รู้จักกับ Rockman 2 ในฐานะภาคที่ยกระดับซีรีส์จนเป็นที่นิยมทั่วโลก

แชร์เรื่องนี้:
รู้จักกับ Rockman 2 ในฐานะภาคที่ยกระดับซีรีส์จนเป็นที่นิยมทั่วโลก

กาลเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ไม่น่าเชื่อนะครับว่าวันที่ 24 ธันวาคมปีนี้ จะเป็นวันครบรอบ 30 ปีของการวางจำหน่ายเกม Rockman 2 บนเครื่อง Famicom พอดี ซึ่งภาคดังกล่าวถือเป็นการยกระดับ และสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับซีรีส์นี้จนได้รับความนิยมไปทั่วโลก ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักกับ Rockman 2 กันเลยดีกว่าครับ

(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น

(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นยุโรป


การพัฒนาและความเป็นมา

- หลังจากที่ Rockman ภาคแรกวางจำหน่ายเมื่อปี 1987 ปรากฏว่าตัวเกมไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และยอดขายก็ไม่ดีพอที่จะให้มีการพิจารณาทำภาคต่อด้วย แต่คุณอากิระ คิตามุระ ผู้กำกับเกม Rockman ภาคแรกก็ได้แจ้งความต้องการกับทาง Capcom ไปว่าตนเองอยากทำภาคต่อของซีรีส์นี้ ทว่าคุณโทคุโระ ฟุจิวาระ ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ของ Rockman ภาคแรกกลับไม่เห็นด้วยกับคุณคิตามุระ ด้วยเหตุนี้ คุณคิตามุระเลยตัดสินใจเข้าพบรองประธานบริษัท Capcom เพื่อขออนุมัติในการทำภาคต่อ กระทั่งทาง Capcom ยอมอนุมัติให้คุณคิตามุระทำ Rockman 2 ได้ ภายใต้เงื่อนไขว่าทางทีมงานจะต้องพัฒนาเกมอื่นควบคู่กันไปด้วย กล่าวคือ ช่วงเวลานั้นทีมของคุณคิตามุระมีโปรเจ็กต์พัฒนาเกมอยู่ก่อนแล้ว พอได้รับอนุมัติโปรเจ็กต์พัฒนาเกม Rockman 2 ทีมพวกเขาเลยต้องเอาเวลาว่างที่เหลือจากการทำโปรเจ็กต์หลักมาพัฒนาเกม Rockman 2 ด้วยนั่นเอง ซึ่งสุดท้ายเกมนี้ก็ใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 3-4 เดือนจึงแล้วเสร็จ

- เมื่อครั้งที่มีการพัฒนาเกม Rockman ภาคแรก ทางคุณเคย์จิ อินาฟุเนะ ณ เวลานั้นได้รับหน้าที่เป็นผู้วาดและออกแบบตัวละครต่างๆ โดยในภาค 2 คุณอินาฟุเนะก็ได้รับเชิญให้มาร่วมมีส่วนในการพัฒนา Rockman 2 มากขึ้น ทว่าในภาคนี้เขาไม่ได้มีส่วนในการออกแบบพวกตัวละครที่เป็นบอสต่างๆ แล้ว เนื่องจากคุณคิตามุระอยากจะให้แฟนๆ จากทางบ้านได้มีส่วนร่วมกับตัวเกมบ้าง ก็เลยจัดกิจกรรมประกวด ด้วยการเปิดรับสมัครผลงานจากแฟนๆ ทั่วญี่ปุ่นให้วาดรูปบอสมาส่งกัน และก็มีผู้สมัครที่ส่งรูปมาเข้าร่วมประกวดมากถึง 8,370 ผลงานเลยทีเดียว ท้ายที่สุดแล้ว บอส 8 ตัวจากแฟนๆ ทางบ้านก็ได้ถูกรับเลือก แต่ทีมพัฒนาก็มีการปรับดีไซน์ของผู้เข้าประกวดเล็กน้อย ก่อนจะนำดีไซน์เหล่านั้นไปใช้จริงในเกมครับ

