มช.เดินหน้าพัฒนาเวบหนุนอี-พรอวินซ์

แชร์เรื่องนี้:
มช.เดินหน้าพัฒนาเวบหนุนอี-พรอวินซ์
จากกระแสการสร้างจังหวัดไอซีที (ไอซีที ซิตี้) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดด้วยเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีเชียงใหม่เป็น 1 ใน 3 จังหวัดนำร่อง แต่เวลาผ่านไปประมาณ 2 ปี ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ รวมทั้งตัวเงินที่จะนำมาใช้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม สถานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ได้เข้ามามีส่วนร่วมผลักดันผ่านโครงการจังหวัดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Province) โดยจัดทำเวบไซต์กลาง http://e.chiangmai.go.th/echiangmai/ ซึ่งรวบรวมข้อมูลเชิงธุรกิจใส่ไว้ หวังให้ประชาชนและภาคธุรกิจทุกระดับเข้ามาดึงข้อมูลไปใช้ ประกอบด้วย ข้อมูลบริการ (e-Service), ข้อมูลบริการภาครัฐ (e-Directory), อีเมลข้าราชการ (e-Mail Directory), ข้อมูลข่าวสาร (e-Announcement), ข่าวการจัดซื้อจัดจ้าง (e-Auction), ข่าวการรับสมัครงาน (e-Classified), ราคากลางผลิตผลการเกษตร (e-Agricultural Market) ตลอดจนฐานข้อมูลบริหาร 45 ประเภทนายชัยธวัช เสาวพนธ์ ผู้อำนวยการ สถานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ตั้งเป้าว่า จะมีข้อมูล (content) ที่จำเป็นและสามารถดึงดูดความสนใจให้คนเข้ามาใช้บริการประมาณ 40% ก็พอใจแล้ว จากเดิมที่จังหวัดมีเฉพาะข้อมูลจำเป็นพื้นฐาน ตามฐานข้อมูลกระทรวงมหาดไทย ที่มีเฉพาะข้อมูลพื้นฐาน 15 ฐาน เพื่อดูแลความยากจนของประชากร ซึ่งทางหอการค้าจังหวัดบอกว่า ข้อมูลเหล่านั้นนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลเชิงธุรกิจไม่ได้ จึงต้องหันมาพัฒนาฐานข้อมูลธุรกิจขึ้นทั้งนี้ได้นำข้อมูลรายงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มาเป็นฐาน แล้วปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัย เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น บมจ.ทศท คอร์ปอเรชั่น, บมจ.กสท โทรคมนาคม และบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ขณะนี้ข้อมูลปรับปรุงถึงปี 2545 แล้ว, แผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชน, การจองตั๋วออนไลน์ของการบินไทย เป็นต้นส่วนข้อมูลราคาผลิตผลการเกษตร ทั้งพืชผักผลไม้ และเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้เก็บข้อมูลจริงจากตลาดเมืองใหม่มาใส่ โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจรับหน้าที่เช็คราคาสินค้าที่ตลาด แล้วนำมาปรับปรุงข้อมูลทุกวัน"ตลาดค้าส่งของจังหวัดจริงๆ ชื่อตลาดคำเที่ยง แต่ที่ใช้ตลาดเมืองใหม่เพราะสถานที่ตั้งอยู่ใกล้สำนักงานเทศกิจ จึงสะดวกต่อการเก็บข้อมูล" นายชัยธวัช กล่าวแบ่งหน่วยงานรับผิดชอบข้อมูลสำหรับการพัฒนา และปรับปรุงข้อมูลบนเวบไซต์ให้ทันสมัยนั้น จะเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานดำเนินการรับผิดชอบเอง โดยการสนับสนุนของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเริ่มจากปีที่แล้วได้เรียกประชุมส่วนราชการต่างๆ และมอบหมายงานให้ทำโดยสถานบริการไอที มช. ได้ออกแบบตารางข้อมูลเพื่อให้แต่ละหน่วยงานกรอก ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นผู้บริหารสามารถเรียกดูและนำไปใช้ได้เลย อีกทั้งทางสถานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศจะทำหน้าที่สอนข้าราชการที่ต้องรับผิดชอบข้อมูลนั้นให้สามารถอัพเดทข้อมูลขึ้นเวบ ซึ่งจะได้รับค่าจ้างสอน เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงงาน เพราะโครงการที่ดำเนินการนี้ ไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากแหล่งใด แม้ก่อนหน้านี้ เคยของบประมาณผู้ว่าซีอีโอ 2.8 ล้านบาท แต่จนขณะนี้ยังไม่ได้รับเงิน"เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า การทำโปรเจกต์ใดๆ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ แต่ขอให้ตั้งใจจริงก็จะทำได้สำเร็จ" นายชัยธวัช กล่าวทั้งนี้ ในส่วนของข้อมูลด้านบริการนั้น จะนำมาเก็บไว้ที่เครื่องแม่ข่ายกลางของมหาวิทยาลัย เพื่อป้องกันปัญหากรณีสัญญาณเชื่อมต่อล่ม (Link down) หรือปัญหาอื่นๆ ที่ทำให้เข้าไปยังเวบไซต์ที่เชื่อมต่อไม่ได้ ปัจจุบันมีรายการข้อมูลที่พร้อมให้บริการแล้ว 625 รายการ จากเดิมที่มีประมาณ 100 กว่ารายการขณะเดียวกัน ยังได้นำระบบบัญชีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล แอคเคาน์) มาบริหารเอง ทำให้จ่ายแจกแอคเคาน์ไปได้กว่า จากเดิมจังหวัดจะได้อีเมล แอคเคาน์เพียง 2 แอคเคาน์ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการติดต่อสื่อสารกันหนุนเน็ตตำบลนอกจากนั้น สถานบริการไอทีจะขยายผลการดำเนินงานโครงการอินเทอร์เน็ตตำบล โดยนำคอมพิวเตอร์เครื่องเดิม หลังจากการเปลี่ยนเครื่องใหม่แล้ว ไปให้เทศบาลตำบล 3 แห่ง ที่ สันกำแพง, เมืองแกง และสันทรายหลวง แห่งละ 10 เครื่อง เพื่อใช้งานในตำบล ซึ่งตำบลต่างๆ จะว่าจ้างบุคลากรของสถานบริการไอทีไปอบรมชาวบ้านให้ทำโฮมเพจ และใช้อินเทอร์เน็ตได้ขณะเดียวกัน ยังมีแผนจะออกเดินสายอบรมความรู้ด้านไอทีเคลื่อนที่ (โมบาย ไอที) โดยใช้โน้ตบุ๊ค เชื่อมระบบไวร์เลส แลน ผ่านสัญญาณดาวเทียม แก่หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัด เดือนละ 2 ครั้งๆ ละ 2 ทีม รวม 60 เครื่อง โดยขณะนี้กำลังของบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