เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา ภายในงาน Marvel's Spider-Man Media Preview Event ที่จัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นอกจากที่ทางทีมงาน OS ได้มีโอกาสเข้าไปทดลองเล่นเดโมเกม Marvel's Spider-Man ว่าที่เกมฟอร์มยักษ์ของ PS4 ที่มีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 7 กันยายนที่จะถึงนี้แล้ว ก็ยังมีช่วงสัมภาษณ์พิเศษคุณเจมส์ สตีเวนสัน (James Stevenson) ตำแหน่ง Community Director จาก Insomniac Games ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกม Marvel's Spider-Man ถึงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเกมดังกล่าวด้วย เรามาชมบทสัมภาษณ์กันเลยดีกว่าครับ
Q: ผมแปลกใจมากๆ เลยที่พวกคุณสามารถสร้างเกมให้มีทั้งความยากและความสนุกในเวลาเดียวกันได้ อยากทราบว่ามีแรงบันดาลใจอย่างไรบ้างครับ?
เจมส์: เราอยากจะให้ผู้เล่นทุกคนมีตัวเลือกของแต่ละคนครับ เพราะผู้เล่นบางคนก็อาจจะชอบเสพเนื้อเรื่องเป็นหลัก ก็อาจจะเลือกเล่นแบบง่ายๆ หน่อยเพื่อนที่จะดูเนื้อเรื่องได้อย่างเต็มที่ ส่วนบางคนที่ชอบเล่นเกมยากๆ หรือชอบเล่นเกมแอ็กชั่น ก็จะมีตัวเลือกสำหรับรองรับความชอบนั้นได้เช่นกัน
Q: ด้วยความที่ระบบการเคลื่อนไหวในภาคนี้มีความคล่องตัวสูงมาก อยากทราบว่าทางคุณมีแรงบันดาลใจอย่างไรในการออกแบบการเคลื่อนไหวในเกมนี้ และระบบการเคลื่อนไหวที่ออกแบบมานั้นมีความสอดคล้องกับการออกแบบแผนที่ในเกมอย่างไรบ้าง?
เจมส์: ในเรื่องของแรงบันดาลใจนั้น เริ่มแรกพวกเราจะลองย้อนกลับไปดูจากเกมก่อนๆ ที่พวกเราเคยพัฒนามา และนำแรงบันดาลใจหลายๆ ส่วนมาจากเกมเหล่านั้น โดยหลักๆ ก็คือเกม Sunset Overdrive ครับ ซึ่งหลักสำคัญที่พวกเรายึดถือมาตลอดการพัฒนานั้นก็คือ การให้ผู้เล่นสามารถเรียนรู้ระบบเคลื่อนไหวนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน การเคลื่อนที่นั้นก็ต้องดูมีมิติ มีความลึก และต้องคำนึงถึงกฎฟิสิกส์และหลักความเป็นจริงอยู่เสมอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ไม่อยากให้ผู้เล่นรู้สึกลำบากจนเกินไป เพราะเราเองก็อยากจะให้ผู้เล่นทุกคนได้ดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่องในลักษณะเดียวกัน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีมากๆ ก็คือปุ่ม R2 ครับ โดยเมื่อเรากดปุ่ม R2 ค้างเอาไว้ ตัวละครที่เราควบคุมก็จะเคลื่อนที่โดยอัตโนมัติ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำอยากทำอะไรก็ตาม แค่กดปุ่ม R2 ค้างเอาไว้ ตัวละครของคุณก็จะสามารถเคลื่อนที่ไปได้อย่างต่อเนื่องครับ
ส่วนในเรื่องของออกแบบแผนที่นั้น ผมอยากจะยกตัวอย่างให้เห็น 2 ตัวอย่างครับ อย่างแรกก็คือเมืองนิวยอร์คหรือเกาะแมนฮัตตันซึ่งเราได้ทำการสำรวจในเดโมมาก่อนแล้วครับ การออกแบบขนาดและรูปร่างของตึกนั้นจะเน้นไปที่เรื่องของความสูง ซึ่งจะสูงกว่าตึกที่มีอยู่จริงๆ พอสมควร ตึกเหล่านี้จะทำให้ผู้เล่นสามารถใช้โหนไปไหนมาไหนได้ และยังทำให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นแลนมาร์คต่างๆ ภายในเมืองได้อย่างทั่วถึง ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละครับที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า นี่แหละคือเมืองนิวยอร์คจริงๆ ส่วนอีกตัวอย่างหนึ่งก็คือการสร้างทางหนีไฟที่ถือเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนิวยอร์คครับ ส่วนนี้เป็นส่วนที่ยากเอาการเลย โดยเฉพาะเวลาที่สไปเดอร์แมนจำเป็นต้องเดินทางผ่านจุดเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ปีนข้ามตึกหรือไต่กำแพง ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาในขั้นตอนการออกแบบมาก จนกระทั่งทีมงานหลายคนเสนอให้ตัดส่วนนี้ออกไปเลย แต่ถ้าพวกเราตัดออกไปจริงๆ มันก็จะดูไม่เหมือนเมืองนิวยอร์คเสียอย่างนั้น ทำให้การออกแบบทางหนีไฟนี้กินเวลานานพอสมควรเลยครับ
Q: จากข้อมูลที่บอกมาว่าเกม Marvel's Spider-Man นี้จะไม่มีเนื้อหาเชื่อมโยงกับคอมิก เกม หรือหนังที่เคยมีฉายไปแล้ว เหตุใดทีมงานจึงตัดสินใจให้เป็นเช่นนั้น?
