สำหรับหลายๆ คนแล้ว การเล่นเกมนั้นเป็นได้ทั้งงานอดิเรก ความชอบ หรือการฆ่าเวลาไปเรื่อย ซึ่งเกมส่วนมากก็มักจะมีเนื้อหาที่เน้นไปทางด้านสนุกสนาน ตื่นเต้น น่ากลัว หรือแม้กระทั่งเบาสบายผ่อนคลายสมอง แต่ในหมู่เกมที่ออกมามากมายก่ายกองในทุกวันนี้ก็มีเกมจำนวนไม่น้อยที่ชวนเครียดจนบางทีต้องหยุดพักมาดมยาดม ซึ่งคำว่าเครียดในที่นี้ก็ไม่ได้หมายถึงเกมที่ยากเพียงอย่างเดียวนะคะ เพราะสำหรับบางเกมแล้ว เนื้อหาหรือเนื้อเรื่องของตัวเกมก็เป็นสิ่งที่ทำให้สมองตึงเปรี๊ยะได้เหมือนกัน ว่าแต่มีเกมไหนบ้างหนอที่ชวนเครียดจนต้องกุมขมับเล่น ลองไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. This War of Mine
หากพูดถึงเกมที่ทำให้เครียดหรือจิตตกแล้ว เชื่อว่าเกม This War of Mine ต้องเป็นเกมที่อยู่ในลำดับต้นๆ สำหรับคนที่เคยได้เล่นมาแล้วอย่างแน่นอน ตัวเกมนั้นเป็นเกมแนว survival จำลองการเอาชีวิตรอดในช่วงสงคราม โดยตัวเกมตั้งคำถามกับผู้เล่นว่าคุณจะทำอย่างไรบ้างถ้าหากต้องติดอยู่ในสงครามกลางเมือง จะทำยังไงบ้างเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด ซึ่งการที่จะทำแบบนั้นได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ เพราะในเกมนั้นมีสถานการณ์หลายแบบที่บีบคั้นจิตใจของผู้เล่นแบบสุดๆ ทั้งการให้เลือกว่าเราจะฆ่าคนแก่ตาดำๆ เพื่อชิงเอายาและอาหารมาหรือไม่ จะแบ่งทรัพยากรที่มีอยู่เพียงน้อยนิดอย่างไร ไหนจะต้องเผชิญหน้ากับผลกรรมของการกระทำที่เราได้เลือกไปอีก ซึ่งความสมจริงเหล่านี้แหละที่ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ทำให้ผู้เล่นจิตตกมานักต่อนักแล้ว
2. Dark Souls series
ถ้าพูดถึงเกมที่ยากจนชวนปวดหัวแล้ว ต้องยกให้ซีรีส์ Dark Souls เขาเลยค่ะ สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์แล้ว เกมนี้อาจจะเป็นเหมือนขนมหวานให้แฟนๆ ได้เสพย์ได้เรื่อยๆ แต่สำหรับเกมเมอร์ปุถุชนทั่วไปที่ต้องการเล่นเกมเพื่อคลายเครียดแล้ว เกมนี้อาจจะกลายเป็นยาขมไปเลยก็ได้ค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่คุณต้องสู้กับบอสตัวเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นสิบๆ รอบ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังฆ่ามันไม่ตายเสียที แถมยาที่สะสมมาก็ดันมาหมดอีก ไหนจะเวลามีคนมาบุกโลกของเราอีก บ๊ะ! แค่พูดก็เครียดแล้ว!!
3. Papers, Please
Papers, Please เป็นเกมอินดี้แนว Puzzle ที่โด่งดังจนได้ลงแพลตฟอร์มถึงหลายแพลตฟอร์มด้วยกัน เกมนี้จะให้เราได้รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศคอมมิวนิสต์ที่ชื่อว่า Arstotzka สิ่งที่เราต้องทำก็จะมีตั้งแต่ตรวจพาสปอร์ตให้ตรงกับผู้เดินทาง ไปจนถึงตรวจตราดูเอกสารต่างๆ และตัดสินว่าจะให้คนคนนี้เข้าไปเหยียบในประเทศหรือไม่ ซึ่งความถูกผิดของงานเรานั้นก็จะส่งผลต่อเงินเดือนที่เราจะต้องนำไปใช้เลี้ยงดูลูกเมียของตัวเรา เพราะฉะนั้นหากทำผิดเยอะๆ ย่อมหมายถึงความแร้นแค้นที่จะตามมาอย่างแน่นอน
ความเครียดของเกมนี้อยู่ที่ระดับความยากของตัวเกมที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการดำเนินเรื่อง ไหนจะมีช้อยส์ที่ส่งผลต่อจิตใจของเราโผล่มาอีก แต่ที่บีบคั้นสุดๆ ก็คือการที่เราต้องตรวจรายละเอียดต่างๆ แข่งกับเวลาที่แล่นอยู่ตลอดเวลาค่ะ ยิ่งช่วงหลังๆ ที่เราต้องตรวจเอกสารแบบละเอียดยิบไม่มีพลาดนั้น อื้อหือ เครียดอย่าบอกใครเลย ผมยังต้องหาเงินไปรักษาเมียที่ป่วยอยู่นะครับ!!
4. The Walking Dead
เกมแนว story-telling สุดโด่งดังจากค่าย Telltale ซึ่งแน่นอนว่าเพียงแค่เนื้อเรื่องเพียวๆ ก็สนุกจนบรรยายไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ แต่นอกจากความสนุกที่ได้รับนั้น ต้องบอกเลยว่าความเครียดที่ได้ก็ไม่ใช้น้อยเช่นกัน แม้จะไม่ได้เครียดในทุกช่วงจังหวะ แต่ในยามที่มีตัวละครที่รักตัวใดตัวหนึ่งตายขึ้นมา เป็นใครก็ต้องทั้งเครียดทั้งจิตตกกันทั้งนั้น ยิ่งตัวเลือกทุกตัวดันส่งผลกระทบต่อตัวเกมทั้งหมดด้วยแล้ว จะเลือกอะไรทีนี่ต้องนั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิดกันเลยทีเดียว ไม่งั้นเกิดเลือกแล้วตัวละครตายขึ้นมานี่... แน่จนบรรยายไม่ถูกเลยล่ะค่ะ แถมตัวเลือกช่วงภาคหลังๆ มานี่ยังบีบคั้นหัวใจเอามากๆ เสียด้วย...
5. Overwatch
สำหรับอันดับสุดท้ายนี่อาจจะดูแตกต่างจากเพื่อนไปสักหน่อย เพราะโดยเนื้อแท้ของตัวเกมแล้วไม่ได้ชวนเครียดแต่อย่างใดเลยค่ะ แต่มั่นใจว่าใครหลายคนที่เคยเล่นเกมนี้จะต้องมีช่วงที่อยากตะโกนทึ้งหัวกันบ้างแน่ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่มือเราตกเอามากๆ แล้วโดยเพื่อนร่วมทีมจิกกัดเข้าให้ หรือในตอนที่โดนวลีศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นต้นด้วยตัวจีสองตัวตอนท้ายเกมเข้า ระดับความเครียดนี่พุ่งปรี๊ดกันเลยทีเดียวค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ 5 เกมที่เครียดจนต้องหยุดพักมานั่งดื่มน้ำเย็นๆให้สมองคลาย แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ เคยเล่นเกมไหนแล้วเครียดจนอยากร้องตะโกนออกมาบ้างหรือเปล่า มาแชร์กันได้ในช่องคอมเม้นต์เลยค่า
เครดิต: Gamesradar