รู้จักกับ Zack หนึ่งในตัวละครสำคัญใน Final Fantasy 7 กับบทบาทที่เปลี่ยนไป

Zack Fair ทหารชั้นเฟิสต์คลาส หนึ่งในตัวละครสำคัญของโลก Final Fantasy 7 ที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวละครหลักอย่าง Cloud และ Aerith ถึงแม้ว่า Zack จะมีอดีตที่น่าเศร้าและมีจุดจบที่น่าสงสาร แต่ในภาค Final Fantasy 7 Remake บทบาทของ Zack กลับไม่ใช่เรื่องราวที่แฟน ๆ ต้นฉบับคุ้นเคย เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาและความประหลาดใจจนโลกออนไลน์สะเทือนไปทั้งโลกกันเลยทีเดียว

สำหรับคนที่เล่นภาค Remake จบแล้วก็คงจะรู้กันดี

ในบทความนี้จะมีการกล่าวถึงในช่วงท้ายของเกม ถ้าใครยังเล่นไม่จบก็อย่าเพิ่งเลื่อนลงไปดูนะ!

เรื่องราวของ Zack ในเกม Final Fantasy 7 ต้นฉบับ

Zack เป็นหนึ่งในทหารเฟิสต์คลาสผู้เป็นเพื่อนของ Cloud ซึ่ง Cloud ให้ความเคารพนับถือ Zack เป็นอย่างมากเพราะทั้งคู่ต่างเป็นเด็กบ้านนอกที่เข้ามาทำงานใน Shinra นั่นเอง Zack ปรากฏตัวครั้งแรกในรูปแบบความทรงจำของ Cloud เป็นการเฉลยปมใหญ่สุดอีกหนึ่งเรื่องในภาคต้นฉบับ ซึ่งเหตุการณ์สำคัญของ Zack คือการไปทำภารกิจที่เตา Mako กับ Cloud และ Sephiroth ในเมือง Nibelheim หลังจากที่ Sephiroth สติแตกออกอาละวาดเผาเมืองเพราะรู้ความจริงอันน่าเศร้าเกี่ยวกับตัวเอง Zack ก็เลยเข้าไปปะทะกับ Sephiroth แต่ก็พ่ายแพ้จนหมดสภาพ

เมื่อ Cloud ได้ตามมาช่วย Zack ก็ได้สั่งให้ Cloud ไปจัดการกับ Sephiroth แม้ว่าตอนแรก Cloud จะโดนดาบของ Sephiroth แทงก่อน แต่ Cloud ก็สามารถเหวี่ยง Sephiroth ตกไปยังเตาไลฟ์สตรีมด้านล่างได้ หลังจากนั้น Zack ก็ได้ตามออกมา แต่บาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้กับ Sephiroth หนักเกินไปทำให้ทั้งคู่หมดสติ

พอบริษัท Shinra เข้ามายังที่เกิดเหตุ ทั้งคู่ก็ได้ถูกนำตัวไปเป็นมนุษย์ทดลองเกี่ยวกับทฤษฎี Jenova ของด็อกเตอร์ Hojo โดย Zack และ Cloud ถูกฉีดเซล Jenova เข้าไปในตัวและถูกขังอยู่ในหลอดทดลองนานถึง 5 ปี

หลังจากผ่านไป 5 ปี Zack และ Cloud สามารถหลบหนีออกมาได้สำเร็จ โดย Zack เป็นคนพา Cloud ที่ยังไม่ค่อยรู้สึกตัวออกมาจากตึก Shinra เมือง Nibelheim จน ทาง Shinra รู้เรื่องการหลบหนีก็ได้ออกคำสั่งไล่ล่าตัวทั้งสองคนนั้นทันที

Zack กับ Cloud นั่งรถคุณลุงท่านหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยัง Midgar ซึ่งเหตุผลที่ Zack เลือกไป Midgar ก็เพราะว่าที่นั่นมี “เด็กสาวคนหนึ่ง” ที่เขารู้จักและอยากพบเธออีกครั้ง แต่เนื่องจากไม่มีเงิน Zack เลยบอกกับ Cloud ที่ยังไม่ได้สติว่าเขาจะเป็นนักรับจ้างสารพัดที่นั่น

