Twelve Minutes เป็นเกม Adventure ขนาดเล็กราคา 329 บาทบน Steam, 25 ดอลลาร์บน Microsoft Store, และฟรีสำหรับสมาชิก Xbox Game Pass ที่เอารูปแบบการเล่นของเกมแนว Point & Click มาผสมกับโครงเรื่องของชายผู้ติดอยู่ในลูป 12 นาทีล่าสุดหลังจากที่เขากลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง
ซึ่งหน้าที่ของผู้เล่นก็คือหาคำตอบให้ได้ว่าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นจากอะไร และทำยังไงเราถึงจะหลุดพ้นจากลูปนรกนี้ไปได้...
แพลตฟอร์ม: Xbox One, Xbox Series X, PC
ผู้พัฒนา: Luis Antonio
ผู้จัดจำหน่าย: Annapurna Interactive

ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นตัวละครหลักของ Twelve Minutes แค่สามคน คือสามีที่ให้เสียงพากย์โดย James McAvoy, ภรรยา Daisy Ridley, และ Willem Defoe ในบทตำรวจที่บุกเข้าอพาร์ตเมนต์มากล่าวหาภรรยาของเราในคดีฆาตกรรม ถ้าเราถูกฆ่า ลูปจะถูกรีเซ็ต ถ้าเราเดินออกนอกอพาร์ตเมนต์ ลูปจะถูกรีเซ็ต หรือถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไปจนครบ 12 นาที… ใช่ครับ ลูปก็จะถูกรีเซ็ต

สิ่งที่เราในฐานะผู้เล่นจะสามารถทำได้ในเกมนี้ก็คือ ใช้ตัวละครสามีสำรวจสิ่งของและจุดน่าสนใจต่าง ๆ ภายในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ที่ถูกแบ่งออกเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องนอน หรือจะนับตู้เสื้อผ้าเป็นอีกห้องไปด้วยก็ได้ โดยที่วัตถุบางชิ้นจะสามารถนำมาใช้กับคนหรือวัตถุชิ้นอื่น ๆ ได้ ถ้าจะให้ยกตัวอย่างโดยที่ไม่เป็นการสปอยล์ก็อย่างเช่นเอาแก้วไปเติมน้ำแล้วมารดต้นไม้ หรือเอามีดไปแทงตำรวจที่บุกเข้ามาในห้อง ซึ่งการที่เกมถูกจำกัดอยู่ในลูปแบบนี้ก็เอื้อให้เราอยากลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่ามันจะส่งผลเสียต่อการดำเนินเรื่องหรือเปล่า เพราะถ้าลูปนี้ยังได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ ลูปต่อไปก็ยังมีอะไรให้ทดลองได้อีก ฉะนั้นความตายหรือกำหนดเวลาจึงจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวกำหนดความล้มเหลวของผู้เล่น แต่จะเป็นการปวดหัวเพราะคิดไม่ออกว่าจะทดลองอะไรเพื่อให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปได้มากกว่า

สำหรับแง่ของความอิสระในการใช้ความคิดที่ควรเป็นองค์ประกอบสำคัญของเกมแนวนี้ แม้ว่าเราจะสามารถลองผิดลองถูกไปกับการเลือกบทสนทนาระหว่างตัวละคร หรือเอาของชิ้นนึงไปทำอะไรบางอย่างกับของอีกชิ้นนึงได้ โดยที่บางทีมันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเนื้อเรื่องเสมอไปได้ก็จริง แต่บางทีเกมก็จะบังคับให้เราต้องคุยกับตัวละครไปตามสคริปต์ที่ถูกกำหนดเป็นขั้น ๆ ไว้ก่อน แม้ว่าเราจะมีเบาะแสที่สามารถเร่งรัดเหตุการณ์ไปยังประเด็นที่จะสามารถคลายปมบางอย่างของเนื้อเรื่องได้แล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้น เสียงพากย์จากนักแสดงมืออาชีพทั้งสามคนก็ทำให้บทสนทนาถูกถ่ายทอดออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ Willem Defoe ในบทตำรวจที่การพากย์มีน้ำเสียงที่เกื้อหนุนไปกับบทพูดในหลาย ๆ สถานการณ์ที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน แม้ว่าการพากย์ของทุกตัวละครจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่สิ่งอาจขัดอารมณ์ในการดำเนินเรื่องก็คือ หากเราเปลี่ยนประเด็นในการสนทนาแบบปุบปับ น้ำเสียงและอารมณ์ของตัวละครนั้น ๆ ก็อาจเปลี่ยนไปมาอย่างปุบปับได้เช่นกัน อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าสคริปต์การพูดคุยระหว่างตัวละครที่จะส่งผลต่อการดำเนินเรื่องนั้นถูกกำหนดเป็นขั้น ๆ เอาไว้อย่างตายตัว ดังนั้นก็อาจจะมีบ้างที่บางทีเรากำลังทะเลาะกับภรรยาอย่างดุเดือด แต่พอเปลี่ยนประเด็นที่จะถามปุ๊บ เธอก็กลายเป็นคนใจเย็นขึ้นมาเสียอย่างนั้น จนบางทีก็อาจทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่านี่เรากำลังคุยกับคนที่เป็นไบโพลาร์อยู่หรือเปล่า หากเกมมีการเพิ่มบทพูดที่จะเป็นตัวขั้นระหว่างการสนทนาแต่ละประเด็นที่ไม่ต่อเนื่องกัน หรือมีการพากย์ประโยคเดิมด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกันออกไปบ้าง มันอาจให้อรรถรสที่ดีในการเล่นได้มากกว่านี้

สิ่งที่ Twelve Minutes สามารถทำได้ดีคือการวางคอนเซปต์ของเรื่องราวและจังหวะในการถ่ายทอดเหตุการณ์ที่ค่อย ๆ เผยความจริงให้ผู้เล่นรู้ รวมถึงการแฝงนัยยะไว้ตามบทพูดของแต่ละตัวละคร รวมถึงสภาพแวดล้อมและประดับฉากต่าง ๆ ทำให้เราเห็นว่าผู้สร้างได้รับแรงบรรดาลใจมาจากภาพยนตร์แนว Thriller ค่อนข้างมาก และสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าจะให้มองว่ามันเป็นเกมแล้ว รูปแบบการควบคุมบางอย่างกลับยังทำออกมาได้ไม่ดีนัก เช่นการเคลื่อนไหวของตัวละครที่บางทีก็เก้ ๆ กัง ๆ เหมือน The Sims บางบทสนทนาในช่วงท้ายก็ไม่สามารถกดเร่งได้ แม้ว่าเราจะได้ยินมันมาหลายต่อหลายลูปแล้วก็ตาม ทำให้เกมมีจุดที่น่าเบื่ออย่างไม่น่าจะเป็น แต่อย่างไรก็ตาม จังหวะในการถ่ายทอดเนื้อเรื่องที่ค่อย ๆ เผยความลับทำให้เราอยากรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละลูปก็พอที่จะทำให้เรามองข้ามข้อเสียต่าง ๆ เหล่านี้ไปได้

คะแนน 7/10
รีวิวโดย อาร์ม Pirawits
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net/