เป็นยังไงกันบ้างครับกับเดโม Resident Evil 4: Chainsaw Demo ที่ทาง Capcom ปล่อยมาให้ผู้เล่นได้ลองเรียกน้ำย่อยก่อนที่เกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 24 มีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงน่าจะเล่นจบกันไปแล้ว (เผลอ ๆ บางคนจบหลายรอบด้วย) ทั้งนี้ทางทีมงาน Online Station เองก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์หลังเล่นเดโมเพื่อน ๆ ว่ารู้สึกกันอย่างไรบ้าง อะไรที่มองว่าดีขึ้น อะไรที่คาดหวังให้มีการเปลี่ยนแปลงในเกมตัวเต็ม มาชมกันเลยดีกว่าครับ
บทความมีการสปอยล์เนื้อหาในเดโม Resident Evil 4: Chainsaw Demo
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Chainsaw Demo นี้มีเนื้อหาครอบคลุมแค่ช่วงต้น Chapter 1 ของเกม หรือจบลงหลังจากเสียงระฆังดัง และชาวบ้านต่างเดินทางไปยังโบสถ์ ทิ้งลีออนให้ยืนงงกลางหมู่บ้านครับ ซึ่งช่วงที่เดโมตัดมานี้เป็นแบบเดียวกับในแผ่นเดโม Resident Evil 4 Preview Disc บนเครื่อง GameCube ที่เคยแถมฟรีให้กับผู้ที่ทำการพรีออเดอร์เกมดังกล่าวที่สหรัฐอเมริกาช่วงเดือนธันวาคม 2004 หรือกว่า 18 ปีมาแล้วนั่นเอง

เรื่องแรกที่อยากพูดถึงเป็นเรื่องของการบังคับหรือควบคุมตัวละครครับ โดยในภาครีเมคจะมีทางเลือกให้กับผู้เล่นที่คุ้นชินกับตัวออริจินัลมาก่อน ด้วยการวางตำแหน่งปุ่มคล้ายแบบเก่า แต่เพิ่มอิสระเรื่องการเคลื่อนที่พร้อมเล็งยิงได้เข้ามา (เพราะในออริจินัลเราจะเดินไปยิงไปไม่ได้) กับการบังคับแบบใหม่ที่ทำมาเพื่อภาครีเมคเต็มที่ ส่วนการเล็งยิงจะมีความส่ายกว่าสมัยภาค 2 รีเมคอยู่พอสมควร รวมถึงแอ๊กชั่นของตัวลีออนหลังรีโหลดเสร็จและจะยกปืนเล็งใหม่ก็ค่อนข้างช้าและกินเวลา แม้ว่าถ้าดูจากที่ระบบอัปเกรดอาวุธกับพ่อค้าในเกมตัวเต็มจะมีให้เลือกอัปเกรดความเร็วในการรีโหลดก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าในตัวเต็มจะทำให้ความหน่วงช่วงที่ยกปืนเล็งใหม่เร็วขึ้นด้วยหรือเปล่า

ตัวลีออนในภาครีเมคจะสามารถใช้มีดเพื่อปัดป้อง (Parry) การโจมตีทั่วไปของศัตรูได้ โดยช่วงกรอบเวลาในการใช้ Parry จะค่อนข้างกว้างและปราณีผู้เล่นมากกว่าเกมที่เน้น Parry จัด ๆ อย่าง Sekiro ค่อนข้างมาก ข้อดีคือระบบนี้จะค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้เล่นให้ลองฝึกฝนได้และใช้เวลาไม่นานก็ชินมือ แต่เกมก็จะมีการใส่ความสมดุลเข้ามาอย่างหนึ่งก็คือเกจความทนทานของมีดที่เราใช้ ซึ่งทุกครั้งที่เราทำการ Parry หรือนำมีดไปฟันศัตรู หรือใช้มีดในการลอบสังหารศัตรูจากด้านหลังก็จะใช้เกจที่ว่านี้จำนวนหนึ่ง ดังนั้นผู้เล่นจึงไม่สามารถนำมีดไปดัก Parry เป็นท่าหากินพร่ำเพรื่อได้ เพราะหากเกจความทนทานหมด มีดจะพังและต้องเสียเงินซ่อมกับพ่อค้า (ที่อยู่ในเกมตัวเต็ม) สถานเดียว

เกมจะมีระบบลีออนได้ย่องเดิน เข้าสู่โหมดลอบเร้นเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ไม่จำเป็น แต่ในเดโมจะมีศัตรูให้ลีออนได้ลอบสังหารศัตรูจากด้านหลังแค่ไม่กี่คนเท่านั้น และอาวุธที่ใช้ลอบสังหารในเดโมก็จะมีแต่มีดด้วย อย่างไรก็ตาม การลอบเร้นของลีออนจะมีจุดที่ชวนขัดใจอยู่บ้าง นั่นก็คือเมื่อเราเล็งอาวุธขณะที่ย่อตัวอยู่ ตัวเราจะลุกขึ้นยืนทันที ซึ่งนั่นอาจทำให้ศัตรูพบตัวเราได้อย่างที่ไม่ควรจะเป็น ทั้ง ๆ ที่ตัวละครเกมอื่นในยุคเดียวกันที่มีระบบลอบเร้นจะสามารถใช้อาวุธขณะย่อตัวหรือนอนราบไปกับพื้นก็ยังได้ เลยเป็นข้อด้อยที่เห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับเกมอื่นครับ

