หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับ Battlefield 2042 ต่างๆ มากมาย เราก็ได้เห็นว่าตัวเกมค่อนข้างมีการพัฒนาและจุดที่แตกต่างกับเกมภาคก่อนๆ เป็นอย่างมาก ทั้งระบบคลาสแบบใหม่ แผนที่ขนาดที่ใหญ่ขึ้น และลูกเล่นอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะลึกประเด็นเหล่านี้กันนะครับ
พรีวิว Battlefield 2042 พัฒนาสู่สงครามขนาดยักษ์ พร้อมรองรับผู้เล่นถึง 128 คน
ระบบ Specialists
ในเกม Battlefield ภาคเก่าๆ อาวุธนั้นจะถูกจำกัดอยู่กับ Class ที่เราเลือก รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ แต่ในภาคใหม่นี้จะเปลี่ยนจากระบบคลาสทั่วไปเป็น Specialists ซึ่งตอนนี้ได้มีการเปิดตัวมาแล้ว 4 คน ด้วยกัน และจะมีมากถึง 10 คน เมื่อตอนเกมเปิดเลยทีเดียว เรามาดูกันดีกว่าว่า ระบบ Specialists แบบใหม่นี้ มีอะไรแตกต่างจากเดิมบ้าง
Specialties Traits คืออะไร?
Specialties Traits นั้นจะเป็นสิ่งที่ติดตัวอยู่ในตัวละครแต่ละตัวและไม่สามารถเปลี่ยนได้ ยกตัวอย่างเช่นหากคุณอยากใช้ Wingsuit บินกลางอากาศ ก็ต้องใช้ Specialties ตัวที่มีความสามารถนี้เท่านั้น จึงจะสามารถใช้ได้ แต่ก็มีสิ่งอื่นๆ นอกเหนือจาก Traits ที่สามารถแต่งได้อย่างอิสระไม่ว่าเราจะใช้ตัวละครใดก็ตาม ดังนี้
อาวุธหลัก – เช่น ปืน Assault Rifle
อุปกรณ์ – เช่น กล่องพยาบาล กล่องกระสุน
อาวุธรอง – ปืนพกต่างๆ
อาวุธขว้าง – ระเบิดประเภทต่างๆ
นอกเหนือจากนี้ทุกตัวละครยังเข้าถึงอาวุธประเภทจรวดต่างๆ เช่น RPG / SRAW / SMAW ในช่องของอุปกรณ์ได้ด้วย ทำให้เราสามารถรับมือกับยานเกราะต่างๆ ได้ทุกตัวละคร แต่ก็ต้องยอมสละอุปกรณ์อื่นๆ แทน ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับแผนและแนวทางการเล่นของแต่ละคนนะครับ
Squad สามารถมี Specialties ซ้ำกันได้หรือไม่?
ภายในเกม Battlefield 2042 นั้น Squad นึงจะจำกัดผู้เล่นอยู่ที่ 4 คน (ในโหมด Conquest และ Breakthrough) ซึ่งผู้เล่นสามารถมีตัวละครซ้ำกันได้ไม่มีปัญหา และเพื่อสร้างความแตกต่างของ Specialties ให้ไม่ซ้ำกันจนเกินไป ภายในเกมก็มีตัวเลือกให้ปรับแต่งรูปลักษณ์ของตัวละครเราได้ ทำให้เราสามารถปรับแต่งตัวละครให้มีความเป็นตัวของตัวเองได้ในรูปแบบ Skin ต่างๆ
Ranger เป็น Trait หรือ Specialty?
ภายในเกมภาค 2042 นี้ จะมีอุปกรณ์พิเศษนั่นก็คือ Ranger ซึ่งเป็นหุ่นยานยนต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งตัวละครทุกตัวสามารถเรียกใช้งานได้ ซึ่งนอกจาก Ranger แล้ว ก็จะมีตัวเลือกอื่นๆ มากมายด้วยระบบ Call-in System ซึ่งจะจำกัดจำนวนครั้งในการเรียกใช้งานในแต่ละเกม
เมื่อเรียก Ranger มาแล้ว มันจะตามและปกป้องเราเป็นอย่างดี และเราสามารถออกคำสั่งให้มันสำเร็จพื้นที่ต่างๆ ได้ด้วย พร้อมกันนี้เรายังสามารถสั่งให้มันระเบิดตัวเองได้ด้วยเช่นกัน หากสถานการณ์ไม่สู้ดี โดยทั้งหมดนี้จะเพิ่มแนวทางการเล่นใหม่ๆ ได้อย่างมากมาย เช่น แปะระเบิด C5 ไว้กับ Ranger แล้วสั่งมันวิ่งเข้าไประเบิดศัตรูเป็นต้น….