เจมส์: ก่อนอื่นขอบอกเลยนะครับว่าทางทีม Insomniac นั้นเป็นแฟนตัวยงของ Spider-Man เลย และเราก็ได้นำประสบการณ์จากการสร้างเกมอื่นๆ อย่าง Resistance, Sunset Overdrive และ Ratchet & Clank มาผสมรวมกับความชื่นชอบในตัว Spider-Man จากสื่อต่างๆ อย่างการ์ตูน The Ultimate Spider-Man ที่พวกเราชื่นชอบกันมากครับ ส่วนเหตุผลที่เราเลือกไม่ทำเนื้อเรื่องต้นกำเนิดของสไปเดอร์แมนนั้น เป็นเพราะผมเชื่อว่าทุกคนคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าเรื่องราวของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ในวัย 15 ปี หรือเรื่องราวต้นกำเนิดของสไปเดอร์แมนนั้นเป็นอย่างไร และผมก็คิดว่าการสร้างเรื่องราวของปีเตอร์ในวัย 23 ปีนั้นจะเป็นโอกาสให้ทุกคนได้เห็นสไปเดอร์แมนแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนครับ
Q: ในเมื่อตัวเทรลเลอร์นั้นมีการโชว์ให้เห็นตึกของ Avengers อยากทราบว่าจะมีโอกาสได้เห็นฮีโร่คนอื่นๆ ปรากฏตัวออกมาในเกมนี้หรือในอนาคตมั้ยครับ?
เจมส์: ในเกมนี้เราคงจะโฟกัสไปที่ตัวสไปเดอร์แมนเป็นหลักครับ แต่ผมว่าแฟนๆ คงจะรู้สึกแปลกๆ แน่หากในเมืองนิวยอร์คนั้นไม่มีสถานที่สำคัญๆ ที่ปรากฏในจักรวาลมาร์เวล ดังนั้นตึก Avengers ก็เลยเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้แฟนๆ ได้รู้สึกว่ายังอยู่ในจักรวาลของมาร์เวลอยู่นะ แต่โดยรวมแล้ว ตัวละครที่พวกคุณจะได้เจอจะเป็นตัวละครที่มาจากซีรีส์ Spider-Man เป็นหลักครับ
Q: อย่างที่ทราบกันดีว่าในเกมภาคนี้จะมีตัวร้ายจากเรื่องสไปเดอร์แมนโผล่มาหลายตัวด้วยกัน อยากทราบว่าถ้าเกิดผู้ที่เล่นเกมนั้นไม่ได้ติดตามการ์ตูนหรือดูหนังของมาร์เวลมาก่อน จะสามารถเข้าใจและอินไปกับเกมได้เหมือนกับคนอื่นๆ มั้ยครับ?
เจมส์: เราพยายามสร้างเกมของเราให้ตอบโจทย์กับผู้เล่นในทุกๆ รูปแบบครับ ซึ่งสำหรับคนที่เคยดูหนังมาก่อน และตกหลุมรักสไปเดอร์แมนในจักรวาล MCU หรือในภาพยนตร์ภาค Homecoming แล้ว เกมๆ นี้ก็จะให้ประสบการณ์แบบสไปเดอร์แมนขนานแท้เหมือนกันครับ และตัวร้ายบางตัวเองก็จะมีความโดดเด่นมากกว่าตัวอื่นๆ อย่างเช่น Mister Negative นั้นก็มีความโด่งดังในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นตัวละครที่ "ใหม่" อยู่สำหรับใครที่ไม่ได้ตามคอมิคมานานราวๆ 8-9 ปี หรือถ้าหากใครที่เป็นแฟนของคอมิคมาก่อนแล้ว ทางเราก็ได้ใส่ Easter Egg ต่างๆ เอาไว้ในเกมให้ได้ลองค้นหากันครับ นอกจากนี้ เราเองก็กำลังพยายามทำเนื้อเรื่องหรือการแนะนำตัวละครให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายด้วย
Q: ด้วยความที่เป็นเกมเกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่เหมือนกัน หลายๆ คนจึงมักจะนำเกม Spider-Man นี้ไปเทียบกับเกมซูเปอร์ฮีโร่เกมอื่นๆ อย่างเกมในซีรีส์ Arkham ของทาง Rocksteady อยากทราบว่าทางคุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างครับ?
