ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาแค่ในประเทศเราอย่างเดียวนะครับกับการที่สื่อสมัยใหม่อย่างเกมจะถูกมองในแง่ลบหรือถูกมองข้ามโดยสัมบูรณ์ไปจากผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆ คน ไล่ตั้งแต่สถาบันเล็กๆ เช่นผู้ปกครองในครอบครัวไปจนถึงสเกลระดับประเทศ ที่ทุกวันนี้เรายังคงเห็นสงครามนํ้าลายถ่มถุยกันไปมาบนโลกโซเชี่ยลกันอยู่เนืองๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้ภายนอกเราจะเห็นว่าอุตสาหกรรมเกมของเมืองนอกใหญ่โตเพียงใดก็ตาม
ดังที่เราสามารถมองเห็นได้จากคลิปวิดีโอตัวล่าสุดจากทาง Ubisoft ซึ่งปล่อยผ่านทางเพจไปเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคมที่ผ่านมาในหัวเรื่องที่ว่า “แม่ครับ พ่อครับ ผมอยากทำงานในบริษัทเกม” โดยเป็นการนำพนักงานในบริษัทมาพูดถึงโมเม้นท์ในการแจ้งกับครอบครัวว่าพวกเขาจะมาทำงานกับ Ubisoft ซึ่งเป็นบริษัทเกม และเราก็จะได้เห็นกันว่าบางคนผู้ปกครองต่อต้าน บางคนไม่กล้าบอก เพียงน้อยนิดเท่านั้นที่ครอบครัวสนับสนุน สะท้อนให้เห็นว่าแม้ในต่างประเทศ เกมเองก็ยังไม่สามารถเป็นสื่อที่เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย ยังคงมีคนที่ไม่เข้าใจรวมถึงต่อต้านอยู่ชนิดที่แทบไม่ต่างจากเราสักเท่าไหร่
กระนั้นเหล่าพนักงาน Ubisoft ก็มีวิธีแก้ไขสถานการณ์ต่างกันไป พวกเขาดูจะเข้าใจว่าช่องว่างระหว่างวัยหรือความต่างของเจอเนอเรชั่นนั้นมีความหมายเพียงใด ดังนั้่นสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีจุดร่วมเดียวกันก็คือ “การตัดสินใจทำตามฝันหรือทำในสิ่งที่อยากทำ” ทั้งนี้ก็ไม่ใช่การกระทำเพื่อแสดงความต่อต้านผู้หลักผู้ใหญ่ แต่เพื่อพิสูจน์ให้คนยุคก่อนหน้าได้เห็นจัดชัดเจนว่าคนรุ่นพวกเขาก็มีที่ทางในรูปแบบต่างออกไปและสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต่างกัน
ย้อนกลับมาที่ประเทศไทย มันดูจะเป็นปัญหาไม่น้อยสำหรับคนรุ่นใหม่ที่พยายามจะนำเสนอแง่มุมด้านบวกของเกมโดยที่ทำเป็นมองไม่เห็นผลเสีย เพื่อจะให้เกมมีพื้นที่ในหน้าสื่อและได้รับการยอมรับโดยเร็วที่สุด ขณะที่ผู้ใหญ่ก็จะอ้างความ “เป็นห่วงเป็นใย” พร้อมใช้ความอาวุโสชีวิตเข้าข่มพลางชี้นิ้วบอกว่าอันนู้นดีอันนี้ดี โดยที่ก็ไม่ยอมลงมาสัมผัสด้วยตัวเองว่าโลกยุคใหม่มันเป็นอย่างไร
“การพบกันครึ่งทาง” ควรเป็นทางออกที่ใช่ แต่มันกลับกลายเป็นคำพูดสวยหรูในอุดมคติทันทีเมื่อไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมลดราวาศอกให้แก่กัน ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลที่ได้เจอมา ก็ไม่แปลกที่เด็กๆ รุ่นใหม่ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่ายกว่าร้านขายของชำ จะตั้งคำถามต่อสภาวะแวดล้อมของประเทศที่เขาอาศัยอยู่ว่า ทำไมมันต้องเป็นแบบนั้น ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ “ทีประเทศ…ยังทำได้เลย”
