่ง เป็นอะไรที่น่าอับอายมาก เดี๋ยวนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการติดมอเตอร์เล็กๆ ไว้ใต้กระทง
ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ เป็นที่เชื่อกันของผู้คนว่า กระทงที่ลอยจะพานำสิ่งบาป และสิ่งชั่วร้ายทั้งมวลออกไปจากผืนน้ำ การตั้งจิตอธิษฐาน ผู้คนในสมัยก่อนเชื่อว่าจะส่งผลไปจนถึงปีใหม่ที่จะมาถึงในไม่ช้า แน่นอนว่าช่วงเวลานี้เป็นชั่วโมงแห่งความรื่นเริง เนื่องจากได้ลอยสิ่งโศกเศร้าออกไปแล้ว
เหตุที่เทศกาลลอยกระทงเริ่มในช่วงเย็น นั่นเพราะเราต้องการโลเกชั่นพระจันทร์เต็มดวง ไม่ใช่จะแปลงร่างเป็นลิงยักษ์ แต่เพราะไหนๆ ก็เป็นคืนวันเพ็ญ เพิ่มความขลังและสวยงาม นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดมิได้ การประกวดของสวยๆ งามๆ ก็เช่นกัน เช่น ประกวดกระทง แต่ที่ดึงเรทติ้งจริงๆ ก็ต้องนี่ “ประกวดนางนพมาศ” เป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้
“นางนพมาศ” สตรีงามในตำนานกรุงสุโขทัย คาดว่าแต่งงานแล้ว เพราะไม่งั้นคงจะเป็น “นางสาวนพมาศ” เอากะมัน นี่ใช่เวลาเล่นมุกเหรอ ตามหลักฐานกล่าวไว้ นางนพมาศเป็นสนมเอกของพระเจ้ากรุงสุโขทัย พระนามว่า “ลิไท” ว่ากันว่า “นางนพมาศ” เป็นเลดี้เฟิร์สคนแรกที่ทำกระทงสวยงาม เพื่อการลอยล่องในโอกาสนี้โดยเฉพาะ มาถึงปัจจุบัน การประกวดสาวงามถือว่าเป็นสีสันที่ขาดไม่ได้จริงๆ แต่คาดว่านานเข้า อนาคตอาจมีพัฒนาถึงขั้นส่งกระเทยประกวด เพราะเดี๋ยวนี้กระเทยไทยอินเตอร์ และผลิดอกขึ้นทุกวัน อันตรายมาก ป้องกันได้โดยจับลอยกระเทยเสียแต่เนิ่นๆ
จุดพลุ เล่นประทัด นี่ก็ขาดไม่ได้ เอฟเฟคประจำทุกๆ เทศกาล เน้นความหนวกหูและเจ็บตัวเป็นหลัก อันนี้ไม่รู้ที่มา ว่าใครเป็นคนแรกที่ริเริ่มเล่นในงาน แต่เดาจุดมุ่งหมายว่าน่าจะช่วยเพิ่มแสง สี เสียง ให้น่าตื่นตาตื่นใจ ให้สมกับที่ 1 ปีจะมีหนึ่งครั้ง ซึ่งประทัดแต่ละชนิดก็จะมีเสียงและเอฟเฟคแตกต่างกันไป วี๊ดบึ้ม โอ่ง ไข่นก ปัจจุบันบางชนิดพัฒนาถึงขั้นมีเอฟเฟคระเบิดเป็นนิ้วเด็กแล้ว ยิ่งเพิ่มตื่นตาตื่นใจ และตื่นตูมเข้าไปอีก
พูดถึงพวกของเล่นดินปืนแล้วเปรี้ยวปาก ผมเองก็ก่อวีรกรรมไว้ในช่วงเทศกาลมิใช่น้อย ย้อนไปในวัยเด็ก เอาที่จำแม่นๆ ผมเคยก่อเหตุวินาศกรรมแอ่งน้ำอยู่ครั้ง ตอนนั้น 13 ขวบกำลังซน ในหมู่บ้านผมจะมีลานว่างรกๆ อยู่ (ตอนนี้กลายเป็นหมู่บ้านกลางเมืองแล้ว) เด็กระแวกนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ด้านหนึ่งของลานจะเป็นที่เก็บของเก่า ใช้เล่นซ่อนแอบ กลางลานจะเป็นที่ว่างสำหรับเตะบอล ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ยาวประมาณ 5 เมตร ตรงนี้แหละครับที่เป็นจุดลอยกระทงทุกปี ยิ่งปีไหนฝนตกเยอะ น้ำยิ่งสูง แอ่งก็ยิ่งกว้าง