- ใครที่เห็นปกเกมเวอร์ชั่นอเมริกา (Mega Man 2) แล้วรู้สึกว่าทำไมลายเส้นมันคนละเรื่องกับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นแบบลิบลับ เรื่องมันมีที่มาจากคุณมาร์ค อีริคเซ่น ผู้วาดและลงสีให้กับปกเวอร์ชั่นอเมริกาได้กล่าวว่า สาเหตุที่ปกเวอร์ชั่นอเมริกาเป็นรูปร็อคแมนถือปืนพกแล้วยิงใส่ศัตรู ก็เพราะตอนที่เขาจะลงมือวาด เขาไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวร็อคแมนเลยสักอย่าง จึงไปถามคนที่อยู่ในตำแหน่งอาร์ตไดเร็กเตอร์ว่าร็อคแมนเขาใช้อาวุธอะไร ก็ได้รับคำตอบว่า น่าจะเป็นปืนพกนะ เพราะผมไม่เห็นว่ามีปืนไรเฟิลเลย จากนั้นคุณอีริคเซ่นก็ใช้เวลาประมาณ 1 วันครึ่งในการวาดและลงสีรูปปกเกม Mega Man 2 จนเสร็จ แต่พอมีคนทักว่าทำไมดีไซน์ของรูปถึงได้ต่างกับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นชนิดคนละเรื่อง คุณอีริคเซ่นก็ตอบว่า "นั่นไม่ใช่ความผิดผมมมม...เขาบอกให้ผมวาดร็อคแมนถือปืนพก ผมก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้นเฟ้ย"

(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นอเมริกา

- เกม Rockman 2 ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย โดยทำยอดขายทั่วโลกไปได้ 1.5 ล้านชุด ติดอันดับที่ 41 ของเกมที่ขายดีที่สุดของบริษัท Capcom และภาคนี้ยังเป็นเพียง 1 ใน 2 ภาคจากทั้งซีรีส์ที่สามารถทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านชุด (อีกภาคที่ทำยอดขายทะลุล้านชุดก็คือ Rockman 3) อีกทั้งแฟนๆ ต่างก็ยกให้ Rockman 2 เป็นหนึ่งในภาคที่ดีที่สุดของซีรีส์ด้วย นอกจากนั้นแล้ว เหล่านักวิจารณ์จากสื่อทั่วโลกก็ลงความเห็นว่า Rockman 2 มีข้อดีเหนือกว่าภาคแรกแทบทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นด้านกราฟิก ซาวด์ประกอบ ระบบพาสเวิร์ด และระบบไอเทมเสริม จะมีขัดใจบ้างก็ตรงที่ภาค 2 มีความยากน้อยกว่าภาคแรกเท่านั้น

- หลังจาก Rockman 2 วางจำหน่ายได้ไม่นาน คุณคิตามุระ ผู้กำกับ Rockman ภาค 1 และ 2 ก็ได้ถูกวางตัวให้ทำโปรเจ็กต์พัฒนาเกม Rockman 3 ต่อทันที แต่เจ้าตัวตัดสินใจที่จะลาออกจาก Capcom แล้วไปอยู่กับบริษัท Takeru พร้อมกับเริ่มพัฒนาเกม Cocoron เพื่อลงให้กับเครื่อง Famicom และ PC-Engine แต่สุดท้ายก็เกิดปัญหาบางอย่างทำให้มีเพียงเวอร์ชั่นเครื่อง Famicom เท่านั้นที่ถูกวางจำหน่าย และข่าวคราวเกี่ยวกับคุณคิตามุระก็ค่อยๆ ซาลงไปนับแต่นั้น

