พรีวิว Stellar Blade หลังลองเล่นเดโมรอบสื่อมวลชน อีกหนึ่งเกมดีที่น่าเอาใจช่วย!

Stellar Blade

ก่อนที่เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสกับเดโมของเกม Stellar Blade ในวันศุกร์ที่ 29 มีนาคมนี้ ไม่อยากจะขิงเลยว่าทีมงาน Online Station มีโอกาสได้ทดลองเล่นเดโมดังกล่าวไปแล้วในฐานะสื่อมวลชนครับ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาเล่าถึงประสบการณ์จากการเล่นในครั้งนั้นกันครับว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง เกมนี้ควรแก่การรอคอยวันวางจำหน่ายในวันที่ 26 เมษายนที่จะถึงนี้หรือไม่ เรามีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว!

พล็อตเรื่องของเกม Stellar Blade จะกล่าวถึง เนย์ติบา (Naytiba) เผ่าพันธุ์เอเลี่ยนจากต่างดาวที่บุกรุกรานเข้ามาบนโลกจนเกิดสงครามกับมนุษย์ และถูกเนย์ติบาเป็นฝ่ายยัดเยียดความปราชัยในที่สุด นั่นจึงทำให้มนุษย์โลกถูกบีบให้ต้องทิ้งมาตุภูมิของตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอดไปตั้งถิ่นฐานที่ดาวอื่นเป็นเวลายาวนาน กระทั่ง อีฟ (Eve) ตัวเอกของเกมกับนักรบอีกจำนวนหนึ่งได้รวบรวมกำลังพลที่เหลืออยู่เดินทางมายังโลกอีกครั้งโดยมีเป้าหมายคือกอบกู้แผ่นดินเกิดกลับมาให้ได้

ไม่บ่อยเท่าไหร่ครับที่เราจะได้เห็นผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็นตัวเอกของเกมแอ๊กชั่นสไตล์ Hack and Slash แบบฉายเดี่ยว ซึ่งถ้ามองนอกเหนือไปจากชุดสูทสุดเซ็กซี่ และหุ่นอันสะโอดสะองของสาวอีฟที่ดูจะเซอร์วิสผู้เล่นชนิดจัดหนักแล้ว การปูเรื่องราวให้อีฟเป็นตัวเอกท่ามกลางโลกที่ล่มสลายทั้งสิ่งปลูกสร้างและอารยธรรมก็ทำออกมาได้น่าสนใจ พร้อมกับทิ้งปมปริศนาหลายอย่างที่รอให้ผู้เล่นออกตามหาในเกมตัวเต็ม รวมถึงที่มาที่ไปของชุดสูทที่อีฟและพรรคพวกสวมใส่ก็เป็นอีกประเด็นที่ชวนอยากรู้ไม่แพ้กัน

ทางด้านเกมเพลย์ของการต่อสู้ ผู้เล่นจะต้องคอยศึกษาท่วงท่าการโจมตี และจังหวะในการออกท่าศัตรู เพื่อรอคอยจังหวะสวนกลับ โดยการโจมตีของศัตรูแต่ละท่า จะมีทั้งท่าที่ต้องรับมือด้วยการ Parry (กดปุ่มให้ได้ตรงกับจังหวะที่อาวุธศัตรูกำลังจะถึงตัวเราพอดี) รวมถึงท่าที่ต้องกลิ้งหลบเท่านั้น ตลอดจนท่าที่เราต้องวาร์ปสวนไปอยู่ด้านหลังศัตรู ทั้งหมดที่กล่าวมาจะจำแนกตามสีของกรอบวงกลมที่ขึ้นบนตัวศัตรูตอนมันจะปล่อยท่า ซึ่งเวลาที่เรา Parry หรือโจมตีได้หลาย ๆ คอมโบ ตัวของอีฟจะสะสมเบิร์สต์เกจที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับอีฟได้ในชั่วขณะหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเรา Parry หรือหลบศัตรูได้สำเร็จ อีฟก็จะสะสมเบต้าเกจที่ช่วยให้อีฟโจมตีขัดจังหวะศัตรูได้ หรือให้อีฟสามารถโจมตีทะลวงเกราะของศัตรูได้ จะเห็นได้ว่าถ้าผู้เล่นฝึกฝนการ Parry และหลบได้จนชำนาญก็จะกุมความได้เปรียบต่อศัตรูเสมอ มีผลทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก

