ดีวีดีเถื่อนกระจายทั่วบรอดแบนด์

แชร์เรื่องนี้:
ดีวีดีเถื่อนกระจายทั่วบรอดแบนด์
[color=blue]ดีวีดีเถื่อนกระจายทั่วบรอดแบนด์ [/color]บริการแลกเปลี่ยนไฟล์ (File Sharing) เริ่มฮิตติดลมบนจนภาพยนตร์ดีวีดียอดขายตกต่ำ อ้างเป็นเพราะเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์มาแรง ช่วยย่นระยะเวลาดาวน์โหลดได้มากโข สร้างนิสัยเสียให้ผู้บริโภคเลือกของฟรีมากกว่าเสียเงินซื้อของลิขสิทธิ์ กระแสการแชร์ไฟล์แบบ Peer to Peer ซึ่งเคยสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมเพลงมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน มาในวันนี้ลุกลามสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์แล้ว จากการเปิดเผยข้อมูลของ CacheLogic บริษัทวิเคราะห์ของอังกฤษพบว่า บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตขณะนี้ นอกเหนือจากไฟล์ทั่ว ๆ ไปแล้ว มีไฟล์ภาพยนตร์วิ่งอยู่เป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน โดยไฟล์ภาพยนตร์เหล่านี้ถูกดาวน์โหลดเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน และลูกค้าส่วนมากของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ในสหภาพยุโรปต่างก็ใช้บริการดังกล่าวนี้ แทนการเลือกซื้อดีวีดีลิขสิทธิ์ ก่อนหน้านี้กระแสการดาวน์โหลดเพลงผิดกฎหมายในแบบ Peer to Peer มาแรงจนทำให้เวบไซต์อย่าง Napster, Kazaa ดังระเบิดฮิตติดลมบน ในขณะที่เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงต้องน้ำตาร่วง อมทุกข์ต่างข้าวกันเป็นแถว แต่ปัญหาดังกล่าวก็เริ่มบรรเทาลงเมื่อเจอกับการผนึกกำลังต้านอย่างเข้มแข็งของ RIAA (Recording Industry Association of America) และเทรนด์การขายเพลงถูกลิขสิทธิ์ผ่านระบบออนไลน์เริ่มกลายเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค ซึ่งทำให้แอปเปิ้ล ค่ายผลไม้ชื่อดังผู้ผลิตเครื่องแมคอินทอชที่หันมาทำธุรกิจเพลงโกยเงินเข้ากระเป๋าเป็นว่าเล่นจากการขายเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลและเพลงออนไลน์ นอกจากนั้นพฤติกรรมผู้บริโภคชาวยุโรปมีความนิยมบริโภคภาพยนตร์ดีวีดีมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ส่งผลให้มีการประมาณการณ์กันว่าในกลุ่มสหภาพยุโรปในปัจจุบันมีเครื่องเล่นดีวีดีแล้วกว่า 50 ล้านเครื่อง หรือเฉลี่ยแล้วในบ้านสามหลังจะมีเครื่องเล่นดีวีดี 1 เครื่อง และพบว่าในปี 2003 คนอังกฤษใช้เงินถึง 3 พันล้านยูโร (2 พันล้านปอนด์) ในตลาด DVD อันดับที่สองตามมาด้วยประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีมูลค่าสูงไม่แพ้กัน คือ 1.7 พันล้านยูโร “ไฟล์วิดีโอกำลังมาแทนที่มิวสิกเพลง” แอนตรูว์ พาร์กเกอร์ กรรมการบริหาร CacheLogic กล่าวกับผู้สื่อข่าวบีบีซีนิวส์ ไฟล์แชริ่งไม่ตาย แม้กระแสการเลือกซื้อเพลงออนไลน์แบบถูกกฎหมายจะมาแรง แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าระบบการแลกเปลี่ยนไฟล์แบบ Peer to Peer ก็ยังคงมีอยู่และเติบโตไปพร้อม ๆ กันเสียด้วย โดยสาวก Peer to Peer คือกลุ่มลูกค้าหลักของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ร่วมกันดาวน์โหลดไฟล์สร้างทราฟิกบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าไฟล์วิดีโอเหล่านั้นจะมีมูลค่าด้านลิขสิทธิ์ประมาณ 332 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ในขณะที่สถิติตัวเลขของนักท่องเน็ตที่ล็อกออนเข้าสู่ระบบไฟล์แชริ่งนี้คาดว่าอยู่ที่ 10 ล้านคนแล้วทั่วโลก (อ้างอิงจาก CacheLogic) ดาวน์โหลดกันให้วุ่น กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว หากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะส่งภาพยนตร์ดีวีดีออกมา เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะเต็มไปด้วยไฟล์ขนาด 600 เมกะไบต์วิ่งไปมา จากการสำรวจของบริษัทจูปิเตอร์พบว่า สาวก P2P ในสหภาพยุโรปจะทำการดาวน์โหลดภาพยนตร์ดีวีดี 1 เรื่องทุกเดือนโดยเฉลี่ย 15 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สเปนตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 38 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี เขายังไม่เชื่อว่าการดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอจะมาแทนที่การดาวน์โหลดเพลง อาจจะกล่าวได้ว่าเทรนด์การดาวน์โหลดเพลงละเมิดลิขสิทธิ์นี้แทรกซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวัยรุ่นในปัจจุบันไปแล้ว “วัยรุ่นเจเนอเรชั่นใหม่นี้เติบโตขึ้นมาพร้อม ๆ กับแนวความคิดในการรับชมภาพยนตร์-เพลงโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้ออีกต่อไป และพวกเขาก็ชอบที่จะสะสมมันเอาไว้เป็นคอลเล็กชันส่วนตัวกันเสียด้วย” เครื่องมือตรวจสอบประสิทธิภาพของ CacheLogic ได้ทำการตรวจสอบไอพีแอดเดรสจำนวน 3.5 ล้านไอพีที่อยู่บนเครือข่ายในระยะเวลา 1 เดือนพบว่า การใช้ระบบไฟล์แชริ่งคือตัวการสร้างทราฟิกบนระบบอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ “ระบบไฟล์แชริ่งคือคิลเลอร์แอปพลิเคชัน (Killer Application) สำหรับบรอดแบนด์” มร.พาร์กเกอร์กล่าว ข่าว: ผู้จัดการ
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