จำได้ว่ากระทงสมัยก่อน ประมาณอันละ 10-15 บาท ทำจากวัสดุมลพิษ โฟม กระดาษ ปักธูปเทียนเรียบร้อย มีหลากสีให้เลือกเหมือนหนังขบวนการ ผมจองสีแดง ซื้อสีแดง ใครซื้อสีชมพูโดนล้อว่าเป็นตุ๊ด ซื้อกระทงแล้วกลับเข้าสู่แผนการ ปฏิบัติการเริ่มต้นเวลา 18 นาฬิกา ท้องฟ้าใกล้มืดครึ้มสนิท ด.ช ไนท์เด็ก เอากระจับ 1 ตัว ไข่อีก 2 ใบ พันสก็อตเทปรวมกัน ปล่อยปลายชนวนกระจับยื่นออกมา ตัดปลายธูปออกไปครึ่งนึง เอาสก็อตเทปพันปลายชนวนกับธูปเข้าด้วยกัน จากนั้นพอจุดธูป จุดเทียน ก็เป็นอันสิ้นเสร็จระเบิดเวลา กะว่าปลายธูปตอดมาถึงเมื่อไหร่ ก็จ๊ะทิงจากันเมื่อนั้น นอกจากของตัวเอง ผมยังทำให้เพื่อนอีก 3 ตัว ชั่วทั้งแก๊งค์ ตัดปลายธูปให้ต่าง 3 ระดับ กะว่าบึ้มสวย เป็นสเต็ป ประทับใจจอร์จกะซาร่า
จุดมุ่งหมายตอนนั้นไม่ได้อยากแกล้งใครหรอก แค่อยากตอบสนองความสะใจส่วนบุคคลเท่านั้น ถ้าไอ้ “น้องมิ้ง” เด็กไฮโซ ฐานะดี มีชาติตระกูล จอมขี้อวดประจำหมู่บ้าน มันไม่เอากระทงประกวดเมืองคานส์ของมันมาร่วมแจมด้วย แบบว่าอันใหญ่มั่กๆ ใหญ่กว่ากระทงระเบิดของผม 3 เท่าได้มั้ง ตกแต่งแบบกรีกโรมัน 3 ชั้น มีเสาเหวอะไรไม่รู้ยื่นออกมา เกะกะลูกตาเป็นบ้า สวยตรงไหน มันบอกว่าประกวดได้รางวัลชมเชย ก็เลยเอามาลอยเชยชมในแอ่งน้ำเล็กๆ นี่ซะหน่อย เป็นไปตามคาด ดึงสายตาเด็กผู้หญิงได้เกรียวเลย
หลังจากเห็นของใหญ่ ด.ช ไนท์เด็กเปลี่ยนคอนเส็บทันที หาธูปมาใหม่อีกอัน ตัดเป็น 4 ส่วนเล็กๆ เพิ่มกระจับรอบกระทง 4 จุด เอาธูปเสียบ แล้วตั้งเวลาพร้อมกัน เพื่อนมันก็ทำตามอีก 3 ตัว รวมเป็น 4 ระเบิดกระทงพลีชีพพร้อมทำงาน เป้าหมายอยู่ที่รางวัลชมเชย ผู้อ่านขอรับ ถ้าใครชอบดูหนังสงคราม แล้วมาได้เห็นช็อตจมกระทงไอ้น้องมิ๊ง รับรองว่าคุณจะลืมหนังสงครามทั้งปวงที่ดูมาเลย สวยและแม่นมากกก ตูมทุกๆ 5 วินาที ไม่เสียแรงที่คอยวักน้ำ บางช็อตเป็นระเบิดซ้อน บึ้ม บึ้ม... ถึงกระทงจะแหว่ง แต่ก็คุ้มที่แยกส่วนกระทงอลังการงานสร้างของเด็กมีอันจะกินได้ พอถึงตูมที่ 5 ไฟลุกด้วยล่ะแก แล้วยังมีบึ้มต่ออีกนะ ภาพประกายไฟอย่างสวย ถึงช็อตนี้ไอ้น้องมิ๊งเข่าทรุด ความรู้สึกเหมือนเห็นบ้านตัวเองไฟไหม้ ร้องไห้โวยวายเป็นภาษาต่างดาวใหญ่
“อื๊อออ!! แอ๊งอู ไอ๊ไอ๊ อะองอู!! ไอ้อัด!! ไอ้เอี้ย!! อื๊อออ!!! แอ๊กกกงงง!!!”