- สิ่งที่ชาวเกมเมอร์มักเข้าใจผิดกันอยู่บ่อยๆ ก็คือ ความจริงแล้วบิดาผู้ให้กำเนิดซีรีส์ร็อคแมนนั้นไม่ใช่คุณเคย์จิ อินาฟุเนะแต่อย่างใดนะครับ หากแต่เป็นคุณอากิระ คิตามุระนั่นเองที่เป็นผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Rockman ตัวจริง อย่างแรกเลยคือ ปกติคนญี่ปุ่นเขามักจะให้เครดิตคนที่กำกับเกมภาคแรกเป็นผู้ให้กำเนิดซีรีส์กัน และอีกสาเหตุคือ ปกติคนที่เราพบเห็นผ่านสื่อกันบ่อยๆ เวลามีข่าวคราวเกี่ยวกับซีรีส์ Rockman ในยุคโน้นก็มักจะเป็นคุณอินาฟุเนะซะเยอะ คนเลยติดภาพจำว่าคุณอินาฟุเนะเป็นผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Rockman ไปโดยปริยาย

- เพลงปราสาทด็อกเตอร์ไวลี่ด่านแรก (Dr. Wily Stage 1) ของเกม Rockman 2 กลายเป็น 1 ในเพลงประกอบเกมยอดฮิตที่ถูกชาวเน็ตนำมารีมิกซ์เป็นเวอร์ชั่นต่างๆ นับไม่ถ้วน ไล่มาตั้งแต่ บีทบ็อกซ์, อะแคปเปลล่า, ออเคสตร้า ฯลฯ เพื่อนๆ คนไหนอยากรู้ว่าซาวด์ต้นฉบับเป็นยังไง ลองฟังได้ที่คลิปด้านล่างครับ


เกมเพลย์

สิ่งที่ Rockman 2 มีการปรับปรุงขึ้นมาจากภาคแรกมีดังนี้

1. เพิ่มจำนวนบอส Robot Master จากเดิม 6 ตัวเป็น 8 ตัว โดยบอสที่ปรากฏในภาค 2 ก็ได้แก่ Bubble Man, Air Man, Quick Man, Heat Man, Wood Man, Metal Man, Flash Man และ Crash Man

2. นำระบบไอเทมพิเศษขึ้นมา 3 ชิ้น ได้แก่
- No.1 เป็นการสร้างแพลตฟอร์มให้ร็อคแมนขึ้นไปยืนกลางอากาศ และค่อยๆ ลอยไต่ระดับขึ้นไปได้ โดยจะสามารถสร้างได้ต่อเนื่องสูงสุด 3 ชิ้นในหน้าจอ
- No.2 เป็นการสร้างแพลตฟอร์มที่ให้ร็อคแมนขึ้นไปเหยียบแล้วเดินทางไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นต้นแบบให้กับ Rush Jet ในภาคหลังๆ
- No.3 เป็นการสร้างแพลตฟอร์มให้ร็อคแมนขึ้นไปยืนกลางอากาศ และค่อยๆ ลอยไต่ระดับขึ้นไปได้ แต่จะต่างกับ No.1 ตรงที่จำเป็นต้องปาใส่กำแพง เพื่อให้มันไต่ระดับไปตามกำแพงนั่นเอง

3. ใส่ระบบพาสเวิร์ดเข้ามา โดยเป็นการใส่จุดสีแดง 9 เม็ดลงไปในตารางขนาด 5 x 5 ซึ่งช่วยทำให้ผู้เล่นสามารถกลับมายังจุดที่เล่นค้างไว้ในรอบก่อนได้ โดยในภาคแรกนั้นผู้เล่นจะต้องเล่นแบบรวดเดียวจบ ไม่มีพัก เพราะตัวเกมไม่มีทั้งระบบพาสเวิร์ดและระบบเซฟเกมให้เลย

4. มีระบบ Energy Tank หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า "ถัง E" โดยถัง E จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเติมพลังชีวิตจนเต็มระหว่างเล่นได้ มีประโยชน์มากในการเจอบอสโหดๆ ทำให้เราไม่ต้องตายแล้วกลับไปเริ่มสู้ใหม่ ทั้งนี้ ใน Rockman 2 ผู้เล่นจะเก็บสะสมถัง E ไว้ได้สูงสุด 4 ถัง ทว่าถ้าหากผู้เล่นเกิดพลาดท่าเกมโอเวอร์ขึ้นมา ถัง E ที่เก็บมาทั้งหมดจะหายเรียบทันที