แผนที่ ที่แตกต่างจากเดิม
เนื่องจากตัวเกมที่เพิ่มขนาดพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับผู้เล่น 128 คน ทาง ทำให้เรามีการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นในโหมดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง Conquest ดังนี้
ระบบ Clustering – เป็นระบบที่จะสร้างพื้นที่ในการเล่นและจุดยึด เพื่อให้ผู้เล่นเข้ามาสู้กันภายในนั้น
ระบบ Sector – อีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะมีผลเชื่อมโยงในการยึดพื้นที่ ในการจะยึด Sector นั้น จะต้องยึดธงทั้งหมดภายในจุด ไม่อย่างนั้นจุดนั้นจะกลายเป็นพื้นที่ที่เป็นกลาง ไม่ถูกยึดเป็นของฝ่ายใด
ยกตัวอย่างเช่นเราบุกโจมตียึดธงได้ใน Sector หนึ่ง แต่แทนที่จะต้องไปวิ่งยึดจุดใหม่ไกลๆ ในภาคใหม่นี้ก็จะเป็นการไปยึดธงอื่นภายใน Sector ต่อจนครบ ซึ่งนี่จะทำให้การรบมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้นภายใน Sector นั้นๆ ก่อนที่พื้นที่นั้นจะถูกยึดจนหมด จึงเริ่มเดินทางไปสู่ Sector ต่อไป ทำให้ไม่ต้องคอยวิ่งไปๆ มาๆ เหมือนภาคเก่าๆ
อีกทั้งด้วยความใหญ่ของแผนที่ ทำให้ตัวเกมแบ่งพื้นที่การเล่นมากขึ้น อย่างเช่นในแผนที่เดียวกัน หากเราเล่น Conquest ก็จะได้เล่นในโซนหนึ่ง แต่ถ้าหากเล่นแผนที่นั้นในโหมด Breakthrough ก็จะได้เล่นในโซนอื่นที่แตกต่างกัน ทำให้การปรับเปลี่ยนโหมดไม่จำเจอีกต่อไป
ยานพาหนะต่างๆ
หากไม่มียานพาหนะต่างๆ ก็คงไม่ใช่ Battlefield แน่นอน ซึ่งในภาคนี้ก็มีการปรับปรุงให้มันสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และให้บาลานซ์ระหว่างการเล่นทหารราบและยานพาหนะ เป็นอย่างดี ดังนี้
ระบบ Call-in System
ผู้เล่นทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวละครใดก็ตาม สามารถใช้ระบบ Call-in เรียกยานพาหนะได้ทุกที่ ซึ่งสิ่งที่เรียกได้จะแตกต่างกันไปตามแผนที่และต้องใช้แต้มในการเรียกด้วย และเมื่อเรียกแล้วจะติดคูลดาวน์เพื่อให้ผู้เล่นอื่นสามารถมีโอกาสเรียกได้ด้วยเช่นกัน (ป้องกันการสแปม)
นอกจากนี้ในแต่ละฝั่งก็จะมียานพาหนะเฉพาะทางที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย และนอกจากบนบกและบนอากาศแล้ว เรายังมียานพาหนะประเภทเรือด้วยเช่นกัน แต่ในปัจจุบันนี้เรายังไม่ได้เน้นในส่วนของการรบทางน้ำเท่าไหร่นัก แต่ในอนาคตก็อาจจะมีข้อมูลเพิ่มเติมให้ได้เห็นเช่นกัน
ระบบ AI
อีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนน่าจะทราบกันแล้ว หากติดตามข้อมูลกันมาว่าตัวเกมในภาค 2042 จะมี AI ภายในฉากด้วย ซึ่งมันจะแตกต่างในแต่ละโหมดกันดังนี้
- Multiplayer – AI ทหารจะถูกใช้เพื่อเติมเต็มพื้นที่ว่างในขณะเล่น ทำให้ผู้เล่นสามารถหาห้องได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ามีผู้เล่นจอยเข้าห้องมา ก็จะเข้ามาแทนที่ AI ทันที
- Co-Op – เราสามารถร่วมเล่นกับเพื่อนเพื่อสู้กับ AI อย่างเดียวได้โดยเฉพาะ
- Solo – ผู้เล่นสามารถเล่นคนเดียว เพื่อสู้กับ AI ทั้งฉากได้ด้วยเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่ หรือใครที่อยากทดสอบบางอย่าง โดยที่ไม่ต้องไปกดดันแข่งขันกับผู้อื่น
AI นั้นจะเล่นเหมือนกับคนทั่วไปแทบทุกอย่าง และมีการตัดสินใจอยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบุกปะทะโดยตรง อ้อมเข้าโจมตีด้านหลังศัตรู รวมไปถึงการชุบเพื่อนร่วมทีม มีเพียงอย่างเดียวที่แตกต่างกับคนก็คือ AI จะไม่สามารถใช้ความสามารถ Specialties และ Traits ได้ แต่นอกเหนือจากนั้นเช่น การใช้ระบบ Call-In เรียกรถ การเข้าบุกยึดพื้นที่ มันสามารถทำได้ทั้งหมด
นี่ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาใหม่ๆ ภายในเกม Battlefield 2042 นี้ ถือได้ว่าตัวเกมมีการเปลี่ยนแปลงที่พัฒนามากกว่าภาคเก่าๆ ค่อนข้างมากเลยทีเดียว งานนี้แฟนๆ ซีรีส์นี้บอกเลยว่าห้ามพลาดจริงๆ