เจมส์: จริงๆ แล้วผมแอบรู้สึกภูมิใจและชื่นใจเหมือนกันนะครับที่หลายๆ คนมองแบบนี้ เพราะสำหรับตัวผมแล้ว ผมคิดว่าเกม Batman นั้นเป็นเกมที่เยี่ยมยอดและให้ความรู้สึกแบบ Batman ที่ชัดเจนมากๆ เลยละครับ และผมก็อยากให้เกม Spider-Man ของเราได้รับกระแสตอบรับแบบนั้นบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ระบบหลักๆ ของตัวเกมนั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยครับ เกม Spider-Man ของเรานั้นจะเน้นไปที่ความรวดเร็ว เน้นกายกรรม เน้นใช้ท่วงท่าและเทคนิคต่างๆ ในการจัดการกับศัตรู เช่นการกระโดดหรือการยิงใยแมงมุม ซึ่งต่างจากเกม Batman ที่เน้นใช้กำลังเป็นหลัก อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของฉากหลังที่จะเป็นตอนกลางวันแทนครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็ยังรู้สึกว่าถ้าเกิดผู้เล่นได้เล่นเกมของเราแล้วรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่ได้เล่นเกม Batman ผมจะรู้สึกชื่นใจและดีใจเป็นอย่างมากเลย
Q: อยากทราบว่าในการพัฒนาเกมนี้ ทาง Insomniac Games ได้รับข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์จากทางมาร์เวลบ้างครับ พอจะชี้แจงในจุดนี้ได้มั้ย?
เจมส์: ในระหว่างการพัฒนาเกมนี้ ทาง Insomniac กับมาร์เวลนั้นได้ร่วมมือกันทำงานอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะออฟฟิศของทางมาร์เวลนั้นอยู่ห่างจากสำนักงานของพวกเราแค่ 10 นาทีเท่านั้น พวกเราก็เลยได้เจอและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่บ่อยๆ ประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์เลยล่ะ จะบอกว่าเราร่วมมือกันแทบทุกด้านเลยก็ได้ และทางคุณ Rosemann จาก Marvel Games ก็เคยให้ไอเดียพวกเราเอาไว้ด้วยว่า ไอเดียหลักๆ ที่ถือเป็นส่วนสำคัญของเกมนี้เลยก็คือการที่โลกสองโลกของทั้งสไปเดอร์แมนและปีเตอร์ ปาร์คเกอร์มาบรรจบกัน หรือก็คือโลกของสไปเดอร์แมนที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ และโลกของปีเตอร์ที่เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ ครับ หรือจะเป็นในส่วนของเนื้อเรื่องของ Mister Negative ซึ่งมีความใกล้ชิดกับปีเตอร์เป็นอย่างมาก เพราะป้าเมย์ที่คอยดูแลปีเตอร์อยู่นั้นก็ทำงานอยู่ที่องค์กรการกุศลที่ Mister Negative ดูแลอยู่ ซึ่งทำให้หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของปีเตอร์นั้นสับสนวุ่นวายไปหมด นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของ Mary Jane หรือ MJ ที่เป็นแฟนเก่าของสไปเดอร์แมน และตัวเธอก็กำลังทำสกู๊ปเชิงสืบสวนกรณีนี้อยู่พอดี ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็จะเป็นเหมือนการควบรวมเรื่องราวของทั้งสไปเดอร์แมนและปีเตอร์เข้าด้วยกันนั่นเอง
Q: อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในระหว่างการพัฒนาเกมครับ?
เจมส์: ด้วยความที่ Spider-Man นั้นเป็นเรื่องที่แฟนๆ รักมากที่สุดเรื่องหนึ่ง และฐานแฟนๆ เองก็มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกเลยนับตั้งแต่การ์ตูนเรื่องนี้ถือกำเนิดขึ้นมา ซึ่งสำหรับพวกเราแล้ว การจะทำเกมให้สามารถสนองความคาดหวังของแฟนๆ ได้อย่างทั่วถึงนั้นถือเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มากเลยล่ะครับ และสำหรับ Insomniac Games แล้ว เกมนี้ถือเป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างมาเลย และยังมีองค์ประกอบอยู่เยอะมากๆ ทั้งในส่วนของเนื้อเรื่อง ระบบต่างๆ อย่างการเคลื่อนที่ อุปกรณ์ต่างๆ แถมยังใช้เวลาในการพัฒนานานมากๆ ด้วยครับ โดยรวมแล้ว สิ่งที่จัดว่าท้าทายที่สุดก็คือการตอบรับความคาดหวังของแฟนๆ ครับ