ทางด้านระบบการคราฟต์ไอเทมก็ยังคงมีอยู่เหมือนภาค 3 รีเมคหรือภาค Village เช่นกัน โดยของภาค 4 รีเมคนี้จะมีคำสั่ง Craft ที่ผู้เล่นสามารถดูได้ว่าวัตถุดิบชิ้นนั้นนำไปผสมกับไอเทมชิ้นไหนเพื่อสร้างไอเทมอะไรได้บ้าง ซึ่งไอเทมแต่ละชนิดที่เราต้องการคราฟต์จะใช้จำนวนวัตถุดิบที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับใครที่จำสูตรการผสมได้แล้ว เกมก็ยังมีทางลัดหรือ Shortcut ให้เรากดผสมกันแบบอัตโนมือ (Manual) ได้เลย และเป็นวิธีที่เร็วกว่าด้วย

ช่วงที่ลีออนต้องหนีเอาตัวรอดจากฝูงชาวบ้านบริเวณลานกว้างของหมู่บ้านเป็นการนำเสนอเรื่อง AI ศัตรูได้ชัดเจนที่สุด คนที่เคยเล่นตัวออริจินัลมาก่อนคงพอจำกันได้ว่าชาวบ้านจะพยายามเข้ามาหาเราทุกทิศทาง ไม่ว่าจะพาดบันไดเข้ามาทางหน้าต่าง หรือพังประตูเข้ามาตรง ๆ แต่ในภาครีเมคนี้ AI พวกชาวบ้านจะฉลาดเป็นกรด โดยพวกมันจะรู้เลย์เอาต์หรือภูมิประเทศของพื้นที่ที่มันอยู่เป็นอย่างดี รู้ว่าทางที่เราเข้าไปจะโผล่ออกทางไหนได้บ้าง ทำให้สามารถมารอเซอร์ไพรส์ดักหน้าเราได้ค่อนข้างบ่อย

พื้นที่ในเกมแม้จะมีค่อนข้างจำกัด เนื่องด้วยความเป็นเดโมก็จริง แต่พื้นที่ที่เราสำรวจได้นั้นมีเพิ่มขึ้น บางจุดของโซนลานกว้างหมู่บ้านมีการขยายซอกมุม หรือจุดซ่อนไอเทมใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา ซึ่งตอบโจทย์ผู้เล่นสายสำรวจละเอียด หรือใครที่เป็นสายบู๊ดุดันก็สามารถศึกษาทำเลเพื่อหาจุดได้เปรียบหรือทางหนีทีไล่เวลาต้องรับมือกับศัตรูที่มาเยอะ ๆ หรือเผื่อแผนสองเวลาต้องหนีไปตั้งหลักได้หลากหลายขึ้น

ทีมงานได้ทดลองเล่นบนเวอร์ชั่น PS5 ซึ่ง SSD ภายในเครื่องทำให้การโหลดใช้เวลาน้อยมาก โดยตัวเกมรองรับระบบ Ray Tracing ด้วย เวลาเล่นโหมด Performance ที่เน้นเฟรมเรต พร้อมกับเปิด Ray Tracing ไปด้วย เฟรมเรตจะอยู่แถว ๆ 57-60 FPS แต่ถ้าไม่เปิด Ray Tracing ก็จะได้เฟรมเรต 60 FPS แบบนิ่ง ๆ ตลอดเวลา ขณะที่แสงเงาและเท็กซ์เจอร์ต่าง ๆ ดูสวยงามตามคุณภาพของ RE Engine ที่ยกระดับกราฟิกเกมของ Capcom แบบก้าวกระโดดตั้งแต่ Resident Evil 7 มาก่อนแล้ว

นอกจากนี้เดโมยังมีความลับเด็ด ๆ ซ่อนอยู่ประปราย ไม่ว่าจะเป็นโหมดความยากที่มีชื่อว่า Mad Chainsaw ที่เราจะได้เจอพี่เลื่อยเวอร์ชั่นโหดขึ้น รวมถึงชาวบ้านที่แทบจะรู้ทันการเคลื่อนไหวของเราทุกฝีก้าว สามารถมารอดักหน้าทางที่เราจะหนีได้เกือบทุกครั้ง มิหนำซ้ำพวกมันยังมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไวกว่าโหมด Standard กว่าหลายเท่าด้วย แน่นอนครับว่าการปราบพี่เลื่อยในโหมด Mad Chainsaw ย่อมเป็นเรื่องท้าทายกว่าก็จริง แต่ทว่าโหมดนี้จะโผล่มาให้เล่นแบบสุ่มเท่านั้น ด้วยเหตุนี้กว่าผู้เล่นจะได้เล่นโหมดนี้สักรอบ ก็ต้องพึ่งดวงกันสักหน่อย ใครดวงดีก็รอไม่นาน หากดวงไม่เป็นใจอาจหัวร้อนกันตั้งแต่ขั้นตอนนี้เลย

ส่วนความลับอีกอย่างที่น่าสนใจก็คือปืนกล TMP ที่ยังคงมีให้ใช้ในภาครีเมคครับ ซึ่งการจะได้มานั้นต้องทำการโยนของที่มีอยู่กับตัวให้หมดก่อนจะเข้าประตูที่เป็นโซนลานกว้างหมู่บ้าน จึงจะเปิดทางลับไปเก็บปืนกลได้ แถมข้อดีอีกอย่างคือหากเก็บปืนกลมาได้แล้ว เมื่อเล่นเดโมในรอบถัดไปก็จะมีปืนกล TMP ติดตัวเรามาตั้งแต่เริ่มให้ด้วย
เอาเป็นว่าเดโมที่ได้เล่นกันไป ทำให้ชักอยากเล่นเกมตัวเต็มแล้วครับ ถ้าเป็นไปได้อยากวาร์ปไปโผล่วันที่ 24 มีนาคมนี้เลยด้วยซ้ำ ค่อนข้างมั่นใจว่าภาคนี้จะไม่ทำให้เพื่อน ๆ ผิดหวังแน่นอน
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net