สำหรับ Into the Haze เป็นเกมแนวเอาตัวรอดบนโลกที่ล่มสลาย คุณจะได้รับบทเป็นชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาบนตึกสูงบนดาดฟ้าชั้น 40 ที่อยู่ในเมืองร้างที่ปกคลุมไปด้วยหมอกพิษ หน้าที่อย่างเดียวคือต้องทำอย่างไรถึงจะมีชีวิตรอดผู้เล่นจำเป็นต้องสำรวจภายในตึกเพื่อหาอาหารและน้ำดื่มเพื่อเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นี้ให้ได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมฝีมือคนไทยที่น่าสนใจเอามากๆ และในวันนี้ทางทีมงาน Online Station ได้มีโอกาสสัมภาษณ์หนึ่งในทีมผู้พัฒนาเกม ซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมกันครับ
Q: รบกวนแนะนำชื่อและตำแหน่งหน่อยครับ
A: สวัสดีครับ ผมชินพัฒน์ ศรีใสดี (ตาณ) ตำแหน่ง Game Producer โดยในตัวโปรเจ็คผมจะรับผิดชอบหน้าที่ในการควบคุมไทมไลน์, ภาพ, และทรัพยากรบุคคลเป็นหลักครับ ส่วนของเกมเพลย์และเนื้อหาภายในเกมจะมี Game Director อีกคนเป็นผู้ดำเนินการควบคุมทั้งหมดครับ
Q: อะไรคือแรงบันดาลใจในการพัฒนาเกมแนวเอาชีวิตรอด
A: จุดเริ่มต้นมาจากการนำไอเดียของ Game Director ในสมัยที่เราเพิ่งรู้จักกันเมื่อประมาณสามปีก่อน เคยนำมาเสนอตอนที่เราสัมภาษณ์งานกันครับว่าอยากทำเกมแนว Survival ที่สลับด้านจากคนอื่นๆ ที่หนีขึ้นไปที่สูง แต่เราหนีลงที่ต่ำด้วยความจำเป็นบางอย่าง แล้วนำมาขยายออกและเริ่มต้นทำกันจริงๆ จังๆ ปรับเปลี่ยนมาจนเป็น Into The Haze ในวันนี้
Q: ตัวเกมมีจุดเด่นตรงไหนบ้าง
A: ภาพลักษณ์เชิง Realistic ที่ทอนความเรียลลงไปเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากเกมอื่นๆ และการเล่นเพื่อแก้สถานการณ์ตรงหน้าเพื่อไปถึงจุดจบที่ตัวละครตั้งเป้าไว้ครับ
Q: รบกวนช่วยเล่าเนื้อเรื่องคร่าวๆ ของตัวเกมให้หน่อยครับ
A: ตัวละครหลักของเราเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่ในตึกสูงแห่งหนึ่งกลางเมืองที่หนีรอดมาจากไอหมอกปริศนาที่ผุดออกมาตามท่อระบายต่างๆ จนขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าที่เคยเป็นสถานที่เก็บของซ่อมบำรุงอาคารด้วยความสับสน หลังจากรออยู่เฉยๆ มาได้ 2 วัน อาหารการกินสำรองเริ่มหมดไป เขาจึงต้องพยายามหาของประทังชีวิตจากภายในชั้นล่างของอาคาร และพยายามสื่อสารกับหน่วยกู้ภัยในเวลาที่นัดหมายกันไว้ เพื่อหนีรอดออกไปจากเมืองนี้ให้ได้
Q: มีทีมพัฒนาทั้งหมดประมาณกี่คนครับ
A: เริ่มต้นที่ 8 คนครับ ปัจจุบันทยอยเพิ่มมาเรื่อยๆ อยู่ที่ 14 คน
Q: ตัวเกมใช้เอนจิ้นอะไรในการพัฒนาและยากมากหรือป่าวครับ
A: เราใช้ Unreal Engine 4 ในการพัฒนาครับ ทางด้านศักยภาพในการเร็นเดอร์มันค่อนข้างสูงในตัวเองอยู่ระดับนึงอยู่แล้วจึงยังเรียกได้ว่าไม่ถึงกับยากมากครับ จุดที่ยากจะเป็นการ Optimization และการดัดแปลงจากจุดที่เอ็นจิ้นเสิร์ฟมาให้แต่แรกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมากกว่า
Q: ตัวเกมรองรับระบบมัลติเพลเยอร์หรือไม่ครับ
A: ตอนนี้ตอบได้ว่ายังครับ แต่มีแผนว่าอยากจะพัฒนาเพิ่มในอนาคตอยู่ครับ
Q: ตัวเกมจะวางขายบน Steam ประมาณเมื่อไหร่ครับ
A: ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ครับ
Q: ในช่วงนี้มีการระบาดของ โควิด 19 ส่งผลอย่างไรต่อการพัฒนาเกมบ้างครับ
A: น่าจะเป็นเรื่องของกำลังใจครับ ไม่ว่าจะด้วยการเดินทาง หรือการหาของกินระแวกรอบที่ทำงานก็ตาม เราเคย Work from home กันอยู่ประมาณ 3 เดือนช่วงต้นปี แต่รู้สึกถึงความเหงาและความห่างเหิน เลยเลือกที่จะกลับมาทำที่ออฟฟิศกันครับ (ยกเว้นในเคสคนที่มีความเสี่ยงยังคงต้อง WFH กันไป)
Q: ตัวเกมจะลงเครื่องคอนโซลอย่าง PS5 ด้วยหรือป่าวครับ
A: ถ้าเป็นไปได้ก็อยากพัฒนาใน PC ให้สุดทางก่อนครับ ส่วนเรื่องการพอร์ทลงแพลทฟอร์มอื่นให้เป็นเรื่องของโอกาสในอนาคตไปก่อนครับ
สุดท้ายนี้ทางทีมงาน Online Station ขอขอบคุณทางทีมงาน MSOFT ที่สละเวลามาให้สัมภาษณ์พิเศษในครั้งนี้ด้วยครับ
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของเกม Into the Haze ได้ที่ลิงค์ Steam