รู้จักกับ Ninja Gaiden หนึ่งในเกมที่กลับมาปังได้จากการรีบูต

ยุคหลังมานี้ หากพูดถึงเกมนินจาที่เพิ่งมีการทำออกมาแล้วปัง หลายคนน่าจะนึกถึงเกม Sekiro: Shadows Die Twice กันเป็นส่วนใหญ่นะครับ แต่ถ้าเรานับย้อนไปจนถึงปี 2004 วงการเกมเคยมีเกมนินจาอยู่ซีรีส์นึงที่ถูกนำมารีบูตใหม่ หลังจากที่เคยถือกำเนิดกับตู้เกมหยอดเหรียญ แล้วกระโดดไปสร้างชื่อกระทั่งเสื่อมความนิยมไปในยุคเครื่อง Famicom นั่นก็คือซีรีส์ Ninja Gaiden นั่นเอง

(ล่าง) ปกเกม Ninja Gaiden เวอร์ชั่นแรกสุดที่ลง Xbox

(ล่าง) ปกเกม Ninja Gaiden Sigma เวอร์ชั่นพอร์ตที่ลง PS3

โดยในวันที่ 2 มีนาคมของปีนี้ก็ถือเป็นวันครบรอบ 16 ปีของการวางจำหน่ายเกม Ninja Gaiden เวอร์ชั่นรีบูตครั้งแรกบนเครื่อง Xbox พอดีครับ เราจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับรายละเอียดและความเป็นมาของเกมนี้กันสักหน่อย มาชมกันโลด

คุณโทโมโนบุ อิตางาคิ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Team Ninja ที่เป็นค่ายผู้พัฒนาเกมนี้ได้ประกาศว่าทางสตูดิโอกำลังมีโครงการพัฒนาเกมที่เป็น Ninja Gaiden แห่งยุคสมัยใหม่เมื่อปี 1999 โดยตอนแรกคุณอิตางาคิและทีมงานได้วางแผนไว้ว่าจะให้เกมนี้วางจำหน่ายบนเครื่อง Dreamcast ของ Sega ทว่าเนื่องด้วยยอดขายของ Dreamcast ที่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงทำให้ Sega ต้องยุติสายการผลิตเครื่องไปในที่สุด

ต่อมา ทาง Koei Tecmo ที่เป็นบริษัทแม่เลยคิดจะเปลี่ยนให้เกม Ninja Gaiden โยกไปลงให้กับ PS2 แทน แต่แล้วจู่ ๆ ก็ไม่รู้ไปมีอะไรไปดลใจคุณอิตางาคิเข้า เพราะหลังจากนั้นไม่นาน แกก็ออกมาเผยว่าตนเองรู้สึกประทับใจกับชุดพัฒนาเกม (DevKit) ของเครื่อง Xbox มาก พร้อมกับสั่งให้ลูกทีมทุกคนเบนเข็มมาทำเกมนี้ลง Xbox แทน ข่าวนี้เลยสร้างความประหลาดใจกับวงการเกมเป็นอย่างมาก เนื่องจากปกติแล้วนักพัฒนาเกมของญี่ปุ่นมักจะให้ความสนใจในการพัฒนาเกมลงบนแพลตฟอร์มที่เป็นสัญชาติญี่ปุ่นมากกว่า (ขณะนั้นคือ PS2 ของ Sony หรือ GameCube ของ Nintendo)

สตูดิโอ Team Ninja กล่าวว่าเนื้อเรื่องของ Ninja Gaiden เวอร์ชั่นรีบูตจะใช้จักรวาลร่วมกับเกม Dead or Alive โดยโลเคชั่นหลัก ๆ ในเกมจะอยู่ในญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ และสิ่งปลูกสร้าง สถาปัตยกรรมต่าง ๆ จะได้รับอิทธิพลมาจากยุคเฮอัน ที่เคยรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 11 ผสมผสานกับอาณาจักร Vigoor ที่ใช้ศิลปะสไตล์โกธิคตะวันตกในการดีไซน์ นอกจากนี้ เหตุการณ์ในภาครีบูตจะเกิดก่อนเหตุการณ์ในภาคที่เคยลง Famicom ด้วย

ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น ริว ฮายาบุสะ นินจาระดับพระกาฬที่ต้องบุกรังศัตรูเพื่อไปชิงเอาดาบที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา และล้างแค้นให้กับพรรคพวกที่ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งริวนั้นเป็นหนึ่งในตัวละครที่เปรียบเสมือนมาสค็อตของค่าย Koei Tecmo นอกเหนือไปจากบรรดาสาว ๆ สุดเซ็กซี่จากเกม Dead or Alive ที่เป็นเกมไฟท์ติ้ง

เวอร์ชั่นรีบูตมีการปรับปรุงให้ตัวละครริวมีความสามารถมากมายเหมือนนินจาจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดชิ่งกำแพง ไต่กำแพง โหนตัวจากเสานึงไปอีกเสา ปาดาวกระจาย หรือวิ่งข้ามลำน้ำ นอกจากนี้ในส่วนของการต่อสู้ยังพัฒนาให้มีสปีดเกมเร็วปรู๊ดปร๊าดฉับไวเหมือนการต่อสู้ของนินจาจริง ๆ รวมถึงมีการสอดแทรกการไขปริศนาตามฉากที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกม The Legend of Zelda

หลังวางจำหน่าย Ninja Gaiden บน Xbox ไปได้ 1 เดือน ตัวเกมสามารถทำยอดขายในฝั่งตะวันตกได้กว่า 360,000 ชุด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ Xbox ในเวลานั้นไม่ใช่เครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ช่วงนั้น PS2 กำลังครองตลาด) อีกทั้งยอดขายในญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทาง Koei Tecmo เลยต้องเร่งแก้ปัญหาด้วยการพอร์ตเกมมาลงเครื่อง PS3 ในเจเนอเรชั่นถัดมา พร้อมเปลี่ยนชื่อเกมเป็น Ninja Gaiden Sigma และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้ดูน่าสนใจมากขึ้น โดยเมื่อถึงเดือนเมษายน 2008 ปรากฏว่ายอดขายรวมของ Ninja Gaiden และ Ninja Gaiden Sigma ก็พุ่งทะลุถึงประมาณ 1.2 ล้านชุดได้สำเร็จ (นับรวมทั่วโลก และทุกแพลตฟอร์ม)