แต่ทว่าทางบริษัท Shinra ก็ได้ตามมาถึงตัว Zack เลยพา Cloud ลงจากรถคุณลุงเพื่อหนี แต่จนแล้วจนรอด Zack ก็ตัดสินใจเผชิญหน้ากับกองทัพทหารอันมหาศาลของ Shinra และนำ Cloud ไปแอบไว้ สุดท้าย Zack ได้เสียชีวิตที่นั่น

เมื่อ Cloud รู้สึกตัวอีกครั้งก็ช็อคเป็นอย่างมากที่เห็นร่าง Zack นอนแผ่ท่ามกลางกองเลือด Cloud จึงจับดาบ Buster Sword ของ Zack ไว้อย่างมั่น และจากความต้องการที่จะเป็นทหารที่ดีอย่าง Zack เซล Jenova ในตัวจึงทำให้ความทรงจำบางส่วนของ Zack เป็นส่วนหนึ่งของ Cloud และทำให้ Cloud เข้าใจผิดว่าตัวเองคือทหารแบบ Zack

เรื่องราวของ Zack ในเกม Crisis Core: Final Fantasy 7

สำหรับเรื่องราวในเกมนี้จะเป็นเหตุการณ์ 7 ปีก่อนเกม Final Fantasy 7 โดยจะโฟกัสไปที่ตัวละคร Zack โดยเฉพาะ ซึ่งรายละเอียดที่เพิ่มเติมเข้ามานั้นเราจะได้รู้ว่า Zack พบกับ Aerith ครั้งแรกที่สลัมเพราะตกจากเพลตด้านบน ก่อนจะทำความรู้จักมากขึ้นด้วยการเตาะสาวเดทหนึ่งครั้งเป็นการตอบแทน ?! ในภายหลัง Zack ก็รู้ได้ว่า Aerith อาศัยอยู่ที่นี่พร้อมกับการสอดส่องจากบริษัท Shinra นอกจากนี้ Zack ยังได้รู้อีกว่า Aerith “เกลียดท้องฟ้า” กลัวว่าจะถูกท้องฟ้ากลืนกินเข้าไป เนื่องจากเธออยู่ในสลัมมาโดยตลอด

นอกจากนี้ Zack ยังมีทหารรุ่นพี่ที่เคารพรักอย่าง Angeal เปรียบเสมือนพี่ชายที่แสนดี มีดาบ Buster Sword เป็นอาวุธประจำตัว ก่อนจะส่งมอบให้ Zack ในเวลาต่อมา เพื่อสืบทอดเกียรติแห่ง SOLDIER และส่งต่อไปยัง Cloud อีกทีอย่างที่เรารู้กันในภาคหลัก และ Remake

ในภาค Crisis Core เราจะเห็นได้ว่า Zack มักจะเข้าๆ ออกๆ ในเขตสลัมอยู่บ่อยครั้ง เพราะไปพบกับ Aerith บ่อยครั้งเมื่อมีเวลาว่างจากการทำงาน ก่อนที่สุดท้าย Zack โดนจับตัวไปหลังออกไปทำภารกิจกับ Sephiroth จนเกิดเหตุการณ์เผาเมือง Nibelheim จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

เวลาผ่านไป 5 ปี Zack ตื่นขึ้นมาอีกครั้งพา Cloud หนีออกมา เราจะทราบเรื่องราวได้ว่าตลอดเวลา 5 ปี Aerith ได้พยายามส่งจดหมายหา Zack มากถึง 89 ฉบับ Tseng เก็บไว้ 88 ฉบับก่อนจะบอก Cissnei ให้ออกตามหา Zack ซึ่งข้อความที่ Aerith เขียนไว้ในจดหมายฉบับที่ 89 คือ “อยากอยู่กับนายมากกว่านี้” ทำให้ Zack รับรู้ว่าเวลามันผ่านไปหลายปีแล้ว และจดหมายฉบับที่ 89 คือฉบับสุดท้ายที่ส่งมาหาทำให้ Zack ต้องเดินทางไปยัง Midgar เพื่อพบกับ Aerith ให้ได้ แต่ทว่า Zack ก็ไม่สามารถไปถึงที่หมายได้อย่างที่เรารู้กัน

