เอชพี สั่งเรียกเปลี่ยนชิ้นส่วนโน้ตบุ๊คครั้งใหญ่ เหตุพบชิพหน่วยความจำของผู้ผลิตภายนอก ไม่สามารถปฏิบัติการร่วมกับชุดชิพบริษัทได้ แต่แจงโอกาสเกิดปัญหาต่ำ ด้านอินเทล สั่งเรียกเก็บชิพ "แกรนท์สเดล" รุ่นล่าสุดกลับโกดัง หลังพบข้อบกพร่องในกระบวนการผลิต ด้านนักวิเคราะห์ชี้ ส่งผลวงจรจำหน่ายสินค้าล่าช้า สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด โค.หรือเอชพี ประกาศว่า ได้มีการค้นพบข้อบกพร่อง ด้านการออกแบบชิพหน่วยความจำบางตัว ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของเอชพี และคอมแพค พร้อมเตรียมเปลี่ยนชิ้นส่วนให้แก่แล็บท็อปราว 900,000 เครื่อง ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายนายโรนัลด์ คาซิค ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และวิศวกรรมลูกค้าของอินเทล เผยว่า ทางบริษัทได้ค้นพบข้อบกพร่องในโมดูลหน่วยความจำโน้ตบุ๊คบางตัว ซึ่งบริษัทภายนอกเป็นผู้ผลิตป้อนให้ โดยที่โมดูลเหล่านี้จะทำงานบกพร่อง เมื่อต้องปฏิบัติการร่วมกับเทคนิคจัดการพลังงานในชิพประมวลผล และชุดชิพอุปกรณ์เคลื่อนที่ของอินเทล, หน่วยควบคุมการแสดงภาพวิดีโอกราฟฟิก, ชิพเพนเทียม 4 สำหรับพีซีเคลื่อนที่ หรือชิพเพนเทียม เอ็ม และเทคโนโลยีจัดการพลังงานบางตัวทีมวิจัยของบริษัท กล่าวว่า ชิพประมวลผลของอินเทลจะได้รับการพัฒนาเทคนิคจัดการพลังงานเอาไว้ อาทิ การระงับการทำงานบางส่วนของชิพ เมื่อคอมพิวเตอร์ยังไม่จำเป็นต้องใช้ทรานซิสเตอร์ตัวนั้น โดยทางทีมงาน พบว่า เมื่อใดที่ชิพเริ่มสั่งควบคุมการใช้พลังงาน จะทำให้โมดูลหน่วยความจำกลับเข้าสู่โหมด "ตั้งค่าใหม่อัตโนมัติ" (self-refresh) ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลายพันครั้งต่อวินาที ส่งผลให้คอมพิวเตอร์หยุดทำงาน หน่วยความจำล้มเหลว หรือเกิดปัญหาอื่นๆอย่างไรก็ตาม นายคาซิค บอกว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีแนวโน้มที่จะเจอปัญหาดังกล่าว "น้อย และขึ้นกับสภาพแวดล้อมในการใช้งานขณะนั้น" กระนั้น ผู้ที่ใช้โน้ตบุ๊ครุ่นที่มีข้อบกพร่อง ควรดาวน์โหลดเครื่องมือซ่อมแซมจากเวบไซต์ของบริษัท ซึ่งจะช่วยระบุได้ว่า เครื่องใช้หน่วยความจำรุ่นที่มีข้อบกพร่องหรือไม่ สำหรับโมดูลที่ตรวจพบข้อบกพร่อง ผลิตโดยบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์, บริษัทอินฟินิออน เทคโนโลยีส์ และบริษัทวินบอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป. และทางเอชพี เผยว่า ตนจะแจ้งให้ลูกค้าและบริษัทคู่ค้า ทราบถึงบริการเปลี่ยนชิ้นส่วนโดยเร็วตัวแทนบริษัท กล่าวว่า โน้ตบุ๊คที่อาจมีข้อบกพร่องดังกล่าว ได้แก่รุ่น Compaq Evo Notebook N610, Compaq Evo Notebook N610v, Compaq Evo Notebook N620c, Compaq Evo Notebook N800c, Compaq Evo Notebook N800v, Compaq Evo Notebook N800w, Compaq Evo Notebook N1000c, Compaq Evo Notebook N1000v, Compaq Presario 1500, Compaq Presario 2800, Compaq Presario x1000, Compaq Presario x1200, HP Compaq Business Notebook nx7000 และ HP Pavilion zt3000ขณะเดียวกัน บริษัทอินเทล คอร์ป.ผู้ผลิตชิพอันดับหนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะเรียกชุดชิพ "แกรนท์สเดล" (Grantsdale) จำนวนหนึ่ง กลับคืนจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ หลังจากที่เพิ่งประกาศเปิดตัวไปในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจาก ทีมวิจัยได้ตรวจพบข้อบกพร่องในกระบวนการผลิต ที่อาจส่งผลให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชุดชิพเหล่านี้ ทำงานบกพร่องได้ อย่างไรก็ตาม นายไมค์ ฮอคกี้ โฆษกของเอชพี กล่าวว่า การเรียกคืนสินค้าของทางบริษัท และอินเทล ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกันแต่อย่างใด ขณะที่นายเชน ราอู นักวิเคราะห์ประจำบริษัทวิจัยไอดีซี ให้ความเห็นว่า การประกาศข้อบกพร่องด้านกระบวนการผลิตของยักษ์ใหญ่ทั้งสองพร้อมๆ กัน อาจไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายพีซีมากนัก แต่อาจทำให้การจำหน่ายสินค้าล่าช้าออกไป และทำให้ลูกค้าบางรายต้องชะลอการซื้อ"เมื่อจู่ๆ คุณก็เอาชิ้นส่วนในเครื่องออกไป หรือบอกว่ากำลังมีการตรวจหาข้อบกพร่องของชิ้นส่วนตัวนั้น สายการจำหน่ายสินค้าก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย" นายราอู กล่าว "และบริษัทอาจสูญเสียรายได้จำนวนมาก" ทั้งนี้ ไอดีซี ทำนายว่า ตลาดเดสก์ท็อป, โน้ตบุ๊ค และคอมพิวเตอร์แม่ข่ายระดับล่าง จะมียอดขายเพิ่มขึ้นราว 13.5% ในปีนี้ เป็นมูลค่าราว 175 ล้านดอลลาร์