ไม่ใช่ว่าประเทศไทยเพียงประเทศเดียวที่ประสบปัญหาการขาดแคลนการ์ดจอ (ถ้ามี ราคาก็จะแพงมากๆ) มันกลายเป็นปัญหาในระดับโลกไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้ทาง Nintendo ก็ออกมากล่าวว่าการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์จะส่งผลกระทบทางการตลาด แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญในวงการอุตสาหกรรมจะคาดการว่าสถานการณ์แบบนี้จะดำเนินต่อไปอีกหนึ่งปี
ทั้งนี้ทางคุณ Jensen Huang ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของทาง Nvidia ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับปัญหานี้ว่า ในปีหน้าอุปสงค์ (ปริมาณความต้องการซื้อสินค้าและบริการ) จะยังไม่มีความสมดุลกับอุปทาน (ปริมาณความต้องการเสนอขายสินค้าและบริการ) และไม่มีเวทมนตร์อันใดที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็วทันใจ ถึงแม้ว่าเราจะมีซัพพลายเออร์อยู่หลายแห่งก็ตาม และสินค้าจะถึงมือผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงและเข้าสู่สถานการณ์ปกติอาจจะต้องใช้เวลาอย่างอีก 1 ปีเป็นอย่างน้อย
แม้ว่ากำลังประสบปัญหาการขาดแคลนการ์ดจอ แต่กระนั้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทาง Nvidia ก็ยังคงมีรายรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ผู้คนทำงานอยู่ที่บ้านและจำเป็นต้องอัพเกรดคอมพิวเตอร์เพื่อรองรับการทำงาน ทำให้เราได้ผลประโยชน์จากสถานการณ์นี้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณ Jensen Huang ออกมาพูดถึงปัญหา เพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า เขาบอกว่าปัญหานี้จะลากยาวไปถึงปี 2023 เลยทีเดียว ซึ่งมันเป็นประเด็นที่ทาง CEO ของทาง Intel และ AMD ก็ได้กล่าวถึงในทิศทางเดียวกัน เรียกว่างานนี้เหล่าเกมเมอร์ได้รอกันยาวๆ ละครับ
ที่มา: gamerant.com
