**บทความนี้มีการดัดแปลงและเรียบเรียงใหม่จากเว็บไซต์ http://www.link-cable.com/top-10-playstation-5-features-we-want/**
จากที่ทาง Sony เคยประกาศไปก่อนหน้าแล้วว่าวงจรชีวิตของเครื่อง PS4 นั้นกำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว ทำเอาเกมเมอร์ทั่วโลกต่างมองไกลไปถึง PS5 ว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และหากวางจำหน่ายออกมาจริง PS5 จะยังคงเป็นผู้นำตลาดเครื่องคอนโซลเหมือนที่ PS1, PS2 และ PS4 เคยทำไว้ได้หรือไม่ ทุกอย่างคงต้องปล่อยให้เป็นโจทย์หินของทาง Sony ต้องขบคิดกันต่อไป แต่กว่าจะถึงเวลาที่ PS5 ถูกเปิดตัวสู่สาธารณชน เรามาดูกันก่อนครับว่า 10 ฟีเจอร์ในฝันที่เกมเมอร์อยากให้มีบน PS5 ใจจะขาดนั้นมีอะไรบ้างกันแน่
1. ปรับแต่ง User Interface (UI) ได้อย่างอิสระ
บน PS4 นั้นผู้เล่นจะปรับแต่งได้แค่ธีมและวอลล์เปเปอร์ครับ แต่ไม่สามารถปรับหน้าเมนูให้เป็นไปตามที่เราถนัดได้ อารมณ์เรื่องนี้ก็คล้ายๆ กับเวลาเราปรับไอคอนแอพต่างๆ บนมือถือของเรานี่แหละ ถ้าเราปรับนั่นนี่โน่นได้ มันก็ดีกว่าปรับไม่ได้เลย จริงป่ะล่าาาา!
2. ไม่ต้องใส่ลูกเล่นให้จอยเยอะนักหรอก
จอย DualShock 4 ของ PS4 มีระบบทัชแพดที่ตอบสนองกับนิ้วผู้เล่นได้ดีครับ แถมยังมีระบบลำโพงที่หลายๆ เกมจะมีการให้เสียงตัวละครหรือเสียงเอฟเฟ็กต์ออกมาทางลำโพงบนจอยได้ แต่ไปๆ มาๆ ทัชแพดก็ไม่ได้ถูกใช้บ่อยขนาดนั้น จนผู้เล่นบางกลุ่มเสนอแนะว่าถ้ามี PS5 ออกมา ควรไปทำจอย DualShock 5 ให้ตอบสนองกับการกดปุ่มหรือหมุนอนาล็อกที่ดีขึ้น และมี Input Lag ที่น้อยที่สุดจะดีกว่า
3. ควรซัพพอร์ต PlayStation VR ให้มากขึ้น
แม้ว่า PlayStation VR จะออกมาได้เกือบ 2 ปีแล้วก็ตาม แต่บรรดาเกมที่ออกมาให้เล่นกับอุปกรณ์ตัวนี้ยังไม่มีไตเติ้ลใหญ่ๆ ระดับ AAA ให้เล่นด้วยมากพอนัก อีกทั้งภาพลักษณ์ของมันในสายตาเกมเมอร์ยังมองว่าเป็นเพียงอุปกรณ์เสริม ที่จะมีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เสียหาย หากจะมีการออก PlayStation VR รุ่นใหม่ออกมา ทาง Sony ต้องไปทำการบ้านมามากกว่านี้กว่าจะซัพพอร์ตต่อไปอย่างไร
4. เพิ่มเนื้อที่ HDD ให้มันเยอะๆ หน่อย
บน PS4 นั้น เนื้อที่ของ HDD จะมีอยู่เพียง 2 ขนาด คือ 500 GB กับ 1 TB ซึ่งเกมยุคนี้ลำพังแค่ Install เข้าไปสักเกมก็ผลาญเนื้อที่เฉลี่ยราวๆ 40-50 GB เข้าไปแล้ว ในขณะที่เกมเมอร์เองก็ไม่อยากไล่ลบเกมเพื่อเคลียร์เนื้อที่ให้เกมใหม่ๆ สักเท่าไหร่ เพราะวันดีคืนดีอยากหยิบเกมที่เคยลบไปแล้วมาเล่นอีกครั้งก็เสียเวลา Install อีก ถ้า PS5 จะใส่ HDD ที่มีความจุเยอะๆ สัก 2-3 TB เป็นอย่างน้อยก็คงสบายขึ้นเยอะ
5. ดวลกับผู้เล่นอื่นที่เล่นต่างแพลตฟอร์มได้
ช่วงงาน E3 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทาง Microsoft กับ Nintendo ได้จัดหมัดหนักใส่ Sony ด้วยการชูประเด็นการเล่นข้ามแพลตฟอร์มบนเกม Minecraft หรือ Fortnite แม้จะมีบางกระแสคัดค้านว่า เหตุที่ Sony ทำแบบนี้ก็เพราะว่าเป็นเรื่องปกติของผู้นำตลาดคอนโซลอยู่แล้วจึงไม่แปลกที่ Sony จะไม่เอาด้วย แต่ในสายตาของเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยกลับมองว่า Sony ควรหันมามองนโยบายเกมมิ่งแบบไร้พรมแดนดูบ้าง อาจจะได้ใจเกมเมอร์ขึ้นมาเป็นกอง ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทาง Sony ละครับ
6. ทำระบบออนไลน์ให้มันดีกว่านี้
จริงอยู่ที่ Sony ได้พยายามพัฒนาระบบออนไลน์บน PS4 ให้มีความเสถียรมากขึ้น มีฟีเจอร์ให้ทำบนระบบออนไลน์เยอะขึ้น ที่ต้องแลกมากับการเก็บค่าบริการผ่านระบบที่มีชื่อว่า PlayStation Plus แต่เมื่อเทียบกับ Xbox One ที่เป็นคู่แข่งแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าเซิร์ฟเวอร์ของ Xbox Live ยังถือไพ่เหนือกว่าอยู่ดี ถ้า Sony ไปแก้ลำมาตรงนี้ ก็ต้องคิดกลยุทธ์เด็ดๆ มานำเสนอผู้เล่นให้ว้าวขึ้นอีก เพราะขนาดเกมฟรีที่มีแจกรายเดือน เกมของบางเดือนก็ยังไม่เร้าใจมากพอให้กดโหลดเท่าไหร่เลย
7. Backwards Compatibility
Sony เองก็มีเกม PS1, PS2 และ PSP เจ๋งๆ อยู่มากมายนะครับ ซึ่ง PS3 เคยสามารถนำเกม PS1 ที่ซื้อใน PlayStation Store มาเล่นได้ แต่พอขึ้น PS4 ปุ๊บ ฟีเจอร์นี้กลับโดนตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย แม้ทาง Sony จะอธิบายว่าต้องการโฟกัสไปที่เกมใหม่ๆ ก็จริง แต่ถ้าใส่ระบบ Backwards Compatibility เข้ามา ยังไงมันก็ย่อมเป็นผลดีกับเกมเมอร์มากกว่าผลเสียแน่นอน ตรงนี้ก็ต้องดูว่าหากใส่มาแล้ว Sony จะยังคุมราคาให้ขายแบบไม่แพงไว้ได้อยู่หรือไม่
เครดิต: Link-cable