-
หน้าแรก
-
PC CONSOLE GAME
- Linux รุกเข้าตลาดเดสก์ท็อป ชิงแชร์ไมโครซอฟต์ ชูจุดขายราคาถูก ใช้งานง่าย
Linux รุกเข้าตลาดเดสก์ท็อป ชิงแชร์ไมโครซอฟต์ ชูจุดขายราคาถูก ใช้งานง่าย
[img]http://www.sgcybernet.com/~advance/R4519091.jpg[/img] ลีนุกซ์รุกหนัก ท้าชนไมโครซอฟท์ เบนเข็มเจาะกลุ่มตลาดคอมฯ เดสก์ท็อป ชูจุดแข็งราคาถูก ใช้งานง่ายและไม่เสี่ยงต่อไวรัส ขณะที่ผู้ผลิตคอมฯ ยักษ์ใหญ่ เอชพี ไอบีเอ็ม หนุนหลังสุดตัว ออกโรงเป็นผู้ให้บริการคอมฯ ใช้ลีนุกซ์ ด้านไมโครซอฟท์ โต้กลับทั้งตอกย้ำระยะยาวเดสก์ท็อปวินโดว์สมีต้นทุนการซ่อมบำรุงและอัพเกรดถูกกว่า ด้านไอดีซี ชี้ตลาดเดสก์ท็อปลีนุกซ์ จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 6% ในปี 2550 เอเชี่ยน วอลล์สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า ธุรกิจซอฟต์แวร์โอเพ่น ซอร์ส (ระบบเปิด) กำลังรุกคืบเข้ามาเบียดแชร์ในตลาดคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือพีซี ที่ใช้งานในสำนักงานแข่งกับไมโครซอฟท์อย่างจริงจังมากขึ้น หลังจากที่ซอฟต์แวร์ดังกล่าวปัจจุบันได้รับความนิยมแพร่หลายในกลุ่มงานส่วนบริหารจัดการในองค์กร เช่น ด้านบัญชี หรือ ทรัพยากรบุคคล เป็นต้น โดยกลุ่มสนับสนุนการใช้งานลีนุกซ์ ระบุว่า จุดแข็งของซอฟต์แวร์ระบบเปิด ที่มีเหนือเครื่องพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการและระบบงานสำนักงานวินโดว์สของไมโครซอฟท์นั้น คือ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายถูกกว่า เนื่องจาก ลีนุกซ์เป็นซอฟต์แวร์ระบบเปิดเผยซอร์สโค้ด ที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงการทำงานโดยนักพัฒนาโปรแกรมทั่วโลก ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์มาใช้งานได้ฟรี ขณะที่ในส่วนสมรรถนะของเครื่อง ก็ใช้เครื่องที่มีความเร็วและหน่วยประมวลผลน้อยกว่าวินโดว์สของไมโครซอฟท์ได้ เนื่องจาก มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ลีนุกซ์ ไว้เพื่อรองรับการทำงานของผู้ใช้ที่ไม่ได้ใช้ระบบงานที่มีทั้งหมดบนเดสก์ท็อป เช่น ใช้เฉพาะการรับ-ส่งอีเมล์, การตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์ หรือใช้เพื่อสื่อสารภายในองค์กร รวมถึงในกลุ่มผู้ที่ไม่ต้องใช้การสร้างงานเอกสาร, งานคำนวณ หรือการทำงานเสนอ และซอฟต์แวร์ลีนุกซ์ ยังไม่มีปัญหาไวรัสคุกคามระบบเช่นที่ไมโครซอฟท์ประสบอยู่ นอกจากนี้ บริษัทและนักพัฒนาอิสระต่างพัฒนาระบบงานเดสก์ท็อปที่ใช้ลีนุกซ์ ให้มีลักษณะคล้ายระบบงานของไมโครซอฟท์ เพื่อให้ผู้ใช้ที่เคยชินกับการใช้งานวินโดว์ส ไม่ต้องปรับตัวมากนักในการเปลี่ยนไปใช้ลีนุกซ์ และยังรวมถึงการพัฒนาให้ทั้งสองระบบงานทำงานร่วมกันได้ เช่น ในซอฟต์แวร์ลีนุกซ์บางประเภท