5. ตัดระบบการให้คะแนนออกไป ให้ผู้เล่นสามารถเสพอรรถรสของเกมอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมาห่วงเก็บไอเทมเพื่อปั่นคะแนนอีกต่อไปแล้ว


ความลับต่างๆ ในเกม

ความลับที่ 1

Rockman 2 ถือเป็นภาคแรกที่มีการนำระบบพาสเวิร์ดเข้ามาใช้ครับ แล้วเกมในยุคนั้นมักจะใช้การบันทึกข้อมูลเกมเพื่อกลับมาเล่นอยู่ 2 แบบ โดยแบบแรกคือการเซฟเกมปกติที่ในตลับเกมของเครื่อง Famicom ซึ่งจะมีชิพเก็บข้อมูลพร้อมกับการใช้ถ่านเซฟในการสำรองไฟ (ถ่านจะเป็นรูปทรงเดียวกับถ่านนาฬิกาข้อมือ ถ้าถ่านหมดก็ต้องแงะตลับเกมออกมาเปลี่ยนเอง) ส่วนแบบที่ 2 ก็คือการจดพาสเวิร์ดแบบในรูปด้านล่างครับ

ทีนี้ ระบบพาสเวิร์ดเกม Rockman 2 เนี่ย มันจะเป็นตารางแบบ 5 x 5 ช่อง พร้อมกับเม็ดสีให้เราวางเพียง 9 เม็ด ซึ่งในตารางแต่ละช่อง ทางผู้พัฒนาเกมเขาได้เขียนโปรแกรมเอาไว้หมดแล้วว่าหากเราใส่เม็ดสีลงไปในช่องไหน จะเกิดผลอย่างไรบ้าง ดังนี้

A1 - ไม่มีถัง E อยู่กับตัว 
A2 - มีถัง E จำนวน 1 ถัง
A3 - มีถัง E จำนวน 2 ถัง
A4 - มีถัง E จำนวน 3 ถัง
A5 - มีถัง E จำนวน 4 ถัง

B1 - ยังไม่เคลียร์ด่าน Crash Man
B2 - เคลียร์ด่าน Air Man
B3 - ยังไม่เคลียร์ด่าน Flash Man
B4 - เคลียร์ด่าน Metal Man

C1 - เคลียร์ด่าน Heat Man
C3 - เคลียร์ด่าน Quick Man
C4 - ยังไม่เคลียร์ด่าน Wood Man
C5 - เคลียร์ด่าน Flash Man

D2 - ยังไม่เคลียร์ด่าน Bubble Man
D3 - ยังไม่เคลียร์ด่าน Quick Man
D4 - เคลียร์ด่าน Crash Man
D5 - เคลียร์ด่าน Bubble Man

E1 - ยังไม่เคลียร์ด่าน Air Man
E2 - เคลียร์ด่าน Wood Man
E4 - ยังไม่เคลียร์ด่าน Heat Man
E5 - ยังไม่เคลียร์ด่าน Metal Man

ดังนั้น หากเราใส่เม็ดสีไปตามตำแหน่งที่ระบุไว้ข้างบน ก็จะสามารถล็อคผลให้เราเริ่มเล่นเกมโดยมีผลตามที่เราต้องการได้ทันที ยกตัวอย่างรูปด้านล่าง ซึ่งเป็นพาสเวิร์ดที่เมื่อกรอกแล้วเราจะไปโผล่ปราสาท ดร.ไวลี่ ด่านแรก พร้อมกับมีถัง E จำนวน 4 ถังอยู่กับตัว ขณะเดียวกัน สาเหตุที่ใครลองมั่วพาสเวิร์ดแล้วมันขึ้นว่า Error นั่นก็เป็นเพราะว่าคนๆ นั้นไปใส่เม็ดสีตรงตำแหน่งที่แสดงผลขัดแย้งกัน เช่น ใส่ B2 (เคลียร์ด่าน Air Man) แล้วยังไปใส่ E1 (ยังไม่เคลียร์ด่าน Air Man) ด้วย นั่นเอง จากระบบที่กล่าวมา ผู้เล่นจึงสามารถออกแบบและพลิกแพลงพาสเวิร์ดด้วยตัวเองได้หลากหลายวิธีตามใจชอบเลย (เช่นบางคนเกลียดเลเซอร์ในด่าน Quick Man ก็ไปกรอกพาสเวิร์ดให้ลงช่อง C3 และเลี่ยงที่จะไม่ลงเม็ดสีในช่อง D3 อะไรประมาณนี้)

