Sekiro: Shadows Die Twice เมื่อการท้าทายตัวเองนำไปสู่การ "เสพติดความยาก"

แชร์เรื่องนี้:
Sekiro: Shadows Die Twice เมื่อการท้าทายตัวเองนำไปสู่การ "เสพติดความยาก"

     สิ่งหนึ่งที่เกมจากค่าย FromSoftware มอบให้ผู้เล่น ไม่ใช่แค่ความสิ้นหวังในความยากของเกมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความรู้สึกอิ่มเอมเมื่อเราสามารถฟันฝ่าความยากนั้นและเอาชนะมันได้ ความรู้สึกตื่นเต้นในการสู้บอสและช่วงเวลาความเป็นความตายที่ตัดสินว่าจะสู้ผ่านไปได้หรือต้องกลับมาสู้กับมันใหม่อีกครั้ง นั่นเป็นความรู้สึกที่เกม Sekiro: Shadow Die Twice ได้มอบให้กับตัวผมเองในการเล่นครั้งแรก

     เกริ่นก่อนเลยว่าตัวผู้เขียนเองได้จบ Sekiro มา 2 รอบแล้ว ซึ่งในการเล่นรอบนั้นทำให้ค้นพบว่าความรู้สึกตื่นเต้นในความยากของเกมแทบจะหมดไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งเหล่าบอสที่ชวนตื่นเต้นเลือดสูบฉีดอะดรีนาลีนพุ่งพล่าน หรือความรู้สึกดีใจสุดๆ เวลาที่ชนะผ่านมันมาได้ ทั้งหมดนั้นแทบจะไม่เหลือเลยในการเล่น New Game+ เพราะตัวเราได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองในจุดนั้นมาได้แล้ว (อ่านบทความเต็มได้ที่นี่ : คลิก) และถึงแม้คุณจะสามารถทำให้เกมยากขึ้นได้ใน NG+ ด้วยการคืนเครื่องรางของคุโร่รวมไปถึงการตีระฆังที่วัดเซ็มโปจิเพื่อทำให้ตัวเกมมีความยากขึ้นก็เป็นเรื่องดีสำหรับคนที่ต้องการความท้าทายอีกครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้รูปแบบของตัวเกมต่างจากเดิมสักเท่าไหร่

การจบเกมในการเล่น NG+ นั้น ผ่านได้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ

     แต่ในการเล่น NG+2 จู่ๆ ตัวผมก็ได้เกิดไอเดียขึ้นมาว่า "ถ้าเกมมันยังยากไม่พอ ทำไมเราไม่ลองชาเลนจ์ตัวเองไปในระดับที่เรายังทำไม่ได้ล่ะ?" และนั่นทำให้ผมเริ่มคิดที่จะสู้บอสทุกตัวภายในเกมแบบ No Damage ขึ้นมาซะอย่างนั้น และเจ้าสิ่งนี้ก็ทำให้ความรู้สึกของการเล่น Sekiro ในรอบแรกหวนกลับมาอีกครั้ง (น้ำตาจะไหล....T^T)

      "หากโดนฟันก็จะยอมตายทันที" นี่คือกฏที่ผมตั้งไว้กับตัวเองในการสู้บอสทุกตัวในการเล่น Sekiro NG+2 และการทำแบบนี้ทำให้ความสนุกในการสู้บอสกลับมาอีกครั้ง ความตื่นเต้น ความลุ้นระทึกเสมือนเราจะตายได้ในทุกดาบ และเมื่อชนะผ่านมาได้แบบไร้รอยขีดข่วน มันรู้สึกฟินมากที่ตัวเราสามารถก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดของตัวเองมาได้ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเริ่มเล่น Sekiro ใหม่อีกครั้ง และทำให้ตัวผมเข้าใจแล้วว่า "การเสพติดความยาก" ของเกมมันเป็นยังไง

ความรู้สึกเมื่อพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ทำให้ตื่นเต้นกับการสู้อีกครั้ง

     แน่นอนว่าการโกงในเกม Single Player นั้นไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่คุณก็จะพลาดสิ่งสำคัญที่สุดที่ตัวเกมพยายามจะมอบให้กับคุณ ความท้อแท้สิ้นหวังและความรู้สึกที่ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเอง เหล่านี้จะหมดไปทันทีหากคุณเลือกที่จะทรยศความสามารถของตัวเอง สำหรับคนที่ยังไม่ผ่านก็อย่าเพิ่งท้อแท้แต่ลองสู้อีกสักตั้ง ซึ่งตัวผมก็อยากให้ทุกคนได้ลองฝืนขีดจำกัดของตัวเองดู เพราะถ้าคุณผ่านมันมาได้ คุณจะได้รับประสบการณ์ที่มีแต่คุณเท่านั้นที่จะรู้จริงๆ

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