ความยากของเกมจะเลือกปรับได้ 2 ระดับ คือระดับปกติ และระดับรองรับผู้เล่นที่ต้องการเสพเนื้อเรื่องเป็นหลัก โดยอย่างหลังจะมีการลดทอนความซับซ้อนของเกมเพลย์ลง เกมจะเพิ่มกรอบเวลาในการกดปุ่มเพื่อหลบหรือ Parry ให้กับผู้เล่นนานมากพอที่จะกดทันได้อย่างสบาย รวมถึงการต่อคอมโบก็สุดแสนจะง่ายดายเพียงแค่สแปมปุ่มเดียว เรียกว่าความยากระดับนี้ ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องกังวลหรือเครียดว่าจะเล่นไม่ผ่านเลยด้วยซ้ำไป ซึ่งเกมในยุคหลัง ๆ พยายามเข้าหาผู้เล่นที่ไม่สันทัดความรวดเร็วของแนว Hack and Slash เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นได้หลากหลายมากขึ้นนั่นเอง

ในช่วงของการสำรวจ เกมจะมีไอเทมนานาชนิดที่ซ่อนอยู่ตามฉาก โดยมีทั้งไอเทมเพิ่มประสิทธิภาพของอีฟ และไอเทมจำพวก Log บทสนทนา หรือไฟล์ต่าง ๆ ที่ทำให้เรารู้ข้อมูลปูมหลังของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการจะเข้าถึงแต่ละจุดที่มีไอเทมซ่อน ก็จะต้องอาศัยการปีนป่าย หรือใช้บางสกิลที่ต้องปลดล็อคหลังเล่นเรื่อย ๆ ไปตามเนื้อเรื่อง เช่นเดียวกับเควสต์ย่อยที่มีให้ทำเพื่อแลกกับเงิน ไอเทม และค่าประสบการณ์ แน่นอนครับว่ารางวัลที่ได้จากการผ่านแต่ละเควสต์มีความคุ้มค่ารออยู่ นอกจากนี้ ระหว่างทางที่สำรวจก็จะมีแคมป์เสบียงให้ผู้เล่นได้พักฟื้นพลังชีวิต และตู้ขายไอเทมที่จำเป็น แต่การพักฟื้นจะมีผลทำให้เหล่าศัตรูรอบ ๆ บริเวณที่เราเคยจัดการไป ฟื้นกลับมาใหม่ด้วย

เพื่อความเซอร์วิสแฟน ๆ อย่างเต็มที่ เกมนี้จะมีชุดของอีฟให้เลือกเปลี่ยนประมาณ 30 กว่าชุดครับ โดยทุกชุด (ย้ำว่าทุกชุด) จะปลดล็อคได้จากในเกมด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าทีมงานจะเอาชุดมาขายเป็น Microtransaction แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน งานด้านกราฟิกและโมชั่นแคปเจอร์คงต้องแยกเล่าเป็นส่วนที่ชอบและไม่ชอบ โดยส่วนที่ทำมาได้ดีคือดีไซน์ของตัวละครทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรมที่มีความขัดแย้งด้านภาพลักษณ์แบบเด่นชัด ตัวละครฝั่งอีฟจะดูสวยหล่อดุจจินตนาการและตามเทรนด์ป๊อปคัลเจอร์เกาหลี ส่วนฝั่งเนย์ติบามาด้วยรูปลักษณ์ที่มองจากดาวอังคารลงมายังรู้สึกได้ถึงความสยองและน่ากลัว ไม่เว้นแม้แต่ความงามของสถาปัตยกรรมของสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือนของมนุษย์ที่พังทลายไปทุกหย่อมหญ้า