(ล่าง) พาสเวิร์ดที่ช่วยให้เราเริ่มที่ปราสาท ดร.ไวลี่ ด่านแรก โดยมีถัง E อยู่กับตัวครบ 4 ถัง

(ล่าง) พาสเวิร์ดที่ช่วยให้เราเริ่มเกมตั้งแต่แรก แบบยังไม่ปราบบอสตัวใดเลย แถมยังมีถัง E อยู่กับตัวครบ 4 ถังด้วย ซึ่งในทางปฏิบัตินั้น หากเราไม่กรอกพาสเวิร์ดดังกล่าว เราจะไม่สามารถทำด้วยวิธีปกติได้ เนื่องจากภาค 2 นี้หากเราเกมโอเวอร์ปุ๊บ ถัง E ที่เราเก็บมาทั้งหมดจะหายไปทันที และภาคนี้ก็เป็น 1 ในไม่กี่ภาคที่ผู้เล่นไม่สามารถเข้าไปเล่นด่านใดซ้ำได้ถ้าปราบบอสไปแล้ว จึงทำให้ฟาร์มของในด่านเดิมด้วยการเก็บของแล้วปล่อยเกมโอเวอร์ หรือเก็บของแล้ววิ่งไปห้องบอสเพื่อหนีออกจากฉากไม่ได้นั่นเอง

ความลับที่ 2

ระหว่างที่เราสู้กับบอส Air Man ให้เราใช้ไอเทมหมายเลข 1 เพื่อสร้างแท่นให้เรากระโดดขึ้นไปเหยียบแล้วไต่ระดับขึ้นไปบริเวณกำแพงทางซ้ายของห้อง ถ้าเรากระโดดได้ถูกจังหวะ (ตามคลิปด้านล่าง) เกมจะเกิดอาการบั๊กและเราจะสามารถวิ่งทะลุประตูห้องบอสที่เราเข้ามาได้ จากนั้นเราจะมาโผล่ในฉากบั๊กที่มีโครงสร้างเหมือนฉากปราสาท ดร.ไวลี่ ด่าน 2 ทันที เพียงแต่การลุยในช่วงแรกจะลำบากหน่อย เพราะเราไม่มีไอเทมหมายเลข 2 ซึ่งใช้ผ่านพื้นหนามที่เป็นระยะทางยาวๆ ได้ (ไอเทมหมายเลข 2 ได้จากการปราบบอส Air Man) และถ้าเราเจ๋งพอจะบุกไปถึงโซนที่เป็นห้องบอสได้ จะพบว่าห้องนั้นเป็นห้องโล่งๆ ไม่มีบอสให้สู้ ต้องกดรีเซ็ตสถานเดียวจ้า

(ล่าง) คลิปการทำบั๊กในด่าน Air Man

ความลับที่ 3

ในฉากเลือกด่าน ถ้าผู้เล่นกดปุ่ม A และ B พร้อมกันค้างไว้แล้วกดเลือกด่าน พอตัดเข้าฉากที่เป็นบอสแอ็กท่าสวยๆ จะเห็นว่าแบ็คกราวด์ที่เป็นรูปดาวได้ถูกเปลี่ยนเป็นรูปนกแทนครับ ซึ่งนี่เป็น 1 ในอีสเตอร์เอ้กที่ทีมพัฒนาใส่มานั่นเอง เพื่อนๆ สามารถดูได้จากคลิปด้านล่างครับ

