นายสุรช ล่ำซำ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดและบริการ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการที่ทีทีแอนด์ทีวางแนวทางในการดำเนินธุรกิจว่านับจากนี้ต่อไปจะใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์1.5 ล้านเลขหมายในภูมิภาคให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เริ่มจากการเปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ภายใต้ชื่อ ทีสปีด (T-Speed) ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการที่เชียงใหม่เป็นจังหวัดแรก
ทีทีแอนด์ทีเปิดตัวทีสปีดด้วยความเร็ว2เมกะบิตต่อวินาทีในราคา 999 บาท สำหรับลูกค้าที่ใช้ในลักษณะโฮมยูส อาศัยความได้เปรียบจากการร่วมมือกับการสื่อสารซึ่งมีข้อได้เปรียบเรื่องค่าเชื่อมวงจรไปต่างประเทศ ทำให้สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ได้ในราคาถูกกว่าผู้ให้บริการรายอื่นได้ บวกกับความข้อดีของทีทีแอนด์ทีที่มีสายทองแดงเชื่อมโยงถึงบ้านลูกค้าได้เลย ส่งผลให้ทีสปิดกลายเป็นผู้ให้บริการที่โดดเด่นในตลาดต่างภูมิภาคในปัจจุบัน
ปัจจุบันอัตราค่าบริการโดยเฉพาะของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ให้บริการกันในเขตภูมิภาคจะมีราคาประมาณ 1,000 บาท แต่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 2 เมกะบิตที่ทีทีแอนด์ทีให้บริการ
นายสุรช กล่าวว่าหลังเปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่เชียงใหม่ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเปิดให้บริการได้เดือนกว่า มีผู้สมัครใช้บริการ 1,000 กว่าราย คาดว่าถึงสิ้นปีจะมีผู้ใช้บริการประมาณ 3,000 ราย จึงขยายการให้บริการออกไปที่ภูเก็ต ขอนแก่น และอีก17จังหวัดจะทยอยเปิดให้บริการในสิ้นเดือนนี้ โดยคาดว่าสิ้นเดือนมิถุนายนปีนี้จะสามารถขยายการให้บริการได้ทั่วประเทศโดยเฉพาะในเขตเมือง ยกเว้นอำเภอที่อยู่ห่างไกล
ทีทีแอนด์ทีประมาณการว่าจะใช้งบลงทุนประมาณพอร์ตละประมาณ 3-4,000 บาท คาดว่าจะใช้งบลงทุนทั้งหมดประมาณ400 ล้านบาท จากจำนวยพอร์ตที่จะติดตั้งทั้งหมดประมาณ 4 หมื่นพอร์ตทั่วประเทศ
" การแข่งขันการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในต่างจังหวัดจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มเห็นความสำคัญของตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับสัมปทานจากงอค์การโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นสามารถ เลนโซ่ ฯลฯ ที่พร้อมสนองนโยบายรัฐขยายการให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์"
ทีทีแอนด์ทีตั้งเป้าให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 2 หมื่นราย จากตลาดรวมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงต่างจังหวัดประมาณใกล้ 1 แสนราย