ในฉากที่ Zack เผชิญหน้ากับกองทัพทหาร Shinra มีจุดที่แตกต่างจากต้นฉบับเล็กน้อยคือ Zack มีการพูดว่า “อิรัชชัยมาเซ!” (คำพูดของ Angeal) ก่อนที่จะเอาตัวเข้าไปปะทะและถูกยิงจนเสียชีวิต และ จุดที่แตกต่างอีกอย่างก็คือตอนที่ Cloud รู้สึกตัวแล้ว Zack ยังคงมีสติอยู่และสามารถพูดกับ Cloud ได้เล็กน้อย ก่อนจะฝากความฝันและความหวังไว้ที่ Cloud แล้วสิ้นใจจากไป

เรื่องราวของ Zack ในเกม Final Fantasy 7 Remake

แม้ว่าจากเนื้อเรื่องต้นฉบับในตอนหลบหนีออกจาก Midgar จะยังไม่มีการพูดถึง Zack แต่สำหรับภาค Remake กลับมีการย้อนอดีตช่วงที่ Zack กำลังจะเดินทางไปยัง Midgar หลังจากหนีออกจากตึก Shinra และเผชิญหน้ากับกองทัพทหารจำนวนมากในช่วง Chapter 18 และฉากจบของเกม

ซึ่งสิ่งที่แตกต่างต้นฉบับอย่างยิ่งยวดจนเป็นที่สะเทือนโลกออนไลน์ก็คือ “Zack สามารถเอาชนะกองทัพทหาร Shinra ได้และมีชีวิตรอด” และประโยคที่พูดว่า “Cloud นายเห็นไหม?” ก็เป็นประโยคที่ Zack พูดตอนยังพอมีแรงเดินไม่ได้นอนจมกองเลือดแบบภาค Crisis Core หลังจากนั้นก็ได้เกิด “ระเบิด” ของเหล่า Whisper ปกคลุมอยู่ข้างหลังและพอสงบลงท้องฟ้าก็กลับมาสดใสมองเห็นเมือง Midgar อย่างชัดเจน

ผ่านไปไม่นานฝนก็เริ่มตกและ Zack ก็ได้แบกร่าง Cloud เตรียมมุ่งหน้าไปยัง Midgar พร้อมกับพูดว่า “อีกนิดเดียว Cloud อีกนิดเดียว”

และช่วงปัจจุบันพวก Cloud ที่กำลังเดินทางออกจาก Midgar ฝั่ง Aerith ก็กลับสัมผัสได้ว่าตรงที่แห่งนี้ “เคยมี Zack เดินประคอง Cloud มุ่งหน้าไปที่ Midgar”

ทำให้คิดได้ว่าช่วงเวลาที่ Zack มีชีวิตอยู่นั้นไม่ใช่ช่วงเวลาในโลกปัจจุบันทั้งภาค Remake และต้นฉบับ แต่เป็น “โลกคู่ขนาน” ที่ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าอนาคตของ Zack ที่รอดกลับมาได้จะเป็นอย่างไร ไม่แน่ว่าเนื้อเรื่องส่วนนี้อาจจะมีการอธิบายเพิ่มเติมในเกม Final Fantasy 7 Part ต่อไปก็ได้

ตอนฉากที่เปิดตัว Zack ในภาคนี้ก็มีการเน้นโลโก้ Stamp ที่สุนัขมาสค็อตนั้นเป็นคนละแบบกันด้วย อาจจะการันตีได้เลยว่าทฤษฎีโลกคู่ขนานที่หลายคนคิดนั้นเป็นเรื่องจริง

นอกจากนี้หลังจากที่ Aerith สัมผัสถึงตัวตนของ Zack ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง เธอก็ได้พูดคำพูดที่เคยบอกกับ Zack ไว้ด้วยนั่นคือ “ท้องฟ้า…เกลียดชะมัดเลย” (ส่วนฉบับภาษาอังกฤษพูดว่า “ฉันคิดถึงท้องฟ้าเหล็ก” แต่จะประโยคไหนต่างก็สื่อถึง Zack ด้วยกันทั้งนั้น เพราะผ่านพ้นฟ้าแบบนี้ไปก็จะเจอกับ ท้องฟ้าแจ่มใส Fair ตามนามสกุลของ Zack นั่นเอง)