พรีวิวทดลองเล่นเบต้า Battlefield 2042 ศึกสงครามรูปแบบใหม่ ในยุคอนาคต by OS

ใกล้กันมาแล้วทุกทีสำหรับเกม Battlefield 2042 ที่ในวันที่ 6-9 ตุลาคมนี้ ก็จะมีการเปิด Beta ให้ผู้เล่นได้เข้าไปทดสอบกันแล้ว โดยผู้เล่นทุกคนจะสามารถเข้าเล่นได้ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมเป็นต้นไป งานนี้หากใครยังไม่ได้เล่น เราจะมาพรีวิวตัว Beta ว่ามันเป็นยังไงกันบ้างนะครับ

สามารถรับเกมเพลย์ได้

ในส่วนของการทดสอบพรีวิวในครั้งนี้ จะเป็นโหมด Conquest ในแผนที่ Orbital นะครับ

แผนที่ใหญ่โตสุดอลังการ

จุดขายของตัวเกมภาคใหม่ก็คือการเล่นแบบ 128 คน ที่มาพร้อมกับแผนที่สุดใหญ่อลังการ การขยายพื้นที่ในการเล่นที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับอยู่ในสงครามสเกลใหญ่จริงๆ โดยในแผนที่ Orbital นั้น ก็มีตัวเลือกในการเล่นบนพื้นที่ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภายในตึกสูง พื้นที่เปิดโล่งแถวลานปล่อยจรวด โซนตึกอาคารต่างๆ และพื้นที่ภายในป่า ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกตาพอสมควรเมื่อเทียบกับตัวเกมภาคเก่าๆ กับความหลากหลายของพื้นที่ภายในการเล่นแผนที่เดียว

ความแตกต่างจาก Class เป็น Specialist

จุดที่ทำให้ความรู้สึกแตกต่างกันมากๆ ระหว่าง 2042 กับซีรีส์ภาคเก่าๆ ก็คือ การปรับเปลี่ยนเรื่องระบบคลาสส์ ที่จะแต่ก่อนอาวุธจะเฉพาะเจาะจงใน Class นั้นๆ แต่การเป็น Specialist นั้น ทำให้เราสามารถปรับแต่งทุกอย่างได้แบบอิสระ

ข้อดีของมันก็คือ ทำให้เราสามารถปรับลูกแบบการเล่นได้หลากหลาย ไม่จำกัดอยู่ในรูปแบบเดิมๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ทำให้เอกลักษณ์ของความเป็น Battlefield ในแบบเก่าๆ หายลงไปพอสมควร ซึ่งจุดนี้ก็อยู่ที่ผู้เล่นแต่ละคนจะปรับตัวกันยังไง

เช่น Sniper แม้คลาสส์หลักจะเป็นของ Casper ที่มีสกิลเรียก Drone มาบินหาศัตรูได้ แต่เราก็สามารถเล่นตัวละครอื่นอย่าง Webster ที่มีสกิล Grappling Hook ทำให้เรากลายเป็น Sniper ที่สามารถขึ้นที่สูงได้ง่ายแทน

AI ที่เปลี่ยนโฉมการเล่นของเกม

การเข้ามาของ AI นั้นกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ได้เห็นกันมานานในตัวเกมภาคหลังๆ ซึ่งด้วยขนาดของแผนที่ที่จุดคนได้มากขึ้นถึง 128 คน การมี AI เข้ามาช่วยเติมพื้นที่ในการเล่นก็ทำให้ตัวเกมไม่ดูเหงาจนเกินไปกับแผนที่ขนาดใหญ่ยักษ์ แต่กระนั้นมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย เช่นกัน

ข้อดีที่เห็นได้ชัดก็คือทำให้ตัวเกมไม่โหรงเหรง แน่นอนว่าการเล่นอย่างโหมด Conquest ในแผนที่ขนาดใหญ่ หลายครั้งที่เราจะต้องประสบปัญหาไปยึดจุดที่ร้างผู้คน การมี AI เข้ามาช่วยก็ค่อนข้างปิดจุดอ่อนในแง่นี้ได้ ถึงกระนั้นตัว AI เอง ก็มีความเก่งที่ค่อนข้างสวิงพอสมควร

หลายๆ ครั้ง แม้ AI จะวิ่งดาหน้าเข้ามา 4-5 ตัว เราก็สามารถเก็บได้ง่ายๆ แต่บางทีบทจะแม่นขึ้นมา แค่ AI ตัวเดียวก็วิ่งมายิงเราวูบได้ทันทีเช่นกัน นอกจากนี้ความเป็น AI มักจะมีสายตาที่เฉียบแหลม (ก็รู้อยู่แล้วว่าผู้เล่นอยู่ตรงไหนบ้าง) ทำให้บางทีเราแอบในมุมที่คนทั่วไปไม่เห็น แต่ AI ก็เปิดเรามาก่อนเลยก็มี อย่างมีครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนแอบบนหลังคาใช้ปืนเก็บเสียง Sniper ยิงใส่คนด้านล่าง ซึ่งผู้เล่นที่เป็นคนทั่วไปไม่มีใครเห็นเลย แต่อยู่ดีๆ ก็มี AI ตัวหนึ่งปาระเบิดมาจากไหนไม่รู้ฆ่าตายซะงั้น

โดยรวมแล้ว ตัวเกมมีการพัฒนาและปรับปรุงสิ่งใหม่ๆ เข้ามาให้มากขึ้นเมื่อเทียบกับภาคก่อนๆ แต่สิ่งที่ยังเป็นคอร์หลักเช่น การลุยในจุดปะทะที่พร้อมจะมีกระสุนจากทิศไหนไม่รู้พุ่งใส่เรา หรือจะมีเครื่องบินโฉบมาทิ้งระเบิดใส่ ความโกลาหลความวุ่นวานที่ถาโถม ก็เป็นเรื่องที่หาได้ภายใน Battlefield เท่านั้น และกลิ่นอายของมันก็ยังมีอยู่ในเกมนี้อย่างเต็มเปี่ยม