น่าจะแปลว่า “สุดยอด...!! เจ๋ง จ๊าบ สวยจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ”
คือ ยังไงก็ต้องบอกเด็กๆ ที่อ่านอยู่นะครับ ว่านี่ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี อย่าเลียนแบบ มันสะใจเวลาเล่นก็จริง แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่สนุกเลย ผมโดนแม่ฟาดไป 3 เซ็ท เซ็ทละ 10 ที ห้ามออกไปเล่นข้างนอก 1 เดือน ไอ้น้องมิ๊งซื้อเพลย์สเตชั่นมาก็ไม่ให้เล่น (แต่แก๊งค์ผมที่เหลือ 3 คนเสื...ก ได้เล่น อะไรวะเนี่ย) โกรธกันเป็นชาติ จนเดี๋ยวนี้มันก็ยังโกรธอยู่ นอกนั้นไม่พอ ผมยังโดนผู้ใหญ่แถวนั้นรังเกียจอีก หาว่าเป็นเด็กนิสัยไม่ดี เห็นมั้ยครับ อะไรที่ทำด้วยความคึกคะนองมากกว่าเหตุผล ไม่เคยให้อะไรดีๆ ในระยะยาวเลย ถึงแม้จะไม่มีใครตายก็เถอะ
จะว่าไป อุบัติเหตุกับช่วงเวลาเทศกาล ก็เป็นการจับคู่แสดงผลที่สม่ำเสมอไม่เคยขาด เป็นของคู่ชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งตัวแสบของเคสนี้ ผมยกให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างไม่มีข้อสงสัย ประเภทดื่มแล้วขาดสติ จุดกระทง ลอยประทัด ประมาณนั้น ลอยกระทงปีนี้ก็ต้องมีแน่ๆ ล่ะครับ พวกชกต่อยกัน จุดประทัดแบบพิเรนๆ อุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์ มอมแล้วหลอกข่มขืน โอย นี่หรือเมืองพุทธ
ไม่ใช่ว่าห้ามดื่ม แต่ดื่มแล้วทำตัวน่าเอาประทัดยัดปากแบบนี้ อย่าดื่มเลยดีกว่า มันเสื่อม ต่างชาติมาเห็นมันน่าอาย คนไทยด้วยกันเห็นยังอายเลย ถ้าให้สิ่งไม่ดีลอยไปกับกระทง ผมคงอยากให้พ่วงของมึนเมาพวกนี้ลอยไปให้ไกลๆ เลยล่ะ
บ่นพอสมควร มาถึงพระเอกของเทศกาลกันบ้างดีกว่า แน่นอนว่าก็ “กระทง” นี่แหละ ไม่พูดถึงก็ไม่ได้ ไม่ว่าจะซื้อหรือทำเอง ก็อยากเน้นให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลักนะครับ เช่น หยวกกล้วย กาบมะพร้าว ใบตอง เปลือกแตงโม เพื่อรักษาธรรมชาติ ผมเองก็เคยทำกระทงเองอยู่ครั้งนึง วัสดุธรรมชาตินี่แหละ และเป็นครั้งที่จำจนวันตาย ในชั่วโมงประดิษฐ์ชั้น ป.6/4 ครูให้ทำกระทงส่งกันคนละอัน พอจบคาบก็จะให้ไปลอยเล่นที่สระน้ำของ ร.