(ล่าง) คลิปการทำ Easter Egg ในหน้า Stage Select ของเกม Rockman 2

ความลับที่ 4

เป็นที่ทราบกันดีว่า อาวุธที่เราได้จากการปราบบอสต่างๆ จะมีจำนวนครั้งในการใช้มากน้อยไม่เท่ากัน อาทิ Quick Boomerang (ได้จากการปราบ Quick Man) จะสามารถยิงออกไปได้ 8 นัดต่อการใช้พลังอาวุธ 1 ขีด ส่วน Metal Blade (ได้จากการปราบ Metal Man) ก็จะยิงออกไปได้ 4 นัด ต่อการใช้พลังอาวุธ 1 ขีด ตลอดจน Bubble Lead (ได้จากการปราบ Bubble Man) ก็จะยิงออกไปได้ 2 นัด ต่อการใช้พลังอาวุธ 1 ขีด เป็นต้น ซึ่งในภาค 2 นี้จะมีทริคในการใช้อาวุธพวกนี้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งอยู่ครับ แต่วิธีจะแอบยุ่งยากนิดหน่อย นั่นก็คือ ยกตัวอย่างเช่น หากเรายิง Quick Boomerang ออกไปแล้ว 7 นัด (ถ้ายิงอีกนัดนึงจะเสีย 1 ขีด) ให้เรากดปุ่ม Start เข้าเมนู แล้วเลือกอาวุธ Quick Boomerang มาใช้อีกครั้ง เกมจะนับว่าพลังอาวุธของเรายังเต็มอยู่ และเราก็จะสามารถยิง Quick Boomerang ได้อีก 7 นัด แล้ววนด้วยทริคนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถสแปมอาวุธได้ไม่จำกัดครั้ง ทว่าทริคนี้จะไม่สามารถใช้ได้กับอาวุธที่กดยิงเพียงครั้งเดียวแล้วเสียพลังทันทีนะครับ

ความลับที่ 5

ก่อนที่เราจะเข้าไปสู้กับ Heatman ภายในห้อง ให้เราเปลี่ยนมาใช้อาวุธ Bubble Lead เสียก่อน จากนั้นก็เข้าห้องบอสไป ทีนี้ ท่าไม้ตายนึงของ Heat Man ที่มันชอบใช้ใส่เราเวลาเราอยู่ห่างจากมันก็คือท่าโยนลูกไฟ 3 ลูกครับ ถึงตอนนี้ให้เรายิง Bubble Lead ใส่มันแล้วกระโดดไปทางประตูที่เราเข้ามาก่อนที่ Bubble Lead จะไปถูกตัว Heat Man เกมจะเกิดอาการบั๊กแล้วเราจะมาโผล่ที่ปราสาท ดร.ไวลี่ ด่านแรกแทน แต่สีของฉากโดยรอบจะเป็นสีออกแดงๆ ซึ่งเป็นโทนเดียวกับสีของฉาก Heat Man ครับ

(ล่าง) คลิปการทำบั๊กในด่าน Heat Man

ความลับที่ 6

Metal Man หนึ่งในบอสที่เป็น Robot Master ของภาคนี้ เป็นบอสที่ประหลาดที่สุดของซีรีส์ครับ นั่นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นบอสที่แพ้อาวุธตัวเองซะงั้น หากเพื่อนๆ สามารถปราบ Metal Man แล้วได้อาวุธ Metal Blade ของมันมา จากนั้นเมื่อเล่นไปถึงปราสาทด็อกเตอร์ไวลี่ด่านที่ 5 ที่เป็นฉากที่มีแคปซูลบอส Robot Master ที่เราเคยปราบมาทั้ง 8 ตัวให้สู้อีกครั้ง ให้เพื่อนๆ ลองเอาอาวุธ Metal Blade ไปยิงใส่ Metal Man ดู จะพบว่าเพียงแค่ 2 นัดก็สามารถทำให้ Metal Man ตายได้ทันที ไวกว่าการใช้ Quick Boomerang ที่เป็นอาวุธแพ้ทางปกติของ Metal Man ด้วยซ้ำไป

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