ผู้ใช้สามารถเลือกบันทึกข้อมูลในรูปของระบบงานออฟฟิศแบบเปิดหรือในแบบของไมโครซอฟต์ เช่น ไฟล์งานสกุล doc หรือ xls ได้ ดั้งนั้น ผู้ใช้จึงสามารถเปิดไฟล์งานไมโครซอฟต์ เวิร์ด หรือเอ็กเซล ในระบบงานแบบเปิดได้เช่นกัน ทั้งนี้ เอช-พี ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ระดับโลก ได้มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ลีนุกซ์ใช้แทนวินโดว์สบ้างแล้ว และตั้งเป้าทำตลาดในเอเชียเป็นหลัก ขณะที่ ไอบีเอ็ม, โนเวลล์ และเรดแฮท ได้ประกาศเป็นผู้ให้บริการโปรแกรมลีนุกซ์สำหรับเครื่องเดสก์ท็อปแล้วเช่นกัน ทั้งยังมีการฝึกอบรมพนักงานในการติดตั้งเครื่องเดสก์ท็อปที่ใช้ลีนุกซ์ให้กับลูกค้าด้วย ด้าน ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ผู้ผลิตเครื่องแม่ข่ายระบบยูนิกซ์ ก็ให้การสนับสนุนระบบงานแบบเปิดแทนระบบงานสำนักงานของไมโครซอฟท์ โดยวางขายโปรแกรมสตาร์ออฟฟิศในราคา 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,000 บาทต่อปี ต่อลูกค้า 1 ราย รวมถึงบริการงานบำรุงรักษาและให้คำปรึกษา นอกจากนี้ ในปลายปีที่ผ่านมา ซัน ยังได้เปิดตัวชุดเดสก์ท็อปในระบบเปิดที่รวมคุณสมบัติการใช้งานด้านอี-เมล์, ปฏิทิน และบราวเซอร์อินเตอร์เน็ต รวมถึงโปรแกรมสร้างงานเอกสาร, การคำนวณและโปรแกรมทำงานเสนอ ในราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 4,000 บาทต่อปี อย่างไรก็ตาม ด้านไมโครซอฟท์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อรับมือกับการแข่งขันจากลีนุกซ์ โดยปรับนโยบายราคาให้ยืดหยุ่นมากขึ้น สำหรับผู้ใช้พีซีที่ทำงานเฉพาะเปิดดูเว็บไซต์และงานเอกสารของบริษัท แต่ไม่ต้องสร้างงานเอกสาร บริษัทจะไม่คิดราคาโปรแกรมเวิร์ด และพาวเวอร์ พ้อยท์ ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เอ็กซ์พี ขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ ยังโต้กลับลีนุกซ์ ในเรื่องต้นทุนซอฟต์แวร์ โดยอ้างผลการศึกษาของบริษัทว่า หากเทียบกันในระยะ 4-5 ปี ต้นทุนโดยรวมทั้งหมดของเดสก์ท็อปที่ใช้วินโดว์สจะต่ำกว่าลีนุกซ์ เนื่องจาก ค่าบำรุงรักษาและอัพเกรดประสิทธิภาพของเครื่องพีซีให้ทันสมัยจะถูกกว่า และมีผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์จำนวนไม่น้อยมักจะคุ้นเคยกับการใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์มากกว่า ขณะที่อัล กิลเลน นักวิจัยตลาดระบบปฏิบัติการจาก ไอดีซี บริษัทวิจัยตลาดคาดการณ์ว่า ภายในปี 2550 ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ จะมีส่วนแบ่งในตลาดเดสก์ท็อปทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วน 6% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับสัดส่วนในตลาดเมื่อปี 2545 หรือมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 2.7% เท่านั้น