ร ไนท์เด็กทำตามที่ครูสอนทุกอย่าง เริ่มจากตัดหยวกกล้วยเป็นวง สูง 2 นิ้ว แล้วพับใบตองมาติดรอบๆ หยวก แล้วที่เหลือก็ตกแต่งตามความพอใจ ผมทำเสร็จเร็วมาก เพราะให้แม่พับใบตองมาจากบ้าน แล้วทีนี้กว่าจะหมดชั่วโมงยังมีเวลาอีกเยอะ ว่าแล้วไนท์เด็กก็เริ่มปฏิบัติการก่อกวน ไล่แกล้งเพื่อนไปทั่ว โดยเฉพาะการพับใบตองเป็นรูปพิเรนๆ ติดให้ แล้วบอกว่าสวยนี่เป็นอะไรที่สนุกมาก พอเพื่อนมันดึงออกเราก็ติดให้อีก จำได้ว่าพับเป็นดาวกระจาย (ลาวมาก)
ทีนี้พอใกล้จะหมดช.ม นักเรียนที่ทำกันเสร็จแล้ว ครูก็ให้ไปที่สระน้ำได้เลย ตอนนั้นผมบังเอิญขอไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งกระทงไว้ที่ห้อง แปล๊บเดียวกลับมา ตกใจแทบบ้า เฮ้ยยย!!! กลีบหายไปไหนหมดวะ เหลือแต่หยวกกล้วยกะธูปเทียน โดนแกล้งแล้วชั้น กรรมตามสนองท้าย ช.ม กระทงโดนข่มขืน โอ๊ย จะให้ไปแจ้งความก็ไม่ทันการ เดี๋ยวหมดพักก็ไม่ต้องลอยกันพอดี เลยยกไปลอยทั้งยังงั้นแหละ ผู้อ่านครับ หัวเราะกันทั้งห้อง โดยเฉพาะไอ้กลุ่มที่แกล้งผมจะดังเป็นพิเศษ จะหัวเราะทำไม กระทงเราเน้นเนื้อที่ใช้สอยเป็นหลัก ไม่แต่งเปลือกให้วุ่นวาย ก่อเกิดความสงบไหลผ่านลำน้ำชุ่มเย็น โอย แก้ตัวไปก็ไม่ขึ้น แต่ถึงกระนั้น โทษทีครับ ขอบอกว่าเด่นที่สุดในสระ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไม่มีกระทงใครกล้าลอยเข้ามาใกล้สักตัว ออกแนวสังคมรังเกียจซะยังงั้น จบข่าวเลยดีกว่า
เทศกาลหนึ่งเทศกาลครับ ไม่ว่าจะเป็น ลอยกระทง หรืออะไรก็ตาม เกิดขึ้นด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งกิจกรรม ความเชื่อ แต่ที่สำคัญที่สุด ผมมองว่าคือความสร้างสรรค์ ไม่ใช่ความสนุก
คำอธิษฐานจะมีความหมายอะไร ลอยสิ่งชั่วร้ายไปแล้วได้อะไร ถ้าเรายังทำตัวเหมือนเดิม
แม่น้ำคงไม่ต้องการคำขอบคุณ ถ้าทุกวันนี้เรายังใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง ยังมักง่าย ทิ้งขยะลงน้ำทุกครั้งที่มีโอกาส
เทศกาลจะสร้างสรรค์ หรือไม่สร้างสรรค์ ก็อยู่ที่ผู้ปฏิบัติอย่างเรานี่ล่ะครับ สุดท้ายฝากไว้ด้วยละกันนะ ลอยกระทงปีหน้าอาจได้เจอกันใหม่ ปีนี้หวังว่า ผลบุญ 2 หน้านี้จะส่ง ให้ผู้อ่านสุขใจ.... นะขอรับ [email protected]