คุณ Doug Cockle ผู้ให้เสียงพากย์ Geralt of Rivia ตัวเอกจากไตรภาคเกม The Witcher ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้กับทาง IGN โดยแสดงความเห็นว่าการที่ผู้พัฒนาเกมนั้นจะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการพัฒนาเกมนั้นอาจเป็นเรื่องที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” และจะมีการใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องที่แย่เสียทีเดียว แต่ก็อาจเป็นอันตรายได้หากนักพากย์ไม่ทำอะไรเพื่อควบคุมการใช้เสียงพากย์ของตนเลย
โดยคุณ Cockle บอกว่าการที่ผู้พัฒนานั้นจะใช้ AI นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะปัจจุบันก็มีการใช้แล้วในหลาย ๆ รูปแบบ เช่น เสียงพูดคุยของผู้คนในฉากหลัง เสียงพากย์ของตัวละคร NPC และอื่น ๆ ซึ่งน่าเสียดายเพราะเดิมทีเสียงเหล่านี้ก็เคยเป็นเสียงของมนุษย์ ก่อนจะนำมาดัดแปลงและแปรรูปในภายหลัง จนกลายเป็นสิ่งที่เจ้าของเสียงดั้งเดิมอาจไม่เคยพูดมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณและมีการถกเถียงวิพากย์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
คุณ Cockle ยังบอกด้วยว่าเคยมีบริษัท AI มาขออนุญาตใช้เสียงพากย์ Geralt ของเขาเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่เขาตอบปฏิเสธไป ไม่ใช่เพราะว่าต่อต้าน AI แต่เพราะถ้าให้ก็เท่ากับยกให้เอาเสียงไปทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ และถึงจะไม่ได้เอาไปใช้ทำอะไรไม่ดี ก็ยังเป็นการขัดแข้งขัดขาตัวเขาและเพื่อนร่วมอาชีพ ทำให้รายได้ลดลงและไม่สามาถควบคุมผลงานของตัวเองได้
โดยปัญหาดังกล่าวเริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะสำหรับนักพากย์ที่ให้เสียงตัวละครหลักอย่างคุณ Cockle เพราะปัจจุบันนักพากย์เองก็เริ่มเป็นบุคคลสาธารณะที่ผู้คนรู้จักกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่คนโนเนมเหมือนแต่ก่อน แม้จะยังไม่ดังถึงขั้นเซเลบซูเปอร์สตาร์กระแสหลักก็ตาม
ทั้งนี้ปัญหาที่คุณ Cockle กังวลที่สุดคือการนำเสียงไปใช้ในทางเสีย ๆ หาย ๆ เช่น การนำเสียงของเขาไปทำเป็นข้อความแสดงความเกลียดชัง เหยียดเชื้อชาติ หรือกระจายข่าวปลอม ความคิดเห็นปลอม นับเป็นเรื่องอันตรายที่เกิดจาก AI ดังจะเห็นได้จากการที่ปัจจุบัน เริ่มมีการปลอมคำพูดของนักการเมืองแล้ว แม้หลายกรณีจะทำไปในเชิงขำขันก็ตาม
ด้วยเหตุนี้เอง คุณ Cockle จึงสรุปว่าแม้ AI นั้นจะไม่ใช่ตัวปัญหา และการใช้ AI นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ปัจจัยที่สร้างปัญหาจริง ๆ คือผู้คนที่นำ AI มาใช้ในทางที่ผิดนั่นเอง
แปลและเรียบเรียงจาก
PC Gamer
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