อย่างไรก็ดี งานด้านโมชั่นแคปเจอร์ตรงส่วนของการแสดงสีหน้าตัวละครแอบดูแข็งทื่อไปหน่อย ทำให้สื่ออารมณ์ขณะพูดออกมาไม่ดีนัก สวนทางกับสถานการณ์ในเกมขณะนั้นที่ควรจะต้องมีอารมณ์ร่วม ยังดีที่พวกท่วงท่าแอ๊กชั่นของอีฟ ผสมผสานกับลีลาการเดินแบบสาวสุดฮอตเลยพอมาทดแทนกันได้ระดับหนึ่ง

เพลงประกอบในเกมนี้เป็นหนึ่งในจุดที่เพิ่มอรรถรสในเกมที่ใช้กลวิธีนำเสนอที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ กล่าวคือตัวเกมมีการเลือกใช้เพลงแต่ละช่วงแตกต่างกันอย่างชัดเจน ถ้าเป็นในฉากต่อสู้ทั่วไป เพลงก็จะมาในแนวตื่นเต้น ลุ้นระทึกตามประสา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่กลับมาอยู่ในช่วงสำรวจฉาก เพลงจะเปลี่ยนโทนมาเป็นแนวขับร้องด้วยเสียงใส ๆ ที่ขึ้นอินโทรด้วยดนตรีที่แฝงด้วยกลิ่นอายความเศร้า ความสิ้นหวัง เข้ากับธีมของโลกในเกมทันที โดยความหมายของเพลงและท่วงทำนองที่ขับกล่อมในช่วงผจญภัยจะค่อย ๆ นำพาผู้เล่นที่มีความอยากรู้อยากเห็นให้ไปต่อด้วยความหวัง ต้องขอชมเลยว่าแต่ละเพลงที่คัดมาใช้ในเกมนั้นค่อนข้างละเมียดละไม สะท้อนถึงรสนิยมและความสุนทรีของทีมงานมาก ๆ

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือตัวเกมมีการรองรับภาษาไทยทั้งซับไตเติ้ลและคำอธิบายในเมนูต่าง ๆ ครับ โดยคุณภาพงานแปลจัดว่าดีเยี่ยม ระหว่างที่เล่นแทบไม่มีจุดไหนอ่านแล้วรู้สึกเอ๊ะหรือชวนสับสนในเนื้อเรื่องเลย ยิ่งไปกว่านั้น พวกข้อมูลรายละเอียดจำพวก Lore ของตัวละครและศัตรูก็อ่านแล้วเพลิน อยากเล่นไปให้ไกลอีกเรื่อย ๆ เพื่อที่จะได้ปลดล็อคข้อมูลเหล่านี้มาอ่านเพิ่มอีก ตัวเกมมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ถูกจริตเกมเมอร์ไทย แถมยังเอนเตอร์เทนด้วยซับไทยที่มีความพิถีพิถัน ใครเป็นคอเกมแอ๊กชั่นยิ่งไม่ควรพลาดครับ

ว่ากันตามตรง Stellar Blade เป็นเกมที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่หลังจากที่ลองเดโมไปจนจบ มันกลับให้ทีมงานมีความรู้สึกที่อยากเอาใจช่วยตัวเกม รวมถึงทีมงานให้นำสิ่งที่ได้รับจากฟีดแบ็คและประสบการณ์จากเกมนี้ไปพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกับผลงานถัดไป แม้เส้นทางอาจไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ด้วยความพยายามและเนื้องานที่สามารถสัมผัสได้จากในเกมนี้ บอกได้เลยว่าดูมีอนาคตไม่น้อยทีเดียว


ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้