ก็พูดยากนะครับ แต่เมื่อได้รับชมคลิปของทาง Ubisoft ทำให้มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างมนุษย์คนละเจนนั้นกระจายตัวอยู่ทั่วโลก เนื่องจากเกมเป็นอุตสาหกรรมความบันเทิงยุคใหม่ที่เพิ่งมีตัวตนไม่กี่สิบปีมานี้ แถมด้วยความเป็นอินเตอร์แอคทีฟ ผู้เสพย์สื่อชนิดนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับตัวสื่อได้มากกว่าภาพยนตร์หรือละคร (ไม่ใช่แค่ดู แต่บังคับได้) จึงไม่น่าแปลกใจที่คนยุคสมัยเก่าหลายๆ คนจะนึก “หวาดระแวง” สิ่งที่ไม่เคยมีตัวตนในยุคของเขา ขนาดว่าอุตสาหกรรมเกมของเมืองนอกเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ มีบริษัทระดับโลกมากมาย คนวงการเกมก็ยังไม่วายถูกค่อนขอด ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นจึงไม่ได้หายไปไหน แค่เจือจางไปบ้างก็เท่านั้น
ความน่าสนใจในคลิปจึงเป็นการดูวิธีแก้ไขปัญหาของพวกเขา ซึ่งในกรณีนี้คือการจะบอกกับพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างไรว่าพวกเขาได้เข้าทำงานในวงการเกม บางคนเลือกจะพูดคุยตรงๆ บางคนเลือกจะไม่บอก เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พ่อแม่สนับสนุน แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งหมดก็ยังคงทำงานในแวดวงวิดีโอเกม และพวกเขาก็ไม่ได้แตกหักกับผู้ปกครองอย่างรุนแรงแต่อย่างใด หนำซํ้ายังกลับมาภูมิใจอีกด้วย นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเหล่านี้ทำตัวเองให้ “ชัดเจน” ครับ ชัดเจนในแง่ที่ว่า “รู้ว่ากำลังทำอะไร”, “รู้ว่าอยากทำอะไร” และสำคัญที่สุดคือ “มีเงินเลี้ยงตัวเองได้” โดยส่วนตัวกับบริบทของสังคมโลกยุคนี้ ผมคิดว่าอย่างหลังสำคัญสุดเพราะการสามารถทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ก็จะสัมพันธ์ไปถึงอนาคตเบื้องหน้าว่าคุณจะไม่ลำบาก เช่นนั้นแล้วคลิปนี้จาก Ubisoft จึงไม่ใช่แค่คลิป PR บริษัท แต่มันยังให้แรงบันดาลใจรวมถึงข้อคิดแก่ผู้รับชมอีกด้วย
พูดคุย – ชัดเจน – พิสูจน์ตัวเอง น่าจะเป็นสูตรที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผู้ปกครองเข้าใจในโลกที่คุณอยุ่มากขึ้นนะครับ จำกัดความง่ายๆ กันหน่อย พูดคุย คือการหาเวลาคุยกับผู้ปกครอง จะตกลงเวลาเล่นเกม นำเสนอโลกเกมให้พวกท่านได้เข้าใจ หรือลองชวนท่านๆ มาเล่นเกมด้วยกันก็ได้เพื่อให้พวกท่านซับซับทีละนิดว่าเกมไม่ได้อันตรายขนาดนั้น แต่จุดนี้อย่ารีบหรืออย่าบังคับ ค่อยๆ ตอดไปครับ ส่วน ชัดเจน ก็สามารถตีความได้หลากหลายแล้วแต่บริบทและใช้ได้ในหลากสถานการณ์ ซึ่งการชัดเจนในตัวเองเป็นการสร้างคาแรคเตอร์ของเราขึ้นมาในความคิดของคนอื่นๆ ครับ ยิ่งคุณชัดเจนมากเท่าไหร่ คนรอบข้างก็จะมีความเข้าใจในความเป็นตัวคุณมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายคือ พิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ว่าการเล่นเกมไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณเหลว การทำงานในวงการเกมก็หาเลี้ยงตัวเองได้ พิสูจน์ให้ผู้ปกครองคุณเห็นชัดๆ ว่าการเล่นเกมไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณมอดมลายทั้งยังสร้างที่ทางอนาคตได้อย่างภาคภูมิใจ
หากพาพวกท่านมาเจอกันตรงกลางไม่ได้ จงต่อต้านแต่อย่าก้าวร้าว ชัดเจนในตัวเอง มีเหตุมีผล และพิสูจน์ให้พวกท่านเห็นครับ
